สรุป OPPDAY หุ้น PTT

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
แน่นอนครับ ผมได้สรุปเนื้อหา Oppday ตามโครงสร้างที่คุณกำหนดไว้เรียบร้อยแล้วครับ
สรุป Oppday ปตท. : ผลประกอบการปี 2024 และทิศทางอนาคต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ผลการดำเนินงานของปตท. ในไตรมาสที่ 4 และตลอดปี 2024 ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งภายนอกและภายใน ปัจจัยภายนอกที่สำคัญคือราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลง 6% ในไตรมาส 4 และลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมถึงซัพพลายที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก
ต้นทุนก๊าซเฉลี่ยของปตท. ลดลง 6% ในไตรมาส 4 และ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการปรับลดลงของราคาก๊าซจากแหล่งพม่าและการนำเข้า LNG ที่ลดลง ราคาสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ลดลง 3% และ 5% ตามลำดับ จากซัพพลายที่สูงและดีมานด์ที่ยังต่ำ
โดยรวมแล้ว ผลการดำเนินงานของปตท. ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 9 หมื่นล้านบาท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและส่งเสริมความร่วมมือในกลุ่มผ่านโครงการ P1 มีการบริหารความสมดุลระหว่างกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนกับการด้อยค่าสินทรัพย์
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
ปตท. มองเห็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะ LNG ซึ่งเป็นพลังงานที่ใช้ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่สะอาดในอนาคต มีการศึกษาและวางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับการเติบโตของตลาด LNG ในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินเดียและไต้หวัน ปตท. ยังให้ความสำคัญกับการทำ Value ร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อให้เกิดมูลค่าสูงสุด โดยเข้าร่วม Project One ตั้งแต่ปี 2563
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ปตท. เผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น เศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด LNG และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมพลังงาน
ความท้าทายที่สำคัญคือการปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยต้องสร้างสมดุลระหว่างการสร้างผลกำไรและการรักษาสิ่งแวดล้อม
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
ปตท. ใช้หลายวิธีในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารความเสี่ยง มีการปรับกลยุทธ์และโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยังมีการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและรองรับการเติบโตในอนาคต
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
แนวโน้มของธุรกิจปตท. ในอนาคตจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน การเติบโตควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการขยายธุรกิจไปยังพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีใหม่ๆ วิสัยทัศน์ของปตท. คือการเป็น "Greater Sustainable for Thailand and the World" โดยจะกลับมาให้ความสำคัญกับธุรกิจ Hydrocarbon และ Power ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท
เป้าหมายระยะยาวของปตท. คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Target) ภายในปี 2050 โดยจะผลักดัน 5 เรื่องหลัก ได้แก่ Competitiveness Enhancement, Growth and Necessity, Sustainability, Enable Transformation, และ Foundation
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [01:08:15]
ชื่อหัวข้อช่วงถาม-ตอบ:
- ผลกระทบจากการที่โรงไฟฟ้าจัดหา LNG เอง
ปตท. จะเสียโอกาสในการเรียกเก็บค่าบริการจัดหาก๊าซ (Supply Margin) ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้ายังต้องใช้ infrastructure ของ ปตท. เช่น LNG terminal และท่อส่งก๊าซ ทำให้รายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
- โอกาสที่ธุรกิจยาจะสร้างรายได้ 5-10% ของรายได้รวมใน 3 ปีข้างหน้า
ปี 2024 ธุรกิจยาของ Lotus Pharmaceutical สร้างกำไรให้ ปตท. ประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือ 1.3% ของ Total Net Income คาดว่ากำไรจะสูงขึ้นจากการขยายตลาดในเอเชีย คาดว่าการจำหน่ายยา Lenalidomide จะสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และ ปตท. มีการกำหนดให้ธุรกิจ Life Science มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเองและมีการกำกับดูแลที่เหมาะสม
- แนวโน้มรายได้ปี 68 จะเติบโตเท่าไร และงบลงทุนปีหน้า
ปกติการขายจะเพิ่มขึ้นตาม GDP ประเทศซึ่งปีหน้ารายได้รวมน่าจะสูงขึ้น ทั้ง demand ก๊าซธรรมชาติ, ออยล์, การขายที่เพิ่มขึ้นจาก G1 รวมถึงการติดตาม ปัจจัยภายนอกหลายด้าน เช่น นโยบายสหรัฐฯ, ความขัดแย้งรัสเซียและยูเครน, การเจรจาหยุดยิงฮามาสและอิสราเอล, การเพิ่มกำลังการผลิต OPEC โดยได้ประกาศ งบลงทุน 5 ปี ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาโดย ปตท. และลูกร้อยงบลงทุน 5 ปีประมาณ 54,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและการสร้าง Infrastructure
- ความคืบหน้าการปรับพอร์ตของ GC, Thai Oil, IRPC, และการลดสัดส่วนการถือหุ้น
ปตท. มุ่งเน้นการบริหารจัดการ Portfolio ของกลุ่ม Petroleum ขั้นปลายให้เหมาะสม และ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท Flagship ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นการหารือกับ Potential Strategic Partner โดยหากมีความชัดเจนจะสื่อสารให้ทราบต่อไป
- ความคืบหน้าโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3
ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง Infrastructure โดยจะเปิดให้บริการปลายปี 2571
- ผลกระทบจากการที่โรงไฟฟ้าจัดหา LNG เอง
- โอกาสในธุรกิจยาและการเติบโตในอนาคต
- แนวโน้มรายได้ปี 68 และงบลงทุนปีหน้า
- ความคืบหน้าการปรับพอร์ต GC, Thai Oil, IRPC
- ความคืบหน้าโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3
โดยสรุปแล้ว ปตท. ยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับตัวและเติบโตในอุตสาหกรรมพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและสังคม