5/7

เดือนนี้ / เดือนก่อน

57/9

ปีนี้ / ปีก่อน

  • thunhoon

    STX แร่โดโลไมต์โตเด่น มาร์จิ้นสูง-อัพฐานใหม่ 12/12/68

    #STX #ทันหุ้น – STX กางแผนงานปี 2569 เร่งขยายแหล่งสำรองหินชูผลิตภัณฑ์โดโลไมต์แนวโน้มโตเด่น รับดีมานด์หลากหลายอุตสาหกรรมมาร์จิ้นสูง พร้อมเดินเครื่องเหมืองหินปูนแห่งใหม่ จ.เพชรบุรี ปลายไตรมาส 1/2569 ปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อ นายทรงวุธ  เวชชานุเคราะห์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STXผู้นำในอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเหมืองหินในปี 2569 คาดว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ แม้จะยังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากโครงการก่อสร้างภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และแรงหนุนจากการขยายโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ยุทธศาสตร์ แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน บริษัทประเมินว่า ธุรกิจของ STX จะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง  ฐานลูกค้าชัดเจน และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์หินแกรนิต (Granite) หินปูน (Limestone) และโดโลไมต์ (Dolomite)

  • kaohoon

    STX เปิดแผนปี 69 ลุยขยายแหล่งสำรองหิน พร้อมเดินเครื่องเหมืองใหม่ “เพชรบุรี” ปลาย Q1 นี้ 11/12/68

    นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STX ผู้นำในอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเหมืองหินในปี 2569 คาดว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ แม้จะยังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากโครงการก่อสร้างภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และแรงหนุนจากการขยายโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ยุทธศาสตร์ แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน บริษัทประเมินว่าธุรกิจของ STX จะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ฐานลูกค้าชัดเจน และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์หินแกรนิต (Granite) หินปูน (Limestone) และโดโลไมต์ (Dolomite) สำหรับกลยุทธ์การเติบโต STX ให้ความสำคัญกับการขยายแหล่งสำรองหิน ทั้งจากโครงการพัฒนาใหม่และการร่วมมือกับเหมืองที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบระยะยาว ในส่วนของผลิตภัณฑ์โดโลไมต์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตโดดเด่น เนื่องจากมีความต้องการในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก กระจก บรรจุภัณฑ์แก้ว ผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมเกษตร และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นในระดับที่ดี ช่วยเปิดโอกาสให้บริษัทปรับกลยุทธ์การขายไปยังฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ของเหมืองใหม่ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของรายได้ในอนาคต

  • mitihoon

    STX เปิดแผนปี 69 ชูผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ พระเอกนำ เติบโตสูง-มาร์จิ้นดี พร้อมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์เหมืองใหม่ จ.เพชรบุรี ปลาย Q1/69 11/12/68

    มิติหุ้น – “บมจ.สโตนวัน หรือ STX” เดินหน้าตอกย้ำศักยภาพผู้นำเหมืองหินและแร่ ประเมินแนวโน้ม Q4/68 และภาพรวมปี 69 เติบโตล้อกับภาวะเศรษฐกิจ ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและเมกะโปรเจกต์ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ชูผลิตภัณฑ์โดโลไมต์เป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งจากดีมานด์หลากหลายอุตสาหกรรม มาร์จิ้นสูง ขณะเดียวกัน เร่งเดินเครื่องเหมืองหินปูนแห่งใหม่ จ.เพชรบุรี ล่าสุด ได้ลงนามสัญญาก่อสร้างแบบ Turn-key project เรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินหน้าพัฒนาหน้าเหมืองโรงงานโม่หิน และระบบสาธารณูปโภค คาดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ปลาย Q1/69 เพื่อรองรับการขยายตัวและความต้องการในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่แนวโน้มเติบโตในช่วงหลังจากนี้ พร้อมบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการเติบโตที่มั่นคงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ท้าทาย นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STX ผู้นำในอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเหมืองหินในปี 2569 คาดว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ แม้จะยังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากโครงการก่อสร้างภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และแรงหนุนจากการขยายโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ยุทธศาสตร์ แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน บริษัทประเมินว่าธุรกิจของ STX จะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ฐานลูกค้าชัดเจน และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์หินแกรนิต (Granite) หินปูน (Limestone) และโดโลไมต์ (Dolomite) สำหรับกลยุทธ์การเติบโต STX ให้ความสำคัญกับการขยายแหล่งสำรองหิน ทั้งจากโครงการพัฒนาใหม่และการร่วมมือกับเหมืองที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบระยะยาว ในส่วนของผลิตภัณฑ์โดโลไมต์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตโดดเด่น เนื่องจากมีความต้องการในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก กระจก บรรจุภัณฑ์แก้ว ผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมเกษตร และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นในระดับที่ดี ช่วยเปิดโอกาสให้บริษัทปรับกลยุทธ์การขายไปยังฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ของเหมืองใหม่ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของรายได้ในอนาคต

  • set
  • oppday
  • set
  • set
  • mitihoon

    STX บุ๊คกำไร 9 เดือนพุ่ง 22% แตะ 54.46 ล้านบาท เผยเหมืองใหม่ จ.เพชรบุรี พร้อมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ปลาย Q1/69 ปูทางโตระยะยาว 20/11/68

    มิติหุ้น – “บมจ.สโตนวัน หรือ STX” ประกาศผลงาน 9 เดือน ปี 68 โกยกำไรสุทธิ 54.46 ลบ. โต 22% สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผยความคืบหน้าเหมืองใหม่ จ.เพชรบุรี ล่าสุดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาก่อสร้างแบบ Turn-key project เรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งเครื่องงานพัฒนาหน้าเหมืองและโรงงานโม่หิน พร้อมระบบสาธารณูปโภค คาดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ช่วงปลายไตรมาส 1 ปี 2569 เพื่อรองรับการขยายตัวและความต้องการในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่แนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STX ผู้นำในอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกําไรสุทธิ 54.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.01% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักของการเติบโตของกำไรสุทธิในภาพรวมมาจากผลประกอบการที่เป็นบวกในปีปัจจุบัน รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากการกลับรายการค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ซึ่งเป็นผลจากการได้รับชำระหนี้จากกลุ่มลูกหนี้การค้าในอดีตที่มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญเต็มจำนวน บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในงวด 9 เดือนจำนวน 116.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.39 ล้านบาท หรือ 21.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรต่อหุ้น (EPS) งวดสะสม 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 0.18 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 0.16 บาท สะท้อนแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องของผลการดำเนินงานในปี 2568

  • fin
  • set