สรุปงบล่าสุด STX

สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการของ หุ้น STX (บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน)) ไตรมาส 3/2568

**1. สรุปรายได้รวม:**

ในไตรมาส 3/2568 บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 105.97 ล้านบาท ลดลง 14.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากผลิตภัณฑ์หินแกรนิต โดยเฉพาะหินใหญ่ (Bigrock) จากเหมืองหนองข่า จังหวัดชลบุรี เนื่องจากปัญหาการดำเนินงานภายในโครงการก่อสร้างของลูกค้า ทำให้มีการระงับการเข้ารับสินค้า นอกจากนี้ รายได้จากหินแกรนิต 20 มม. ยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลที่ทำให้กิจกรรมการก่อสร้างชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีปัจจัยเชิงบวกจากรายได้ในส่วนของเหมืองจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยรายได้จากผลิตภัณฑ์หินปูนเพิ่มขึ้น 5.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของผลิตภัณฑ์กลุ่มโดโลไมต์ปรับตัวลดลง 2.41 ล้านบาท และรายได้จากผลิตภัณฑ์พลอยได้ (By-products) ลดลง 1.79 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 9.58 ล้านบาท ลดลง 49.56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (หน้า 1)

สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 307.68 ล้านบาท ลดลง 11.03% แต่มีกำไรสุทธิ 54.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.01% สาเหตุหลักมาจากการกลับรายการค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) จากการได้รับชำระหนี้จากกลุ่มลูกหนี้การค้ำในอดีต (หน้า 1)

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**

เอกสารไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม แต่ระบุถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทโดยตรง เช่น ปัญหาการดำเนินงานภายในโครงการก่อสร้างของลูกค้าที่ส่งผลต่อการรับหินแกรนิต และปัจจัยด้านฤดูกาลที่ทำให้กิจกรรมการก่อสร้างชะลอตัวลง (หน้า 1, 2)

นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าลงทุนในเหมืองหินปูนแห่งใหม่ในอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปลายไตรมาส 1 ปี 2569 (หน้า 1)

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**

* **รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์หลัก:** ลดลง 14.26% ในไตรมาส 3/2568 เนื่องจากหินแกรนิตลดลง 19.41 ล้านบาท, หินปูนเพิ่มขึ้น 5.91 ล้านบาท และโดโลไมต์ลดลง 2.41 ล้านบาท (หน้า 2)
* **รายได้จากการให้บริการ:** ลดลง 19.88% ในไตรมาส 3/2568 (หน้า 3)
* **รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์พลอยได้:** ลดลง 19.78% ในไตรมาส 3/2568 (หน้า 3)
* **ต้นทุนขายและให้บริการ:** ลดลง 9.02% ในไตรมาส 3/2568 (หน้า 3)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 10.02% ในไตรมาส 3/2568 เนื่องจากค่าที่ปรึกษาและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเหมืองใหม่ (หน้า 4)
* **กำไรสุทธิ:** ลดลง 49.56% ในไตรมาส 3/2568 (หน้า 4)

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**

* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 3.97% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* สินทรัพย์หมุนเวียนลดลง 35.41% เนื่องจากเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงจากการใช้ไปในการซื้อหุ้นเหมืองใหม่ และสินทรัพย์ทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธีราคาทุนตัดจำหน่ายลดลง
* สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 54.89% จากการรับรู้มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (ประทานบัตรเหมืองใหม่) และสินทรัพย์สิทธิการใช้เพิ่มขึ้นจากการต่ออายุสัญญาเช่า
* **หนี้สินรวม:** เพิ่มขึ้น 17.11% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* หนี้สินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
* หนี้สินไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาเช่าพื้นที่สำนักงาน และภาระค่าประทานบัตรของเหมืองใหม่
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้น 2.68% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 6)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสาร

**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**

* บริษัทมีการลงทุนในเหมืองใหม่ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายไตรมาส 1 ปี 2569 (หน้า 1)
* บริษัทได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้การค้ำในอดีต ทำให้มีการกลับรายการค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต (หน้า 1, 4)
* บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านความยั่งยืนขององค์กรในด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) (หน้า 7)