NTSC
บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

NTSC ผ่าวิกฤตเศรษฐกิจฝืดเคือง สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนใน Q3 ปี 2568 พร้อมกลยุทธ์พิชิตเป้าหมายปี 2569

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน พบกับการสรุปผลการดำเนินงานของ บมจ.นิวทริชั่น เอสซี (NTSC) ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 พร้อมเจาะลึกโอกาสและความท้าทายทางธุรกิจ รวมถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายในอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ:

    1. สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย

    2. อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน

    3. การแข่งขันในตลาดส่งออกและภูมิภาคอาเซียน

    4. พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

    5. ค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้น

    6. สภาพอากาศแปรปรวน

    7. ความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศ

    8. สงครามที่ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบ

  • ผลกระทบต่อ NTSC: แม้ปัจจัยภายนอกจะมีความท้าทาย แต่ NTSC สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงโดยการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดและประเทศต่างๆ ทำให้ผลกระทบน้อยที่สุด

  • ผลการดำเนินงาน:

    1. สินทรัพย์รวม: 1,327.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 38.4 ล้านบาท (3%)

    2. หนี้สินรวม: 229.4 ล้านบาท ลดลงจำนวน 38.3 ล้านบาท (14.3%)

    3. ส่วนของผู้ถือหุ้น: 1,098.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 76.7 ล้านบาท (7.5%)

    4. รายได้จากการขาย: เพิ่มขึ้น 86.4 ล้านบาท (10.4%)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • สินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods): เน้นทำสินค้าสำเร็จรูปให้ลูกค้าที่มีสัญญาต่อเนื่อง (Contract Manufacturing) โดยใช้วัตถุดิบของ NTSC

  • ตลาดต่างประเทศ: เริ่มส่งออกสินค้าในกลุ่ม Plant-Based Protein ให้กับลูกค้าเฉพาะราย

  • B2C: ทำการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยใช้ Food Ingredients ที่ผู้บริโภคสามารถนำไปบริโภคได้โดยตรง เช่น คอลลาเจน, ไฟเบอร์, ซอยโปรตีน, ชาเขียว, สารให้ความหวาน

  • Feed: รับจ้างผลิตให้ลูกค้าทั้ง Multinational และลูกค้าในประเทศ โดยใช้ Feed Ingredient ของ NTSC มาทำเป็นสูตรเฉพาะ เสริม Function ต่างๆ

  • สินค้า Ingredient ใหม่: พัฒนาสินค้า Ingredient ใหม่ๆ สำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เช่น สีธรรมชาติ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ความเสี่ยงหลักๆ มาจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น สภาพเศรษฐกิจ, อัตราแลกเปลี่ยน, การแข่งขัน, พฤติกรรมผู้บริโภค, ค่าพลังงาน, สภาพอากาศ, การเมือง, สงคราม

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดและประเทศต่างๆ

  • ไม่พึ่งพิงคู่ค้ารายใดรายหนึ่ง

  • เสริมสร้างสมรรถนะของ NTSC เอง โดยการตั้งฐานผลิตที่สามารถทำสินค้าได้หลากหลาย

  • เน้นลูกค้าที่สนใจใช้ไทยเป็น Hub ในการผลิตและส่งออก

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • เพิ่มฐานลูกค้า: ทั้งรายการสินค้าใหม่และลูกค้าใหม่ จากการออก Exhibition ทั้งที่เคยทำและใหม่เพิ่มเติม

  • OEM: โฟกัสการรับจ้างผลิต (OEM) เพิ่มมากขึ้น

  • ขยายการจัดจำหน่าย: สินค้าไทยสู่ตลาดโลก โดยเน้น Ingredient ที่มีความชำนาญ

  • ขยายโรงงาน: เพื่อรองรับการเติบโตของ OEM และเพิ่มกำลังการผลิต

  • One-Stop Service: ยังคงความเป็น One-Stop Service เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

  • Value-Added Business: มองหาธุรกิจที่จะสร้าง Value Added และใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

  • Strategic Partner: สร้าง Strategic Partner เพื่อทำ Project ที่มี Impact ร่วมกันในระยะยาว

  • ความยั่งยืน (Sustainability): ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและ Good Governance

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 53:10]

Q: ปี 2568 บริษัทคาดการณ์สรุปรายได้และกำไรเป็นอย่างไร และปี 2569 บริษัทกำหนดเป้ารายได้และกำไรเป็นอย่างไร แล้วปีนี้บริษัทมีแผนจ่ายเงินปันผลหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ามีการใช้เงินลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่? A: ปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้ควบคุมหลายๆ อย่าง ทั้งการบริหารต้นทุนและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ตัวเลขที่ชัดเจนขอให้ติดตามในรายงานผลการดำเนินงานประจำปี ส่วนเป้าหมายและกำไรปี 2569 บริษัทตั้งเป้าให้ยอดขายเติบโตเพิ่มจากปี 2568 อยู่ในระดับ Single-Digit ปลายๆ หรือถ้าพยายามสามารถตีไปที่ Double ได้ และบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลอยู่แล้ว แต่ต้องมาดูงบ ดูผลประกอบการ งบกระแสเงินสด และสถานะทางการเงินโดยรวม แล้วต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากทางคณะกรรมการบริษัท และรับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป Q: ช่วยคาดการณ์และอธิบายภาพรวมของตลาด ข้อเท็จจริง โอกาส ความเสี่ยง คือ NTSC อยู่ตรงไหน และจะทำอย่างไร เพราะอะไร? A: สิ่งที่บริษัทกำลังพยายามโฟกัสคือ เรื่องของการขยายตลาด OEM ซึ่งในปี 2568 บริษัททำได้ค่อนข้างดี และมองในเรื่องของการกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพิงกับคู่ค้ารายใดรายหนึ่ง และเสริมสมรรถนะของ NTSC เอง โดยโดยการที่ตั้งฐานผลิต และสามารถทำสินค้าได้หลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครอบคลุมหลายๆ อุตสาหกรรม และเป็นลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมันก็จะมีลูกค้าที่สนใจใช้ไทยแลนด์ เป็น Hub ในการผลิต และส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน รวมถึงทั่วโลก Q: Criteria Idea Breaking ของ NTSC คืออะไร แล้วปีหน้าอยากจะ Commit อะไรกับ Stakeholder บ้างครับ? A: Criteria Idea คือ บริษัทมองว่าเราไม่ใช่แค่ซื้อมาขายไปเท่านั้น แต่เราเป็นคู่ค้ากับทุกท่านได้อย่างไร ได้อย่างยั่งยืน อันนี้เป็น Critical Idea ที่บริษัทให้ความสำคัญ ส่วน Breaking Point คือ จากที่บริษัทจะไปสร้างโรงงาน ซึ่งโรงงานนี้มันสามารถตอบโจทย์ในการผลิตสินค้าได้หลากหลาย แล้วก็ใน Application ต่างๆ ที่ยังไม่เคยสามารถทำได้เนื่องด้วยศักยภาพของโรงงานปัจจุบัน ตรงนั้นก็จะไปตอบโจทย์ในเรื่องของอนาคต แล้วก็โอกาสทั้งหมดที่บริษัทวางแผนไว้ ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องของยอดขาย รายได้ และก็การเติบโตอย่างยั่งยืน ไปกับผู้ค้าในระยะยาวด้วยกัน ทีมงานทุกคนตั้งใจ และมีความพยายามที่จะเติบโตให้เป็นไปตามเป้าการขายที่วางไว้ Q: บริษัทจะมีการลงทุนโรงงานใหม่ อยากทราบว่างบประมาณในส่วนของ CapEx ทั้งหมดในปีหน้าเท่าไหร่ จะใช้แหล่งเงินทุนกระแสเงินสดภายใน หรือธนาคารกู้ยืมเงินครับ? A: ในส่วนของปีหน้า บริษัทได้มีการจัดสรรในส่วนของเงินลงทุนเพื่อการก่อสร้างไว้ โดยจะใช้เงินทุนกระแสเงินสดของบริษัทเองตามแผนการลงทุน และเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่บริษัทได้รองรับไว้ และคุยทางคู่ค้าไว้ว่าจะต้องมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สภาพของสภาพคล่องของบริษัทเองก็จะจะไม่กระทบกับกระแสเงินสดของบริษัท ซึ่งกระแสเงินสดของบริษัทเองก็ยังมี ความมั่นคงทางด้านการเงิน และยังเข้มแข็งอยู่ ก็จะไม่ได้มีการกู้ในส่วนของของสถาบันการเงินภายนอก

โดยสรุปแล้ว NTSC ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน แม้เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ด้วยการปรับกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระยะยาวกับคู่ค้า