TIDLOR
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

**สรุปผลประกอบการของ หุ้น TIDLOR บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2568**

**สรุปสั้น:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568, เงินติดล้อมีกำไรสุทธิ 1,415.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โดยเพิ่มขึ้น 43.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ 8.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การเติบโตนี้มีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันคุณภาพสินเชื่อ รวมถึงการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิต และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ NIM อยู่ที่ 16.01%, NPL อยู่ที่ 1.66%, และ Coverage Ratio อยู่ที่ 283.9% (หน้า 1)

**เศรษฐกิจ:**
เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2568 ฟื้นตัวอย่างชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกที่อ่อนตัวลงและการชะลอตัวของผลผลิตภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น การค้าปลีกและการขนส่ง ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงทรงตัว ภาคการท่องเที่ยวยังคงปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวราว 2.2% และ 1.6% ในปี 2569 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% (หน้า 2-3)

**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
รายได้รวมของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น 5.7% (YoY) เป็น 5,927.7 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 4,912.0 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 8.8% เป็น 944.1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 4.9% (YoY) เป็น 4,157.1 ล้านบาท โดยหลักมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิต อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost-to-Income Ratio) อยู่ที่ 55.4% (หน้า 1, 4)

**สินเชื่อและสัดส่วน:**
พอร์ตสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 107,324.2 ล้านบาท เติบโต 4.5% (YoY) และ 1.3% (QoQ) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio) ลดลงมาอยู่ที่ 1.66% จาก 1.78% ในไตรมาสก่อนหน้า อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Coverage Ratio) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 283.9% อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อ (Credit Cost) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 2.2% (หน้า 1, 4)

**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
กลุ่มบริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าอย่างมีคุณภาพภายใต้นโยบายการปล่อยสินเชื่อที่รอบคอบ โดยการเติบโตมาจากทั้งช่องทางสาขากว่า 1,865 แห่ง และจากช่องทางดิจิทัล ธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเบี้ยประกันวินาศภัยรวม 2,607.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% (YoY) (หน้า 1)

**สรุปสั้นท้ายสุด:**
ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อรายได้และกำไรในช่วงรายงาน ได้แก่ การเติบโตของรายได้จากธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันภัย การลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิต และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ NIM ที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง NPL ที่ลดลง และ Coverage Ratio ที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพของบริษัท บริษัทมีความแข็งแกร่งในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น (หน้า 1, 3, 4)


รายได้รวม
17,323.57 ล้านบาท
11,568.17ล้านบาท
(201.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
11,712.96ล้านบาท
(208.76%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
17,210.51 ล้านบาท
11,485.94ล้านบาท
(200.64%)
ไตรมาสก่อนหน้า
11,615.68ล้านบาท
(207.61%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
99.35 ล้านบาท
0.11ล้านบาท
(0.11%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.37ล้านบาท
(0.37%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
8,444.29 ล้านบาท
5,655.19ล้านบาท
(202.76%)
ไตรมาสก่อนหน้า
5,701.99ล้านบาท
(207.93%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
48.74 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
3,900.66 ล้านบาท
2,604.19ล้านบาท
(200.87%)
ไตรมาสก่อนหน้า
2,910.11ล้านบาท
(293.79%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
22.52 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
2.19 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
-859.65 ล้านบาท
2,370.20ล้านบาท
(156.91%)
ไตรมาสก่อนหน้า
2,306.81ล้านบาท
(159.40%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล