สรุป OPPDAY หุ้น PRM
Oppday
สรุป OPPDAY
PRM Oppday สรุปผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568: ขยายตลาด, ปรับกลยุทธ์, และโอกาสในอนาคต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
รายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 2,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีเดียวกัน และเพิ่มขึ้น 152 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อนหน้า
รายได้รวม 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 6,608 ล้านบาท ลดลง 81 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 1,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมีเรือทั้งหมด 68 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 64 ลำในช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อนหน้า
ผลกระทบเชิงลบ: กลุ่มเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมีเหลว (PCT) มีรายได้ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากความตึงเครียดด้านชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง
ปัจจัยภายนอก: ความตึงเครียดด้านชายแดนไทย-กัมพูชา, ฤดูมรสุมในภาคใต้ที่ทำให้การขนถ่ายน้ำมันล่าช้า, และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
ขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ South East Asia เช่น สิงคโปร์, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ตีมอร์, และอินโดนีเซีย เพื่อชดเชยเส้นทางขนส่งเดิมที่หายไป
ขยายกองเรือในธุรกิจ Offshore Support Vessel (OSV) โดย ณ สิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2568 มีเรือในธุรกิจนี้จำนวน 5 ลำ
เน้นการให้บริการภายใต้สัญญาระยะยาวเพื่อสร้างเสถียรภาพทางด้านรายได้
โอกาสในตะวันออกกลาง: ความต้องการเรือ Crew Boat ที่ไม่ได้ลดลง โดยมี UAE และ ซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดหลัก
- กลยุทธ์: การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และการให้บริการภายใต้สัญญาระยะยาว
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงด้านการตลาด: ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง, การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม, และการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบ
ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน: ความล่าช้าในการซ่อมบำรุงเรือ, อุบัติเหตุทางทะเล, และการขาดแคลนลูกเรือที่มีทักษะ
ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์: ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ
- ผลกระทบ: รายได้อาจลดลง, ต้นทุนอาจเพิ่มขึ้น, และการดำเนินงานอาจล่าช้า
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
การปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งไปยังตลาดใหม่เพื่อชดเชยผลกระทบจากความตึงเครียดด้านชายแดน
การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง
การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดความเสี่ยง
การฝึกอบรมและพัฒนาลูกเรืออย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีทักษะที่ทันสมัย
- กลยุทธ์: การกระจายความเสี่ยง, การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, และการลงทุนในบุคลากร
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
แนวโน้ม: ธุรกิจเดินเรือยังมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง
เป้าหมาย: การเป็นผู้นำในธุรกิจเดินเรือระดับภูมิภาคและการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
วิสัยทัศน์: การเป็นบริษัทเดินเรือที่ให้บริการครบวงจรและมีคุณภาพระดับโลก
- เทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการบริหารจัดการกองเรือและการให้บริการลูกค้า
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 47.35]
- Q: แนวโน้ม Q4/2568 จะดีกว่า Q3/2568 หรือไม่ และปีหน้าจะเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์
- A: (ผู้บริหาร) Q4/2568 คาดว่าจะดีขึ้น:
- ธุรกิจ PCT จะกลับมาดีขึ้นจากการหาตลาดใหม่ทดแทน
- Q4 เป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว, ความต้องการใช้น้ำมัน Jet เพิ่มขึ้น
- ธุรกิจ COC อาจชะลอเล็กน้อยเพราะเรือเข้าอู่ตามแผน
- ธุรกิจ FSU ยังดีอยู่ แม้มีการสลับเรือ แต่ Demand ยังสูง
- ธุรกิจ Offshore ดีขึ้นชัดเจน, เรือเข้างาน NMDCC ตั้งแต่ พ.ย.
- ต่อสัญญากับเรือ AWB อัตราค่าบริการเพิ่ม, สัญญายาวขึ้น (5 ปี)
- ธุรกิจ Shipping Agent ใช้ประโยชน์จาก VC ได้เต็มที่, ปลายปีการนำเข้าส่งออกเพิ่ม
- A: (ผู้บริหาร) ตัวเลขการเติบโตไม่สามารถเปิดเผยได้
- Q: กำไรจะเป็น New High หรือไม่
- A: (ผู้บริหาร) ไม่สามารถให้ข้อมูลกำไรได้ แต่ธุรกิจยังดี
- Q: ความเสี่ยงในการ Deploy เรือในตะวันออกกลาง มีอะไรเพิ่มเติม
- A: (ผู้บริหาร) สัญญาเป็นแบบ Bareboat (เช่าเรือเปล่า) ความเสี่ยงต่ำกว่า Time Charter (เช่าเหมาลำ) มาก
- Bareboat: ความรับผิดชอบเรื่องคนเรือ, ประกันภัย, บำรุงรักษา เป็นของผู้เช่า
- Q: ผลการดำเนินงานของ VC Shipping เป็นไปตามแผนหรือไม่
- A: (ผู้บริหาร) รายได้และกำไรขั้นต้นเติบโตขึ้นมากจากแผนเดิม, เป็นไปตามแผน
- Q: Cost Border ไทย กัมพูชา หดตัวมากไหม
- A: (ผู้บริหาร) มีผลกระทบบ้าง, แต่ Cargo ระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่เยอะมากนัก, มุ่งเน้น Cargo อื่นๆ ใน South East Asia มากกว่า, เช่น เคมีเหลว
- Q: มีแผนการขยายเรือ FSO หรือไม่
- A: (ผู้บริหาร) ขึ้นกับ Demand ของลูกค้าในอ่าวไทย, ต้องเริ่มจากการประมูลงาน
- ปัจจุบันมีผู้ได้รับสัมปทาน 2 เจ้าหลัก (สผ. กับ Chevron)
- ยังไม่มีการเปิดหลุมใหม่, หากมีการเปิดหลุมใหม่ และมีความต้องการเรือ FSO เพิ่ม PRM พร้อมเข้าแน่นอน
- Q: ธุรกิจ OCE (Offshore) มี Tender รออยู่อีกกี่ลำ
- A: (ผู้บริหาร) บอกตัวเลขไม่ได้, ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด, เพราะ PRM เป็นคู่สัญญาของลูกค้าแล้ว (Adnoc, NMDCC), สามารถเจรจาได้โดยตรง หากลูกค้ามี Demand ก็พร้อมจัดหา
- Q: ธุรกิจ PCT จากแคมโบเดีย ไปเส้นทางต่างประเทศถาวรหรือไม่
- A: (ผู้บริหาร) วันนี้ยังอยู่เลย, หาตลาดใหม่, เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ติมอร์
- สัญญาค่อนข้างยาวแล้ว, เป็น Time Charter, สัญญาเป็นระยะเวลาและแน่นอน หากสัญญานิ่งตัวรายได้น่าจะชดเชยได้ทั้งหมด
- Q: นโยบายปันผล
- A: (ผู้บริหาร) ผู้ถือหุ้นจะมั่นใจ, เราเชื่อมั่น Operation เราดีขึ้น, กำไรเพิ่มขึ้น, เราก็จ่ายปันผลเพิ่มขึ้น
- ปันผลไม่กระทบกับการขยายเรือ
- Q: ลูกค้ารายใหญ่ มี Contact เหลืออีกกี่ปี, มี Rate
- A: (ผู้บริหาร) บอก Rate ไม่ได้
- Contact ทั้ง 2 ลำ เป็น Firm (ใช้แน่นอนไม่ว่าอะไรจะเกิด), จำนวน 2-3 ปี
- ที่เหลืออีก 2-3 ปี จะเป็นการต่อลองกันต่อไป
- สัญญา 4 ลำ มีประมาณ 5 ปี (Firm 2-3 ปี)
- Q: ขนส่ง Thai Oil ครบ 10 ปี, ต่อสัญญาได้หรือไม่ แผนอย่างไร
- A: (ผู้บริหาร) สัญญา VCLCC จะสิ้นสุดปี 2574-2575, ยังมีเวลา, เราคุยกับลูกค้าแล้ว
- Thai Oil ต้องนำเข้าน้ำมันดิบ
- Demand เดิมยังไงก็ต้องมี เพราะไม่มีน้ำมันดิบก็ Operate ไม่ได้
- โครงการ CFP แล้วเสร็จ, คาด Thai Oil ต้องการใช้เรือเพิ่มขึ้น, เพราะโรงงานใหญ่ขึ้น
- จับตาดูสถานการณ์, แผน CFP, เราพร้อมสนับสนุน
- Q: เรือขยาย 4 ลำปีหน้า ว่าเป็นเรือชนิดใด
- A: (ผู้บริหาร) สิ้นปีนี้จะมี 70 ลำ (Q3 มี 68), Q4 มีเรือ NMDC 2 ลำ, สิ้นปี 70 ลำ, ปีหน้า 74 ลำ:
- เรือขนส่งเคมีเข้า Q1/2570 ขนาด 13,800 DWT
- เรือมือสอง 5,000 ตัน 1 ลำ เซ็นสัญญาแล้ว ส่งมอบ มี.ค. ปีหน้า
- เรือเคมี 1 ลำ
- ขยาย Gas LPG ไปลูกค้าเคมีต่างประเทศ
- เรือต่อใหม่ 6 ลำ รับปีหน้า 3 ลำ
- ปลดระวางเรือเก่า 3 ลำ
- สิ้นสุด ปีหน้า 74 ลำ
- Q: แนวโน้ม 468 (2568) เติบโต อะไรยังไง (น่าจะตอบแล้ว)
- Q: รักษาเงินสดระดับสูง เพื่อลดหนี้
- A: (ผู้บริหาร)
- เน้นสภาพคล่อง
- มีการลงทุนในปีนี้ และปีหน้าค่อนข้างเยอะ
- เกรงว่าสภาพคล่องจะไม่แข็งแรง
- อีกส่วนเงินเยอะกระจายในบริษัท, เน้นปันผลมาที่ PRM
- กำไรมาปันผลให้ผู้ถือหุ้น, ไปลงทุนเพิ่ม, ปีหน้าลงทุนเพิ่มได้อีก
- ต้องเน้นรักษาสภาพคล่องนี้ไว้
- Q: (สรุป, ผมพยายามสรุป, คุณสรุปให้หน่อย)
- Q: (เรื่อง) ดายออก (Dry Dock)
- A: (ผู้บริหาร) ปีหน้าจะลดลงจากปีนี้ทั้งหมด ลดลง โดยเฉพาะข่าวดีคือ กลุ่ม Fod Oil Carrier, COC ปีนี้เข้าดายออก 2 ลำ, ปีหน้าไม่เข้าแล้ว มีเรือ Underwater สำรวจ
- Dry Dock น้อยกว่าปีนี้
โดยสรุป, Premium Marine (PRM) กำลังขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง พร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต