สรุป OPPDAY หุ้น SKR
Oppday
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday SKR: ศิครินทร์ ฝ่าความท้าทายเศรษฐกิจชะลอตัว มุ่งสู่ Medical Hub ปี 2568
สรุปผลการประชุม Oppday ของบริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) (SKR) ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2568 โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจดังนี้:
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
รายได้จากการรักษาพยาบาล: ในไตรมาส 3/2568 มีรายได้รวม 1,541 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 118 ล้านบาท หรือ 7.1% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จาก OPD, IPD และรายได้จากประกันสังคม รวมถึงรายได้จากการให้บริการรักษาพยาบาลเคลื่อนที่
EBITDA: ในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 396 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 59 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 13% EBITDA margin อยู่ที่ 25.4%
กำไรสุทธิ: ในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 188 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 57 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 23.3% Net Profit Margin อยู่ที่ 12%
ภาพรวมสะสม 9 เดือน: รายได้จากการรักษาพยาบาลรวม 4,576 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 69 ล้านบาท หรือ 1.5% EBITDA สะสม 9 เดือนอยู่ที่ 1,234 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.3% กำไรสุทธิสะสม 9 เดือนอยู่ที่ 604 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 44 ล้านบาท
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ: จำนวนผู้ป่วยที่ลดลง, การลดลงของรายได้ค่าบริการทางการแพทย์กลุ่ม DRG ในส่วนของประกันสังคม, การเลื่อนกำหนดการออกตรวจของบริการรักษาพยาบาลเคลื่อนที่เนื่องจากปัญหาอุทกภัยและสถานการณ์ชายแดน
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
Medical Revenue Growth: บริษัทตั้งเป้า Medical Revenue Growth ปี 2568 ไว้ที่ 3% แม้ว่า 9 เดือนที่ผ่านมาจะลดลง 1.5% แต่คาดการณ์ว่ารายได้บางส่วนที่หายไปในไตรมาส 3 จะกลับมาในไตรมาส 4
การเติบโตของกลุ่มลูกค้าทั่วไป: มุ่งเน้นการพัฒนา Center of Excellence (COE) เพื่อรองรับการรักษาโรคยากที่ซับซ้อนด้วยการผ่าตัด โดยเน้นลูกค้าเงินสด, บริษัทคู่สัญญา และบริษัทประกันชีวิต
ศิครินทร์ หาดใหญ่: เปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 6 ศูนย์ เพื่อรองรับลูกค้าในโซนสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากลระดับโลก JCI
ศิครินทร์ สมุทรปราการ: เปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง และมีแผนขยายเตียง IPD เพิ่มอีก 40 เตียงในปี 2569 เพื่อรองรับการเติบโตของ OPD ที่มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพิ่มขึ้น
ความร่วมมือกับ AIA: เข้าร่วมโครงการ AIA Smart Hospital Network เพื่อลดระยะเวลารอคอยและให้บริการสินไหมแบบไม่ต้องสำรองจ่ายสำหรับลูกค้า AIA
ความร่วมมือกับเมืองไทยประกันชีวิต: ทำ PPO (Preferred Provider) Campaign เพื่อให้ผู้ถือบัตรกรมธรรม์เมืองไทยประกันชีวิตสามารถใช้บริการโดยไม่ต้องสำรองจ่าย หรือมีส่วนลดส่วนเกินค่าห้อง
การพัฒนาบุคลากร: ร่วมมือกับสถาบันชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์ Business School และมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
เศรษฐกิจชะลอตัว: อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าทั่วไป
การแข่งขัน: การแข่งขันในตลาดโรงพยาบาลที่สูงขึ้น
ภาวะน้ำท่วม: อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการขนส่งในเรื่องของการตรวจสุขภาพ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
ควบคุมต้นทุน: ควบคุม Common Size ของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรให้ไม่เกิน 23%
บริหารจัดการเวชภัณฑ์: บริหารจัดการการใช้ยาและเวชภัณฑ์ให้สอดคล้องกับสิทธิของผู้ป่วย เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
ส่งเสริมการใช้สิทธิร่วม: สนับสนุนให้ลูกค้าใช้สิทธิร่วมระหว่างประกันชีวิตและประกันสังคม เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
การสกรีนนิ่งผลตรวจสุขภาพ: สกรีนนิ่งผลตรวจสุขภาพและนำมาสู่การรักษา เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าโดยไม่ต้องขยายสาขา
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
การเติบโตอย่างยั่งยืน: มุ่งเน้นการเติบโตบนรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมต้นทุนที่ลดลง
การพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์: เปิด COE เพิ่มขึ้น เช่น ศูนย์มะเร็ง และศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง
การขยายตลาดต่างประเทศ: ตรวจสุขภาพเพื่อไปทำงานต่างประเทศ โดยล่าสุดได้อิสราเอล และกำลังรอไต้หวันและเกาหลี
Digital Transformation: เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ที่ให้ข้อมูลเรื่องความยั่งยืนของบริษัท และเน้นการค้นหาแพทย์ ทำนัดหมาย และดูผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแต่ละโรงพยาบาล
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42.19]
คำถาม: ประเทศไทยพยายามจะเป็น Medical Hub บริษัทมีแผนดึงดูดลูกค้าต่างชาติอย่างไร?
คำตอบ: SKR เน้นลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในไทย (Expat) ซึ่งมี Volume เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทต่างชาติและบุคลากรในโรงเรียนนานาชาติที่ถือประกันกลุ่มและเข้ามาใช้บริการที่ SKR
คำถาม: ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คนไข้จ่ายน้อยลง SKR มีแผนรับมืออย่างไร?
คำตอบ: SKR มีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งลูกค้าทั่วไปที่จ่ายด้วยเงินสด บริษัทคู่สัญญา ประกันชีวิต และลูกค้าสวัสดิการภาครัฐ (ประกันสังคม) ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าอาจเปลี่ยนไปใช้สิทธิประกันสังคมมากขึ้น นอกจากนี้ SKR ยังมีระบบ Co-pay หรือการใช้สิทธิร่วมในการรักษาเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
คำถาม: ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้น เช่น บุคลากร เวชภัณฑ์ SKR มีกลยุทธ์อย่างไรเพื่อที่จะยังคงทำกำไรให้กับบริษัท?
คำตอบ: SKR ควบคุม Common Size ของค่าใช้จ่ายบุคลากร และบริหารจัดการการใช้ยาและเวชภัณฑ์ให้สอดคล้องกับสิทธิของผู้ป่วย เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายและรักษาอัตรากำไร
คำถาม: แผนการขยายตัวของโรงพยาบาลศิครินทร์หรือกลุ่มศิครินทร์?
คำตอบ: SKR มองหาการเติบโตที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดหลักทรัพย์ โดยเน้นการเพิ่มยอดขายและการควบคุมต้นทุนควบคู่กันไป ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว SKR จะพิจารณาความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างรอบคอบ และอาจเน้นการ Renovate พื้นที่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแทนการลงทุนใหม่ๆ ขนาดใหญ่
สรุป: ศิครินทร์เผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยการควบคุมต้นทุน, พัฒนาศักยภาพทางการแพทย์, ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ, และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร