PSL
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองปี 2567 มีกำไรสุทธิ 14.36 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสองปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 8.21 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีรายได้ต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยอยู่ที่ 13,483 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าไตรมาสสองปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 11,424 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ดำเนินการปรับปรุงกองเรือโดยการขายเรือเก่าขนาดแฮนดี้ไซส์ 2 ลำ และเรือขนาดซูปราแมกซ์ 1 ลำ พร้อมกับการซื้อเรือแฮนดี้ไซส์ขนาด 39,000 เดทเวท 2 ลำ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และลงนามในสัญญาต่อเรือขนาดอัลตราแมกซ์ 4 ลำ ซึ่งจะต่อแล้วเสร็จและส่งมอบระหว่างปี 2569 ถึงปี 2570

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของ PSL ในอนาคตเน้นการปล่อยเรือให้เช่าในระยะยาว โดยบริษัทฯ มีสัญญาเช่าเรือระยะยาวกว่าหนึ่งปีในอีก 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 21 ด้วยรายได้ที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 168.32 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทฯ ยังคงติดตามสถานการณ์ตลาดอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองอย่างใกล้ชิดและมีเป้าหมายในการทํารายได้ให้เหนือกว่าดัชนีค่าระวางเรือทั้งสองคือ BDI และ BSI เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน

ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ PSL แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของธุรกิจเดินเรือโดยมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 14.05 บาท ในขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบัน (ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567) อยู่ที่ 10.30 บาท อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ได้แก่ P/E (ล่าสุด 12.66) P/BV (ล่าสุด 0.75) YIELD (ล่าสุด 2.96) D/E (ปี 2566) อยู่ที่ 0.5 แสดงให้เห็นว่า PSL มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ง่าย วงจรเงินสดของ PSL (ปี 2566) อยู่ที่ -4.02 ล้านบาท แสดงถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ได้ดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน (ปี 2566) อยู่ที่ 2219.86 ล้านบาท และมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน (ปี 2566) อยู่ที่ -540.61 ล้านบาท สำหรับโอกาสการลงทุนใน PSL มีดังนี้
* บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* บริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองเรือและสร้างรายได้จากการให้เช่าเรือ
* บริษัทฯ มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและมุ่งเน้นการเติบโตในระยะยาว

ในขณะเดียวกัน PSL ยังมีความเสี่ยงบางประการที่นักลงทุนควรพิจารณา
* ความผันผวนของอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง
* ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
* กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมเดินเรือ

PSL เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวที่มีผลตอบแทนดี โดยเน้นการลงทุนแบบ passive income และไม่หวังผลกำไรระยะสั้น โดยรวมแล้ว PSL เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงของ PSL อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน


จากข้อมูลเพิ่มเติมที่ให้มา บริษัท PSL มีแผนขยายกองเรือ โดยการซื้อเรือแฮนดี้ไซส์ขนาด 39,000 เดทเวท 4 ลำ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 และบริษัทฯ มีแผนจะขายเรือขนาดแฮนดี้ไซส์ที่มีอายุมากและขนาดเล็ก รวมทั้งเรือขนาดซูปราแมกซ์ที่มีเครื่องยนต์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการปรับปรุงประสิทธิภาพของกองเรือและลดต้นทุนการเดินเรือ

นอกจากนี้ บริษัท PSL ยังคงติดตามสถานการณ์ตลาดอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองอย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่าอัตราค่าระวางจะยังคงผันผวนอย่างรุนแรงในอนาคต เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานอยู่ในจุดสมดุล โดยบริษัทฯ มองว่า อัตราค่าระวางจะได้รับแรงหนุนจากอุปทานใหม่สุทธิที่อยู่ในระดับต่ำ และการขาดคําสังต่อเรือใหม่

โดยรวมแล้ว การขยายกองเรือและการปรับปรุงประสิทธิภาพของกองเรือของ PSL เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ และน่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ตลาดอัตราค่าระวางเรืออย่างใกล้ชิด และพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ให้มาชี้ให้เห็นถึงความต้องการในระยะยาวของสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน และธัญพืช ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเดินเรือ โดยเฉพาะกลุ่มเรือขนาดใหญ่ นอกจากนี้ อัตราส่วนคําสังต่อเรือใหม่ต่อกองเรือ ณ ต้นไตรมาสสามของปี 2567 อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้กองเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองโลกน่าจะขยายตัวช้าลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจเดินเรือ เนื่องจากจะช่วยรักษาอัตราค่าระวางให้สูงขึ้น

PSL ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศและการเติบโตของอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ตลาดอัตราค่าระวางเรือและความเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลก ก่อนตัดสินใจลงทุน


รายได้รวม
1,742.26 ล้านบาท
161.93ล้านบาท
(10.25%)
ไตรมาสก่อนหน้า
382.17ล้านบาท
(28.10%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
2,667.14 ล้านบาท
292.60ล้านบาท
(12.32%)
ไตรมาสก่อนหน้า
607.26ล้านบาท
(29.48%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
153.08 ล้านบาท
2.82ล้านบาท
(1.88%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1.63ล้านบาท
(1.08%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
109.80 ล้านบาท
21.01ล้านบาท
(23.66%)
ไตรมาสก่อนหน้า
35.85ล้านบาท
(48.48%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
6.30 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
529.52 ล้านบาท
120.05ล้านบาท
(29.32%)
ไตรมาสก่อนหน้า
243.65ล้านบาท
(85.23%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
30.39 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
743.97 ล้านบาท
77.59ล้านบาท
(9.44%)
ไตรมาสก่อนหน้า
18.35ล้านบาท
(2.53%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล