THANA
บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทวิเคราะห์ผลประกอบการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) THANA ไตรมาส 3/2567

บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยรายได้รวมอยู่ที่ 245 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท หรือ 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และให้บริการลดลง 17 ล้านบาท จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาลง แม้ว่าบริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ก็ตาม โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีสังคมส่วนตัวสูง และใช้ชีวิตในบ้านเป็นหลัก เพื่อรองรับการเติบโตในปี 2025 โดยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “ธนาพาร์ค พรีเว่” ซึ่งมีแนวคิดการออกแบบที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวสูง ในรูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวรอบบริเวณบ้าน

แผนธุรกิจในอนาคตของ THANA คือการระมัดระวังในการพัฒนาโครงการใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ บริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาอัตราการทำกำไร และเน้นการระบายสินค้าคงเหลือให้ได้มากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2024 จะลดลง -10% จากปีที่ผ่านมา และลดลงต่อเนื่องอีก -1% -3% ในปี 2025 ทั้งนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 แม้ว่ารายได้รวมจะลดลง แต่บริษัทยังคงทำกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท หรือ 9% ลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ซึ่งกำไรหลักมาจากรายได้ครั้งเดียวจากการให้บริการจากบริษัทร่วมค้า รวม 15.8 ล้านบาท แม้ว่าอัตราการทำกำไรขั้นต้นจะลดลงจากการปรับลดราคาตามนโยบายเร่งขายบ้านสร้างเสร็จ พร้อมโอนและระบายสินค้า ซึ่งเป็นผลกระทบจากสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระหว่างปีที่ซบเซา ทั้งนี้ THANA มี D/E อยู่ที่ 1.54 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินค่อนข้างสูง และอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นหากตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา อย่างไรก็ตาม THANA มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ 186.97 ล้านบาท แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ 67.69 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ยอดจองซื้อในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 251 ล้านบาท ลดลง 7 ล้านบาท หรือ 3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 และยอด backlog อยู่ที่ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25 ล้านบาท หรือ 12% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากการปรับลดราคาตามนโยบายเร่งขายบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนและระบายสินค้า โดยเฉพาะในโครงการเดิมๆ

ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีฐานะทางการเงินภาพรวม 1,381 ล้านบาท ลดลง 36 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินทรัพย์รวมลดลง 36 ล้านบาท จากสินค้าคงเหลือและลูกหนี้อื่น (บริษัทระหว่างกัน) ในโครงการใหม่ต่างๆ ซึ่งบริษัทมีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนอีก 2 โครงการตามแผนงานเพื่อยอดรายได้ที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต ขณะที่หนี้สินโดยรวมลดลง 51 ล้านบาท จากส่วนของเงินกู้ยืมระยะสั้นและเจ้าหนี้การค้าที่ต้องรองรับการขยายงานพัฒนา ถ่อสร้างโครงการ

บริษัทมีกระแสเงินสดภาพรวม ณ 30 กันยายน 2567 รวม 16.6 ล้านบาท ลดลง 5.1 ล้านบาท โดยกระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน มูลค่า 27.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเนื่องจาก - เงินสดรับสุทธิจากการระบายสินค้าในโครงการเดิม และการขายสินค้าในโครงการใหม่มีอัตรากำไรที่ค่อนข้างน้อยทำให้มีเงินสดคงเหลือลดลง แต่ยังสามารถนำไปใช้หมุนเวียนและชำระหนี้สถาบันการเงินต่างๆได้ตามสัญญา = ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 18.3 ล้านบาท - ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่นลดลง 76.8 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการรับชำระเงินทดรองจ่ายจากบริษัทร่วมค้า - เงินสดจ่ายในการลงทุนพัฒนาก่อสร้างโครงการใหม่ 2 โครงการในระหว่างไตรมาส 3/2567 ทำให้มีสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น (ซึ่ง ในอนาคตบริษัทจะสามารถได้กระแสเงินสดรับจากการขายบ้านโครงการ) - เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่นลดลง 69.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการจ่ายค่ามัดจําที่ดิน

โดยสรุป THANA เป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวและรอการเติบโตในอนาคต เนื่องจากบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน และมีการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังในส่วนของความเสี่ยงจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา และ D/E ที่สูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทในอนาคตได้

**โอกาส**

* บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* บริษัทมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน
* บริษัทมีการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
* บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG
* บริษัทมีโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

**ความเสี่ยง**

* ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา
* D/E ที่สูง
* ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่สูงขึ้น
* การแข่งขันที่รุนแรง

**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์**

* ลักษณะธุรกิจของบริษัท: พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย เน้นการพัฒนาโครงการในเขตปริมณฑล และสำหรับบริษัทย่อย เน้นการพัฒนาโครงการในส่วนภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะพัฒนาโครงการในขนาดไม่ใหญ่มากนัก
* ราคาหุ้นเฉลี่ยช่วงแต่ละไตรมาส (ปีอดีตถึงปัจจุบัน):
* 1Q2553=1.53, 2Q2553=1.68, 3Q2553=2.39, 4Q2553=2.34
* 1Q2554=2.35, 2Q2554=2.15, 3Q2554=2.1, 4Q2554=1.55
* 1Q2555=1.67, 2Q2555=1.47, 3Q2555=1.53, 4Q2555=1.48
* 1Q2556=1.81, 2Q2556=1.86, 3Q2556=1.75, 4Q2556=1.78
* 1Q2557=1, 2Q2557=1.24, 3Q2557=2.61, 4Q2557=3.47
* 1Q2558=3.79, 2Q2558=3.45, 3Q2558=2.96, 4Q2558=2.33
* 1Q2559=1.81, 2Q2559=1.91, 3Q2559=1.83, 4Q2559=1.67
* 1Q2560=1.9, 2Q2560=2.77, 3Q2560=2.86, 4Q2560=2.45
* 1Q2561=2.24, 2Q2561=2.19, 3Q2561=2.31, 4Q2561=2.3
* 1Q2562=1.98, 2Q2562=1.92, 3Q2562=1.76, 4Q2562=1.5
* 1Q2563=1.09, 2Q2563=0.85, 3Q2563=0.77, 4Q2563=0.82
* 1Q2564=1.01, 2Q2564=1.49, 3Q2564=1.36, 4Q2564=1.38
* 1Q2565=1.76, 2Q2565=3.06, 3Q2565=3.15, 4Q2565=2.74
* 1Q2566=2.69, 2Q2566=2.26, 3Q2566=2.09, 4Q2566=1.86
* 1Q2567=1.86, 2Q2567=1.51, 3Q2567=1.25, 4Q2567=1.51
* P/E (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 14.37 , 0 , 0 , 0 , 0 , 10.46 , 5.4 , , ล่าสุด 11.39
* P/BV (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 1.26 , 1.09 , 0.74 , 0.59 , 0.92 , 1.48 , 0.9 , , ล่าสุด 0.62
* YIELD (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 0 , 0 , 0 , 0 , 0 , 0 , 6.35 , , ล่าสุด 5.23
* D/E (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 1.39 , 1.08 , 1.06 , 0.7 , 1.37 , 1.01 , 1.54 ,
* อัตรากำไรสุทธิ (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 4.04 , 0 , 0 , 0 , 6.34 , 11.45 , 6.77 ,
* เก็บหนี้เฉลี่ย วัน (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 3.56 , 7.27 , 41.25 , 53.16 , 77.72 , 31.46 , 42.48 ,
* ขายสินค้าเฉลี่ย วัน (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 750.96 , 865.12 , 846.85 , 819.73 , 965.71 , 582 , 987.99 ,
* ชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า วัน (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 110.55 , 138.02 , 215.24 , 95.75 , 90.84 , 55.03 , 113.72 ,
* วงจรเงินสด (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): 643.97 734.37 672.86 777.14 952.59 558.43 916.76
* รายได้รวม ล้านบาท (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): ปี2560=836.753365 , ปี2561=556.680924 , ปี2562=393.487334 , ปี2563=324.006745 , ปี2564=267.558807 , ปี2565=702.555591 , ปี2566=464.204836 ,
* กำไรสุทธิ ล้านบาท (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): ปี2560=33.834287 , ปี2561=-17.542595 , ปี2562=-60.73304 , ปี2563=-16.632627 , ปี2564=23.006501 , ปี2565=84.371577 , ปี2566=40.869783 ,
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน ล้านบาท (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): ปี2560=310.654662 , ปี2561=196.685802 , ปี2562=92.075751 , ปี2563=172.450368 , ปี2564=-191.79406 , ปี2565=-24.019805 , ปี2566=-186.971622 ,
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน ล้านบาท (ปีอดีตถึงปัจจุบัน): ปี2560=0 , ปี2561=8.019224 , ปี2562=-0.898952 , ปี2563=-26.521923 , ปี2564=-74.668693 , ปี2565=87.674836 , ปี2566=-67.697795 ,

หมายเหตุ: ข้อมูลการเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

**พัฒนาการด้านความยั่งยืน**

บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จําถัด (มหาชน) ให้ความสําคัญกับ ESG มาโดยตลอด ไม่ใช่แค่เพียง สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่รวมถึง สังคม(ผู้มีส่วนได้เสีย) และหลักธรรมาภิบาล ธนาสิริมีกลยุทธ์การดําเนินธุรกิจ a a เพื่อความยั่งยืนที่ซัดเจน ผ่านกระบวนการ ”7โ๒ภิภิ 6แหล๕ทะ โอเล| 6หลลท Real Estate Jl ง เบิลห๑1อ๒ทาลทร - 5สเหไฮอ ไฟไอสฝ่อ!” ที่คํานึงถึงการดําเนินธุรกิจ ตั้งแต่ ตันน้า กลางน้า ถึงปลายน้า Ah a> Se ตั้งแต่แนวคิดการพัฒนาโครงการไปจนถึงการเข้าพักอาศัยของท่านเจ้วของบ้าน MA o ธิ็์ - XQ โดยเฉพาะการส่งเสริมพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ จากมาตรฐานที่บริษัทกําหนดไว้ ' AG = ASS . “บ้าน1 หลัง ตันไม้ 1 ตัน” เราเพิ่มความเข้มขันไปสู่แนวคิด 1 คน 1 ต้น” [คํานวณการปลูกต้นไม้ ซ่ทงไหอทิที่1อทไล be จากสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเจ้าของบ้าน] เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเซี ยวและดูดซับก๊าซ ขง KY คาร์บอนไดออกไซตด์ ทั้งนี้ก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการดูดซับก๊าซคาร์บอนไตออกไซด์อันเกิดจาก REAR กระบวนการหลังเข้าพักอาศัย ซึ่งบริษัทได้เสริมกลยุทธ์ด้านการลดการใช้พลังงาน เซ่น การติดตั้ง 50|ลก SG Lo ๐|| ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อลดค่าไฟฟ้าและลดการใช้พลังงานไฟฟ้า อันเป็นปัจจัยหลักของการลดก๊าซ เรือนกระจก GE Pe นอกจากนั้น บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะลดขยะที่เกิดจากกระบวนการค่อสร้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของบริษัท /<- และพาร์ทเนอร์ผู้ร่วมสร้างที่มีพันธสัญญาต่อกันที่จะมุ่งมั่นลดขยะในกระบวนการคก่อสร้างลงให้เหลือน้อยจน Wg Se (Wu zero waste LA 5 WS โดยการดําเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าวซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก “ - iN “| ในทุกระดับขององค์กร ตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงพนักงานทุกคน ผ่านการกําหนดเป้าหมายส่วนบุคคล ค - ด้านความยั่งยืน (Personal Green OKR KPIs) และการฝังรากแนวคิดการดําเนินงานที่เป็นมิตรต่อ \ \Y Aauiadau (Green Process) ในทุกกระบวนการทํางาน เพื่อให้การดําเนินธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ๒ VY ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักขององค์กรที่คํานึงถึงการดําเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นภาพใหญ่ระดับองค์กร SSS Y/ และแตกย่อยไปยังสายงานต่างๆ และส่งต่อไปยังทีมงานทุกคน เรียกได้ว่าบริษัทมีการส่งเสริมด้าน 6๕๕๓ : จนถึงระดับพนักงาน เพื่อสร้าง @๒6๕๓ !งโกส561 ที่ดี อีกทั้ง บุคลากรในธนาสิริมีการจัดทํา 0@65๐ทล| fem. Green OKR KPls เป็นของตัวเอง ทุกกระบวนการทํางานมี 6๐๑๓ 0๐6655 ฝังอยู่ในสายงาน เพื่อให้การ hy < -ง ดําเนินธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน JY Se จากการดําเนินงานตามกระบวนการ 7]1ไ/0ง8 6๑๕๓ ส่งผลให้ในรอบ 9 เดือน มีผลการ J iw G NG ดําเนินงานด้าน โ1ฯ4ไง Green กล่าวโดยสรุปดังนี้ 0 OSA A ว 1. ด้านสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 72,500 |(ย๐๐2๑สุ ตอบอะหลทยร7 ลดการใช้กระดาษได้ 21,000 แผ่น เทียบเท่า ลดการตัดต้นไม้ 4.2 ตัน LO A. NX NY “น A VY 2. ด้านสังคม นักสร้างและซุมชนรอบด้าน ยกระดับความเป็นอยู่ของนักสร้างและดูแลความ WN / เป็นอยู่ของซุมชนรอบด้าน ส่งผลให้ไม่มีข้อ ' ร้องเรียน รวมถึง ไม่มีอุบัติเหตุระหว่างการ ทํางาน ลูกค้า บริษัทได้สรรหาอัตราดอกเบี้ยพิเศษสําหรับลูกค้า ที่ซื้อบ้านประหยัดพลังงานให้ได้รับอัตราดอกเบี้ย ลดลง 0.25% (ร่วมกับ ธ.ออมสิน) ท่านเจ้าของบ้าน จัดกิจรรมเพื่อส่งเสริมความสุขในการอยู่อาศัย อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับคะแนนความ พฟพึงพอใจ (65ค57) 85% 3. ด้านบรรษัทภิบาล สามารถลดต้นทุนงานก่อสร้างได้ประมาณ 100,000 บาท และเศรษฐกิจ สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการประหยัดพลังงานได้ประมาณ 229,000 บาท มีการดําเนินธุรกิจที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ในทุกกระบวนการ 1จ915นเ« 4ลิงที16ร96ร921กนนับรมรจัชช์นบแชรงนางปรัหจรเพสปารัพสด์ ทรุ่งโกพ%นง07602 <O50.652 GorommardichathondentsAas dongbamiusbangplads Banghoh 107007.

**ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการดําเนินงานหรือการเติบใตไนอนาค๓**

* **นโยษายรัฐ**
* มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ: รัฐบาลอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เซ่น การลดภาษีทีเกี่ยวซ้องกับอสังหาริมทรัพย์ หรือการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซิ่งจะส่งผลดีต่อกําลังซื้อ
* นโยบายการเงิน: การปรับขึ้นหรือลดลงของอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีผลต่อต้นทุนทางการเงิน ของผู้ซื้อ และส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์
* กถกลฎระเบียบ: การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เชซ่น มาตรการ LTV (Loan-to-Value Ratio) A มีผลต่อความสามารถในการณูซื้อบ้านของผู้บริโภค
* **เศรษฐกิจ**
* อัตราเงินเฟ้อ: อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อถําลังซื้อของผู้บริโภค และอาจทําให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น
* อจัตราการว่างงาน: อัตราการว่างงานที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อกําลังซื้อของผู้บริโภค
* อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน (@@๑๑๐1 ผิล1@): อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินทีมีอัตรา สูงขึ้น อันเนื่องมาจากหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้น จะส่งผลต่อความสามารถในการผ่อนชําระหนี้ ทําให้ธนาคารพิจารณา อนุมัติสินเชื่อได้ยากขึ้น รวมทั้งรายได้ที่ไม่แน่นอนหรือไม่เพียงพอต่อการผ่อนชําระหนี้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ถูก ปฏิเสธสินเชือ
* **ความต้องการของตลาด**
* ประเภทของอสังหาริมทรัษแย์: ความต้องการอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภท เซ่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค
* ทําเลที่ตั้ง: ทําเลที่ตั้งที่สะดวกสบาย เซ่น ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งซุมชน ยังคงเป็นปัจจัยสําคัญในการตัดสินใจซื้อ อสังหาริมทรัพย์
* **คู่แข่ง**
* จํานวนโครงการใหม่: จํานวนโครงการใหม่ที่เปิดตัวในตลาด จะส่งผลต่ออุปทานและราคาอสังหาริมทรัพย์
* โปรโมซั่น: การแข่งขันด้านโปรโมชั่นของผู้ประกอบการ จะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

หมายเหตุ: ข้อมูลการเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้


รายได้รวม
133.51 ล้านบาท
14.15ล้านบาท
(9.58%)
ไตรมาสก่อนหน้า
61.59ล้านบาท
(85.64%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
41.52 ล้านบาท
19.78ล้านบาท
(32.26%)
ไตรมาสก่อนหน้า
36.63ล้านบาท
(749.75%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
31.10 ล้านบาท
10.41ล้านบาท
(25.08%)
ไตรมาสก่อนหน้า
24.31ล้านบาท
(358.03%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
37.48 ล้านบาท
3.38ล้านบาท
(9.90%)
ไตรมาสก่อนหน้า
3.74ล้านบาท
(11.07%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
28.07 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
2.02 ล้านบาท
20.71ล้านบาท
(91.13%)
ไตรมาสก่อนหน้า
10.12ล้านบาท
(83.38%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
1.51 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
53.63 ล้านบาท
20.96ล้านบาท
(64.16%)
ไตรมาสก่อนหน้า
141.35ล้านบาท
(161.14%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล