1/6

เดือนนี้ / เดือนก่อน

95/24

ปีนี้ / ปีก่อน

  • set
  • hoonsmart

    SCG ร่วมโรดโชว์ลอนดอน เร่งขยายตลาดเวียดนาม 10/11/68

    ทั้งนี้ บริษัทฯให้ความสำคัญกับ 4 กลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป โดยมุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ควบคู่กับการปรับโครงสร้างธุรกิจและขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย 1.รักษาเสถียรภาพของกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง และบริหารเงินสดในมือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2.การเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์การผลิตและการดำเนินงาน พร้อมทั้งปรับโครงสร้างองค์กร กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ (SCGC) มุ่งเพิ่มการใช้วัตถุดิบโพรเพน และเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (HVA) กลุ่มซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และเซรามิก ใช้เวียดนามเป็นฐานการส่งออกไปยังตลาดเฉพาะกลุ่ม,ตลาดไทยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ปูนซีเมนต์ลดคาร์บอน และกระเบื้องพอร์ซเลนเกรดพรีเมียม,ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านค้าปลีกและระบบกระจายสินค้า กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (SCGP)ให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคในอาเซียน พร้อมเสริมสร้างการทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาค 3.กระจายตลาดและผลิตภัณฑ์ เพิ่มการเจาะตลาดเวียดนามอย่างเต็มที่,พัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (HVA) และขยายตลาดสินค้ากลุ่ม Smart Value Products (SVP) ไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ 4.เร่งกระบวนการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Divestment) สำหรับความคืบหน้า การลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ของ SCGC ได้เดินเครื่องโรงงาน LSP ในเวียดนามอีกครั้งเมื่อ 20 ส.ค. 2568 โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตรวม 85–90% พร้อมเดินหน้าโครงการ LSPE (Ethane Project) ที่จะช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้ถึง 250 ดอลลาร์/ตัน คาดเริ่มผลิตปลายปี 2570 ธุรกิจซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์ Low Carbon Cement รุ่น Gen 3 ช่วยหนุนผลประกอบการในไทยและตลาดส่งออก โดยเฉพาะเวียดนามที่ยอดขายเติบโต 10% YoY ในไตรมาส 3/68 ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ SCGP ยังคงเติบโตอย่างมั่นคงจากฐานผู้บริโภคในอาเซียน โดยเน้นการเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานในภูมิภาค ด้านการเงิน SCGลดหนี้สุทธิลงกว่า 32,000 ล้านบาทในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2568 และมีเงินสดในมือกว่า 50,000 ล้านบาท แม้แนวโน้มระยะสั้นจะยังไม่สดใส แต่ SCG ยังคงยึดมั่นในวินัยทางการเงินและการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยเฉพาะการเร่งเจาะตลาดเวียดนามและการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

  • fin
  • set
  • set
  • set
  • hoonsmart

    กรณีศึกษา SCG ประโยชน์ของ BOI+SET จาก 1 บริษัท 1 ธุรกิจสู่ 300 บริษัท 4 ธุรกิจ 04/11/68

    HoonSmart.com>>เอสซีจี แชร์ประสบการณ์รับการส่งเสริมสิทธิพิเศษจาก BOI จากจุดเริ่มต้น 1 บริษัท สู่การเติบโตแตกตัวเพิ่มเป็นกว่า 300 บริษัท ที่มี SET ช่วยปลดล็อกศักยภาพการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหนุนการเติบโตในระยะยาว ชี้การทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อของ 2 หน่วยงาน จะเป็นกลไกทรงพลังที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยสู่เวทีโลก นางจันทนิดา สาริกะภูติ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือ SCG กล่าวในงานสัมมนา “BOI to IPO: ตลาดทุนสร้างการเติบโต” ในช่วงเสวนาหัวข้อ “การยกระดับการเติบโตด้วยกลไกของตลาดทุน” ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง SCG กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยาวนาน โดยมีลักษณะคล้าย “คู่บุญบารมีกันมาเลย” การเติบโต ส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนของ BOI และยังคงใช้ประโยชน์จากการส่งเสริมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทฯจะมีขนาดใหญ่และมีความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนของตนเองแล้วก็ตาม

  • mitihoon

    SCG ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568  เผชิญเศรษฐกิจท้าทายและปัจจัยภายนอกกดดัน กระแสเงินสดเข้มแข็ง 14,191 ล้านบาท จากวินัยการเงินเข้มงวด กำไรที่ไม่รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือและรายการปรับโครงสร้างธุรกิจ 7 29/10/68

    มิติหุ้น – เอสซีจี เผยไตรมาส 3 ปี 2568 กระแสเงินสด (EBITDA) 14,191 ล้านบาท ผลจากการรักษาวินัยทางการเงินเข้มงวด รายได้จากการขาย 121,793 ล้านบาท กำไรที่ไม่รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือของเอสซีจีซี และรายการปรับโครงสร้างธุรกิจ 774 ล้านบาท ขณะที่มีขาดทุนสำหรับงวด 669 ล้านบาท แม้เผชิญกับเศรษฐกิจโลก-ไทยชะลอตัว เอสซีจีได้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายพอร์ตสินค้าราคาคุ้มค่า-HVA-กรีน และคว้าโอกาสตลาดเวียดนามเติบโตสูง ผลิต-ส่งออกสู่ตลาดโลก เอสซีจีแจ้งผลประกอบการ ไตรมาส 3 ปี 2568 และ 9 เดือน ปี 2568 แม้เผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทายและปัจจัยกดดันภายนอก ผลจากการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในระดับมั่นคง กระแสเงินสด (EBITDA) ช่วง 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 44,511 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 38,768 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความพยายามปรับโครงสร้างการดำเนินงานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การรักษาวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด การบริหารต้นทุนให้แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก การขยายพอร์ตสินค้าราคาคุ้มค่า Smart Value – HVA- กรีน กระแสเงินสด (EBITDA) ไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 14,191 ล้านบาท ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน จากเงินปันผลรับตามฤดูกาล รายได้จากการขาย 121,793 ล้านบาท ลดลง 2% จากปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง และรายได้จากการขายที่ลดลงของเอสซีจีพี กำไรเมื่อไม่รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือของเอสซีจีซี และรายการปรับโครงสร้างธุรกิจ 774 ล้านบาท ซึ่งหากรวมรายการดังกล่าวจะมีขาดทุนสำหรับงวด 669 ล้านบาท

  • mitihoon

    SCGD Reports 37% Profit Growth in Q3 and 9M/2025 Results amid the Challenges Focus on Vietnam as strategic Production and Export hub to support Growing ASEAN market Expand HVA products for all Consu 28/10/68

    Mitihoon – October 28, 2025 – SCGD announced third-quarter operating results with net profit of 305 million Baht, representing a 37% increase compared to the previous quarter and marking the best performance since listed in Stock Exchange of Thailand. The Company has positioned PRIME Vietnam as its regional production and export hub across ASEAN while improving production efficiency, managing costs, and developing HVA products and New Growth business in Thailand to respond to consumers across all lifestyles. Mr. Numpol Malichai, Chief Executive Officer and President of SCG Decor Public Company Limited (SCGD), a leading Decorative Surface, and Bathroom business in ASEAN region, stated that the Company’s third-quarter 2025 performance showed EBITDA of 902 million Baht, improving 12% from the previous quarter and 18% from the same period last year. Net profit reached 305 million Baht, up 37% from the previous quarter and 61% from the same period last year, with EBITDA on sales was 16% and Net Profit margin was 5.3%. When excluding non-recurring items, the Company still maintained its best profitability through intensive strategic execution and continuous efficiency improvement initiatives. For 9M 2025, the company achieved EBITDA of 2,513 million Baht and net profit of 744 million Baht. Despite ongoing challenges of the overall decorative surface and construction materials market due to economic conditions and intense competition, SCGD has maintained strong competitiveness through efficient cost management and focused on developing HVA and New Growth business that create added value for the business while meeting modern consumer demands. Simultaneously, the Company continues expanding production capacity overseas, particularly in Vietnam, which serves as the main production and export base for ASEAN region to accommodate recovering construction materials demand domestically and increasing global market expansion. The Company remains confident in strengthening its position and enhancing long-term competitiveness through its 4×4 strategy as follows:

  • set