สรุปงบล่าสุด PRI

บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (PRI) ปี 2567
บทความนี้สรุปผลประกอบการของบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (PRI) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 1,637.1 ล้านบาท ลดลง 14.5% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีรายได้ 1,915.9 ล้านบาท กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 262.2 ล้านบาท ลดลง 28.8% จาก 368.4 ล้านบาทในปี 2566 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิลดลงมาจากการลดลงของรายได้ในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(เนื่องจากข้อมูลที่ให้มาไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยตรง การวิเคราะห์ในส่วนนี้จึงไม่สามารถทำได้)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้:** การลดลงของรายได้มาจากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก:
* **กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม:** รายได้ลดลงเนื่องจากมูลค่าโครงการที่ให้บริการมีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
* **กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์:** รายได้ลดลงจากการให้บริการนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ แต่มีรายได้จากบริหารนิติบุคคลอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรร รวมถึง Residence management เพิ่มขึ้น
* **กลุ่มธุรกิจบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์:** รายได้ลดลงจากการงานตกแต่งภายใน แต่มีรายได้จากค่าบริการทำความสะอาดและงานช่างเพิ่มขึ้น
* **ต้นทุนขายและการให้บริการ:** ลดลง 19.9% สอดคล้องกับการลดลงของรายได้ โดยหลักๆ มาจากต้นทุนจากการขายอุปกรณ์ส่วนควบที่ลดลง และสัดส่วนการให้บริการของธุรกิจบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 69.5% เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพนักงาน ค่าตรวจสอบบัญชี ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายบริหารอื่นๆ เพิ่มขึ้น
* **กำไรสุทธิ:** ลดลง 28.8% เป็นผลมาจากรายได้ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 2,068.8 ล้านบาท ลดลง 16.9% จาก 2,490.5 ล้านบาทในปี 2566
* **หนี้สินรวม:** ณ สิ้นปี 2567 มีหนี้สินรวม 516.0 ล้านบาท ลดลง 30.6% จาก 744.2 ล้านบาทในปี 2566 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเจ้าหนี้การค้าที่ลดลง
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ณ สิ้นปี 2567 มีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,552.7 ล้านบาท ลดลง 11% จาก 1,746.3 ล้านบาทในปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการจ่ายเงินปันผล
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
(เนื่องจากข้อมูลที่ให้มาไม่ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดโดยตรง การวิเคราะห์ในส่วนนี้จึงไม่สามารถทำได้)
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
(เนื่องจากข้อมูลที่ให้มาไม่ได้กล่าวถึงปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนโดยตรง การวิเคราะห์ในส่วนนี้จึงไม่สามารถทำได้)
**7. สรุป:**
ในปี 2567 PRI ประสบกับความท้าทายในการรักษาการเติบโต โดยมีรายได้และกำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีหนี้สินรวมลดลงและส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ การลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เกิดจากการจ่ายเงินปันผล
**ความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดทางการเงิน:**
* **รายได้ที่ลดลง:** ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำไรสุทธิของบริษัท
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น:** เป็นอีกปัจจัยที่กดดันกำไรสุทธิ
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** (ไม่ได้ระบุในข้อมูล) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายและการให้บริการ
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ลดลงตามกำไรสุทธิที่ลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของบริษัทที่ลดลง
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** (ไม่ได้คำนวณโดยตรง แต่สามารถคำนวณได้จากข้อมูลที่ให้มา) ณ สิ้นปี 2567 D/E Ratio อยู่ที่ประมาณ 0.33 (516.0 / 1,552.7) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีระดับหนี้สินที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น
**การจัดการความเสี่ยงและโอกาส:**
(เนื่องจากข้อมูลที่ให้มาไม่ได้กล่าวถึงการจัดการความเสี่ยงและโอกาสโดยตรง การวิเคราะห์ในส่วนนี้จึงไม่สามารถทำได้)
**ข้อจำกัด:**
บทวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากข้อมูลที่ได้รับจากคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการของบริษัท PRI เท่านั้น การวิเคราะห์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นควรพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น รายงานประจำปี งบการเงินฉบับเต็ม และข้อมูลจากแหล่งภายนอกอื่นๆ
**หมายเหตุ:** บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(3.02%)
(24.34%)
(2.66%)
(11.61%)
(0.35%)
(16.82%)
(94.91%)
(93.14%)
(49.39%)
(57.65%)
(19.74%)
(19.84%)