สรุปงบล่าสุด SCG
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3/2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 750.36 ล้านบาท ลดลง 9.42% เมื่อเทียบกับ 828.38 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 มีรายได้รวม 2,390.14 ล้านบาท ลดลง 15.32% จาก 2,822.56 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า การลดลงของรายได้มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณรับซื้อไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลดลงจาก 90 เมกะวัตต์ เหลือ 30 เมกะวัตต์ ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2567 ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง และราคาขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมลดลงตามนโยบายปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าของภาครัฐ (หน้า 2, 3)
บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน (7.98) ล้านบาท ลดลง 62.35% จาก (21.20) ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 ในขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2568 มีผลขาดทุนสุทธิ (94.47) ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.18% จาก (51.57) ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า (หน้า 2, 3)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง นอกจากนี้ นโยบายปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าของภาครัฐยังส่งผลให้ราคาขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมลดลงด้วย (หน้า 3)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **ต้นทุนขาย:** ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนปี 2568 ต้นทุนขายลดลง 9.02% และ 13.72% ตามลำดับ จากปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ลดลงตามปริมาณรับซื้อไฟฟ้าที่ลดลง รวมถึงประสิทธิภาพการผลิตของโรงไฟฟ้าใหม่ที่ดีขึ้น แต่มีการเรียกเก็บคืนเงินส่วนต่างมูลค่าก๊าซธรรมชาติในช่วงเดือนกันยายน - ธันวาคม 2566 ตามนโยบายภาครัฐประมาณ 151 ล้านบาท (หน้า 4)
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนปี 2568 ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 55.64% และ 14.84% ตามลำดับ (หน้า 4)
* **ค่าใช้จ่ายทางการเงิน:** ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนปี 2568 ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 11.73% และเพิ่มขึ้น 1.70% ตามลำดับ จากการเริ่มบันทึกดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าใหม่เป็นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยหลังการเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าใหม่ แต่มีแนวโน้มลดลงตามการลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยของบริษัทที่ลดลง (หน้า 4)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 8,112.57 ล้านบาท ลดลง 3.77% จาก 8,430.24 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* **หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย:** หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ที่ 4,559.78 ล้านบาท ลดลง 1.79% จาก 4,642.85 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 3,282.12 ล้านบาท ลดลง 4.50% จาก 3,436.95 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1.47 เท่า จาก 1.45 เท่า ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 5)
* **อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1.27 เท่า จาก 1.22 เท่า ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 5)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* บริษัทได้รับการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM Checklist) ประจำปี 2568 ในระดับ "ดีเยี่ยม" ด้วยคะแนนเต็ม 100 คะแนนต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (หน้า 1, 8)
* บริษัทกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่บูรณาการเข้ากับแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนขนาดย่อมทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน (หน้า 7)
* บริษัทเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 (หน้า 7)
* บริษัทดำเนินธุรกิจด้านใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) (หน้า 7)
* บริษัทดำเนินกิจกรรมด้านสังคมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมผ่านกระบวนการทางธุรกิจ (หน้า 8)
* บริษัทมีความคืบหน้าในโครงการสำคัญ เช่น SOLAR ROOFTOP และ SOLAR FARM (หน้า 9, 10, 11)
(13.83%)
(9.60%)
(383.91%)
(16.69%)
(429.86%)
(7.95%)
(64.29%)
(55.64%)
(85.70%)
(55.12%)
(61.48%)
(1,040.30%)