สรุปด้วย AI(O) BOT

บทความสรุปผลประกอบการของบริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SWC)

บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 119.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 113.64 เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 55.88 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 30.03 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 25.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 118.17 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 บริษัทมีการยกเลิกจำหน่ายสินค้าที่ประสบปัญหาขาดทุนในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม แต่ธุรกิจนมภายใต้ตราสินค้า "ฮอกไกโด" มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.60 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 จากการจัดจำหน่ายสินค้าใหม่

บริษัทมีแผนธุรกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มสินค้าเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด บริษัทได้มีการปรับราคาขายสินค้ารวมทั้งปรับรายการส่งเสริมการขายสินค้าโดยอ้างอิงจากราคาตลาดและจากคู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน และยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูง รวมทั้งมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทได้มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้ในตราสินค้าและเพื่อกระตุ้นยอดขายในทุกกลุ่มสินค้า

การพิจารณาว่า SWC เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน แม้ว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567 และมีอัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้น แต่ก็มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วง 4Q2567 อยู่ที่ 3.02 บาท ซึ่งต่ำกว่าช่วงต้นปี สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนของราคาหุ้น นอกจากนี้ บริษัทได้พิจารณาตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในอนาคต

**วิเคราะห์เพิ่มเติม:**

* **รายได้:** รายได้รวมลดลงเล็กน้อยในปี 2567 แสดงให้เห็นว่าบริษัทต้องพยายามรักษายอดขายเดิม และเพิ่มยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่

* **กำไร:** กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นสัญญาณที่ดีว่าบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้

* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ต้นทุนขายลดลง ทำให้กำไรขั้นต้นดีขึ้น

* **อัตรากำไรสุทธิ:** ดีขึ้นอย่างชัดเจน

* **D/E:** ยังคงที่ แสดงถึงการบริหารจัดการหนี้สินที่ดี

**พัฒนาการสำคัญ:** การเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต

**โอกาส:**

* การเติบโตของธุรกิจเคมีภัณฑ์ในประเทศไทย
* การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

**ความเสี่ยง:**

* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเคมีภัณฑ์
* ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เคมี

**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติม:**

* P/E ล่าสุดอยู่ที่ 12.96 เท่า ซึ่งอาจบ่งบอกว่าราคาหุ้นยังไม่แพงเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น
* P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.88 เท่า
* Yield ล่าสุดอยู่ที่ 0.18%
* วงจรเงินสดสั้นลง แสดงว่าบริษัทสามารถบริหารจัดการเงินสดได้ดีขึ้น