สรุป OPPDAY หุ้น OR

  1. Home
  2. สรุป OPPDAY หุ้น OR
OR
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

สรุป OPPDAY หุ้น OR ไตรมาส 3 ปี 2568: วิเคราะห์ผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568, OR มีรายได้รวม 533,000 ล้านบาท ลดลงประมาณ 35,000 ล้านบาท หรือ 6.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน. การลดลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากกลุ่มธุรกิจ Mobility และ Global ที่ปรับตัวลดลง, ในขณะที่ Lifestyle มีการปรับตัวดีขึ้น

EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้, โดยเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านบาท หรือ 25% เป็น 15,000 ล้านบาท. การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงประมาณ 10%.

Net Income ปิดที่ 9,200 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 4,500 ล้านบาท หรือ 98.4%. การเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจาก EBITDA ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น, ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน, ตราสารอนุพันธ์, และอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น.

ธุรกิจ Mobility ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้, แต่ Lifestyle มี contribution ที่สำคัญ, โดยมี contribution ถึง 34% ในส่วนของ EBITDA.

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

OR มองเห็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจ Lifestyle และ Global. บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขา Cafe Amazon อย่างต่อเนื่อง, โดยเฉพาะในรูปแบบ Franchise. นอกจากนี้, บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน.

OR ตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจ Mobility และ Global. บริษัทมีแผนที่จะขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันและ EV Charging Station ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ.

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

OR เผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก, ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ, และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีก. นอกจากนี้, บริษัทยังเผชิญกับความเสี่ยงจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศกัมพูชา.

ความเสี่ยงด้านการเมืองภายในประเทศและการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

OR มีแผนที่จะบริหารจัดการความเสี่ยงโดยการทำ Hedging ราคาน้ำมัน, ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน, และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน. นอกจากนี้, บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า.

การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละประเทศ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนและ Supply Chain.

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

OR คาดการณ์ว่าธุรกิจจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต, โดยมีธุรกิจ Lifestyle และ Global เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก. บริษัทตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกและพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

การลงทุนในเทคโนโลยี EV และพลังงานสะอาดจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตในระยะยาว. OR ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการ EV Charging Station ในประเทศไทย.

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 32:37
  1. EV Business
    • Q: บริษัทมองการเติบโตของธุรกิจ EV เป็นอย่างไรในอีก 3-5 ปีข้างหน้า และมีแผนการขยายสาขาอย่างไร?
    • A: การเติบโตของธุรกิจ EV ขึ้นอยู่กับการเติบโตของจำนวนรถ EV. OR จะลงทุนในธุรกิจ EV ให้สอดคล้องกับจำนวนรถ EV ที่เติบโตขึ้น. OR มีการเพิ่ม Location EV Charging Station อย่างต่อเนื่อง แต่จะพิจารณาจากจำนวนรถที่ใช้งาน. OR ยังเป็นผู้นำในตลาด EV และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง.
  2. Cafe Amazon
    • Q: แนวโน้ม Same Store Sales Growth ของ Cafe Amazon เป็นอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่มีพรีเซนเตอร์ น้องอิงค์ วรินทร?
    • A: น้องอิงค์ วรินทร ช่วยในการรับรู้แบรนด์พรีเมียมของ Cafe Amazon. พรีเมียมโปรดักท์มีอัตรา Margin สูงกว่าโปรดักท์ปกติ. การมีน้องอิงค์มาช่วยส่งผลให้ Same Store Sales Growth ดีขึ้น 1-2%.
    • Q: ผู้บริหารคาดว่า Cafe Amazon มี potential ที่จะเปิดได้กี่สาขาทั่วประเทศ และมีแผนที่จะขยายอย่างไรในอนาคต?
    • A: ยังไม่สามารถนำเรียนจำนวนที่แน่นอนได้เนื่องจากอยู่ในช่วงของการอนุมัติบอร์ด แต่สามารถใช้ Guideline การขยายสาขาของปีนี้ (285 สาขา) เป็นแนวโน้มได้. Cafe Amazon ยังเติบโตได้อีก แต่ scale ในการลงทุนอาจจะเน้นไปที่ Compact Model มากกว่า.
  3. เงินสดคงเหลือ
    • Q: บริษัทมีแนวทางในการใช้เงินสดที่เหลืออยู่ (ประมาณ 35,000 ล้านบาท) อย่างไร?
    • A:
      • ขยายธุรกิจ Lifestyle (Food and Beverage).
      • Acquire รูปแบบหรือแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริม Lifestyle.
      • ลงทุนในธุรกิจ Mobility (เสริมเครือข่าย, Maintenance ปั๊ม).
      • ลงทุนในต่างประเทศใน segment ที่ยังมี opportunity.
      • พิจารณาจ่าย Dividend (ปัจจุบันจ่ายประมาณ 50% กว่าๆ Pay Out Ratio, Return ประมาณ 3.6%).
  4. Demand น้ำมัน
    • Q: แนวโน้ม Demand ของน้ำมันเป็นอย่างไร ทั้งในส่วนของ Retail และ Commercial ในปีหน้า?
    • A: Demand ของน้ำมันมักจะเติบโตตาม GDP ของประเทศ. ตลาด Retail เริ่มหดตัวลงเนื่องจากการเข้ามาของรถไฟฟ้า. OR ลดลงตามตลาด แต่ลดลงน้อยกว่าตลาด. ตลาด Commercial ยังเติบโตต่อเนื่องจากน้ำมัน Jet.
  5. แผนธุรกิจปั๊มและ Cafe Amazon ในต่างประเทศ
    • Q: บริษัทมีแผนจะขยายปั๊มน้ำมันและ Cafe Amazon ไปประเทศอื่นเพิ่มเติมหรือไม่?
    • A: เน้นขยายใน Southeast Asia. ยังดูประเทศใหม่อยู่ แต่ยังไม่มีเป้าหมายเพิ่มเติมที่ชัดเจน. ขยายและสร้างความแข็งแกร่งในประเทศที่มีอยู่. นอกจาก Operate เองใน Southeast Asia, มีการให้ Franchise สำหรับ Cafe Amazon ในหลายประเทศ (โอมาน, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย).
  6. แนวโน้มธุรกิจ Global
    • Q: บริษัทมองแนวโน้มธุรกิจ Global ในไตรมาส 4 ปีนี้ และทั้งปี 2569 เป็นอย่างไร?
    • A: Trend ของตลาดการใช้น้ำมันค่อนข้างทรงตัว. ฟิลิปปินส์น่าจะมีการขยายตัว. ลาวเติบโตตาม GDP ของประเทศ. กัมพูชามีผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดน. คาดหวังว่าเหตุการณ์จะกลับมาปกติในครึ่งปีหลังของปีหน้า.
  7. ภาพรวมผลประกอบการ
    • Q: แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4 และภาพรวมของปีนี้เป็นอย่างไร?
    • A: ไตรมาส 4 เป็นหนึ่งในไตรมาสที่เป็น High ของ OR. ราคาน้ำมันไม่ผันผวนมากนัก. บริหารปริมาณ Inventory อย่างเหมาะสม. มีความมั่นใจในผลประกอบการในไตรมาส 4.
  8. เป้าหมายและงบลงทุนปี 2569
    • Q: สำหรับเป้าหมายปี 2569, บริษัทมองว่าจะเติบโตเท่าไหร่ และเตรียมงบลงทุนไว้เท่าไหร่?
    • A: งบลงทุนปีหน้าอยู่ในระหว่างขออนุมัติ. จะแจ้งให้ทราบเมื่อได้รับการอนุมัติ. ยังคงลงทุนใน Mobility และ Lifestyle ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง.
  9. Fast & Frew
    • Q: บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของ Fast & Frew อย่างไร ทั้งในแง่รายได้และจำนวนสาขา?
    • A: ยังอยู่ในขั้นตอนทดลอง. ในปีหน้าจะมีเปิด Sale Point ประมาณ 50 จุด เพื่อทดสอบตลาดและ Product. ยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับของการเลือก Location ที่เหมาะสม และการเลือก Product ที่มีคุณภาพดี.
  10. ธุรกิจโรงแรม
    • Q: สำหรับธุรกิจโรงแรม มีแผนจะเริ่มช่วงไหน?
    • A: ธุรกิจโรงแรม (Budget Hotel) ซึ่งจะรองรับนักเดินทางที่เดินทางไกล. ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ. ในสิ้นปีนี้/ไตรมาส 4 อาจจะเห็นข่าวความร่วมมือกับ Site ใด. ในปีหน้า (ครึ่งปีหลัง) จะเห็นเริ่มลงมือก่อสร้างใน Location ที่ได้เลือกไว้แล้ว.
  11. การยกเลิก Brand ในกัมพูชา
    • Q: สัดส่วนของการขอยกเลิก Brand ที่กัมพูชา ต่อจำนวนสถานีทั้งหมดเป็นเท่าไหร่?
    • A: ประมาณ 10% ที่ Dealer ของ OR ขอ Rebrand ไปเป็น Local Brand (ประมาณ 50 ปั๊ม).
  12. ร้านสะดวกซัก
    • Q: ขอสอบถามเกี่ยวกับอัตราการเปิดและปิดสาขาของร้านสะดวกซัก Otteri บริษัทมีมุมมองอย่างไรต่อร้านสะดวกซักที่มีการเปิดและปิดตัวมากขึ้นเรื่อยๆ?
    • A: Otteri มีการปรับปรุงในหลายๆ เรื่อง (Application, Location, คุณภาพของเครื่องซัก). ธุรกิจเติบโตในระดับหนึ่ง. มีการเอาไปขยายที่ต่างประเทศด้วย (กัมพูชา - 10 กว่าสาขา) ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี.

โดยสรุป, OR ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอก, แต่ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในธุรกิจหลักและขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ. การบริหารจัดการความเสี่ยงและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในปี 2568 และปีต่อๆไป