สรุปงบล่าสุด PSL
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บทความสรุปผลประกอบการของ หุ้น PSL บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 3 ปี 2568
เริ่มต้นด้วยการสรุปรายได้รวม ซึ่งรายได้ต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยสำหรับไตรมาสสามปี 2568 อยู่ที่ 13,368 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าไตรมาสสามปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 12,755 เหรียญสหรัฐ (หน้า 2)
สถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสล่าสุด:
แม้จะไม่มีข้อมูลเจาะจงเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในเอกสาร แต่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง เช่น การชะลอการนำเข้าแร่เหล็กของจีนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 แต่ไม่ได้ลดลงในระดับที่มีนัยสำคัญ (หน้า 7)
การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไรของบริษัท:
ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยของบริษัทฯ อยู่ที่ 5,284 เหรียญสหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่บริษัทฯ ตั้งไว้สำหรับปีนี้ที่ 5,670 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำเรือ แต่สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงในช่วงไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่ 5,175 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำเรือ (หน้า 2)
บริษัทฯ มีรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อม (EBITDA) อยู่ที่ 21.36 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 7.78 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกำไรสุทธิต่อหุ้นหน่วยเป็นเงินสกุลไทยบาทอยู่ที่ 0.17 บาทต่อหุ้น (หน้า 2)
สำหรับไตรมาสสามสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 252.39 ล้านบาท เปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 279.90 ล้านบาทสำหรับไตรมาสสามของปี 2567 (หน้า 3)
ข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัท:
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัท รวมถึงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ในเอกสาร
การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดของบริษัท:
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดของบริษัท ในเอกสาร
ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในบริษัท:
ปัจจัยความเสี่ยง:
การที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องนโยบายการลดคาร์บอนทั่วโลกและภาษีคาร์บอนไปจนถึงวันสุดท้ายของการประชุม MEPC เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 (หน้า 6-7)
โอกาสการเติบโต:
การที่เหมืองแร่เหล็กซิมันดู (Simandou) สามารถดำเนินการได้เต็มกำลังการผลิตที่ 120 ล้านตันต่อปี ระยะเวลารอและขนถ่ายของท่าเรือดังกล่าวคาดว่าจะใกล้เคียงกับท่าเรือบอกไซต์ เนื่องจากใช้ระบบขนถ่ายลักษณะเดียวกัน (หน้า 8)
ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้, กำไร, อัตรากำไรขั้นต้น, อัตรากำไรสุทธิ, และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):
รายได้จากการเดินเรือสุทธิสำหรับไตรมาสสามปี 2568 สูงกว่ารายได้จากการเดินเรือสุทธิจากไตรมาสสามปี 2567 คิดเป็นร้อยละ 1 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเรือโดยเฉลี่ยที่ใช้ในการดำเนินงานในไตรมาสสามปี 2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสสามปี 2567 (หน้า 3)
ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือของไตรมาสสามปี 2568 สูงขึ้นประมาณร้อยละ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในไตรมาสสามปี 2567 โดยสาเหตุหลักเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเรือโดยเฉลี่ยที่ใช้ในการดำเนินงานในไตรมาสสามปี 2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสสามปี 2567 (หน้า 3)
ค่าใช้จ่ายในการบริหารในไตรมาสสามปี 2568 ลดลงจากไตรมาสสามปี 2567 จำนวน 23.47 ล้านบาท โดยมีสาเหตุเนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (หน้า 3)
ค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับไตรมาสสามปี 2568 สูงขึ้นจำนวน 6.20 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในไตรมาสสามปี 2567 โดยสาเหตุหลักเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้และหุ้นกู้ (หน้า 3)
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 11.94 ล้านบาทมีสาเหตุหลักเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าที่เทียบเท่าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐของหนี้สินสกุลเงินบาท (หน้า 3)
(20.44%)
(0.74%)
(21.16%)
(0.35%)
(0.60%)
(0.40%)
(14.63%)
(17.86%)
(682.70%)
(9.83%)
(0.00%)
(51.94%)