MGC
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

ถอดรหัส Oppday MGC: ส่องผลงาน Q3/68, โอกาส EV, กลยุทธ์เติบโตยั่งยืน

สวัสดีครับ วันนี้ผม ดร.สันตวุฒิ ทำชวนวิริยะ จาก Millennium Group Corporation Asia หรือ MG Asia จะมาอัปเดตผลประกอบการและแผนธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568

ขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่ให้โอกาส MG Asia ได้มาอัปเดตข้อมูล

สำหรับภาพรวมธุรกิจของ MG Asia มี 4 เสาหลัก (Pillar) คือ

  1. ธุรกิจ Mobility Retail
  2. After Sales Service
  3. ธุรกิจบริการ (หลังการขาย, รถเช่า)
  4. ธุรกิจการเงินและประกันภัย

ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ MG Asia Mobility Ecosystem

MG Asia เปิดมา 25 ปี ได้รับการยอมรับจากพันธมิตร (ผู้ผลิตรถยนต์, สถาบันการเงิน, ชิ้นส่วนอะไหล่)

ฉลองครบรอบ 25 ปี และตั้งหมุดหมายใหม่ เพื่อให้เข้ากับ Megatrend ของธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทย คือ รถยนต์ EV หรือไฟฟ้า

ผสานกับ Ecosystem ของ MG Asia และแผนการขยาย Network ภายใต้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ใน Megatrend หรือ dominate ตลาด คือ รถยนต์ไฟฟ้าจีน อย่างแบรนด์ชั้นนำหรือ Premium คือ Xpeng และ Seeker

Agenda หลักๆ ที่จะพูดถึงมี 4 หัวข้อ:

  1. Financial Performance
  2. กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อวาง Positioning ของธุรกิจ และ Overview Market Outlook
  3. Business Operation ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้าย
  4. แผนระยะกลางและระยะยาวสำหรับ MG Asia

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

Q3 ที่ผ่านมา มีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ ด้วยกลยุทธ์ในการวางตำแหน่งของสินค้าให้เป็น Premium EV ได้รับการตอบรับที่ดี และเตรียมแผนรองรับประชากรรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Xpeng และ Seeker ที่จะเติบโตขึ้น

ปีนี้ให้ Key Strategic 3 เรื่อง คือ

  1. Market Expansion (การขยายตลาด)
  2. โฟกัสในกลุ่ม Premium Segment EV
  3. เจาะเข้ากลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่าง Xpeng ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าจีนอื่นๆ ในตลาด

ลูกค้าได้สัมผัสและรับรู้ถึงประสบการณ์ต่างๆ ผ่านการใช้รถยนต์ไฟฟ้า Xpeng ซึ่งปัจจุบันมี 2 รุ่น คือ G6 และ X9 (รถตู้ไฟฟ้าอัจฉริยะ)

G6 ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ 2 รุ่น (Long Range, All Wheel Drive) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี แต่จำนวนรถ/โควต้าที่ได้รับมาไม่เพียงพอต่อความต้องการที่คนให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้า G6

ตอนนี้ได้มีการทยอยเรียกและสั่งรถเพิ่มขึ้นจากทางผู้ผลิต รวมถึงอยู่ในขั้นตอนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า G6 รุ่นใหม่ คือ รุ่น New Standard ซึ่งราคาเป็นรุ่นที่จับต้องได้ กลุ่มลูกค้าระดับประมาณ 1 ล้านบาท สามารถที่จะเข้ามาจับต้องได้ผ่านโปรแกรมทางการเงิน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.189 ล้านบาท

ถ้าเปรียบเทียบกับ Value, สมรรถนะ, Product ของรถยนต์ไฟฟ้า New G6 Standard ด้วยราคา 1.189 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับและคำสั่งซื้อจากลูกค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

ส่วนที่ 2 คือ การทำเรื่อง Branding (Brand Portfolio) พยายามโฟกัส 2 เรื่อง คือ

  1. Positioning ตัวเองเป็นรถ EV Premium ที่มีนวัตกรรม ขับเคลื่อนด้วย AI
  2. โฟกัสกับเรื่อง Fashion Lifestyle ซึ่งสอดคล้องกับ Design ของรถยนต์

นอกจากนั้น ได้มีการวางกลยุทธ์ในเรื่องของตัวแทนจำหน่ายและ Partnership (Finance, ประกันภัย) รวมถึงการวางแผนขยายเครือข่าย Network ทั้งตัวแทนจำหน่าย และ Network ในการ Charging ไฟฟ้า

เตรียมการปฏิบัติการอย่างมากมายภายในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือกลุ่ม MG Asia ด้วยการ Improve ในเรื่องของ Operation Excellence Program ทางด้านต่างๆ (กระบวนการทำงาน, Supply Chain, Optimize Customer)

โฟกัสในเรื่องของประสบการณ์ของลูกค้าที่มีโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ในเครือของ MG Asia ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ High Luxury Premium อย่าง BMW หรือ Mini จาก Millennium Auto หรือ Premium Mass อย่าง Summit Honda หรือผ่าน Brand Partner ต่างๆ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 2 ยี่ห้อที่ได้พูดถึง (Xpeng และ Seeker)

Q3 ปีนี้ revenue มีอัตราการเติบโตขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับ Q3 ของปี 2024 (ถ้าเทียบกับ Q3 ปี 2024 และ 2025 มีอัตราการเติบโตเกือบ 30%)

Q3 มีการส่งมอบรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการเติบโตขึ้น 23.5% โดยรายได้สัดส่วนแบ่งออกเป็น 5 ส่วน:

  1. รถยนต์ใหม่ 75%
  2. Service/After Sales บริการหลังการขาย 16.6%
  3. ธุรกิจบริการรถเช่า 7%
  4. Finance และประกันภัย 0.8%

EBITDA ที่ทำได้ ถ้าเทียบกับ Q3 ของปีนี้กับปีที่แล้ว มีอัตราการเติบโตขึ้น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ หรือโตขึ้น 357 ล้านบาท

ถ้าเทียบกับ Q2 ที่ผ่านมา มี EBITDA ที่เติบโตขึ้นกว่า 300 ล้าน (307 ล้านบาท) โดยใน Q3 สามารถทำ EBITDA ได้ถึง 738 ล้านบาท

Net Profit มีอัตรากำไรเติบโตขึ้นกว่าเกือบ 200 ล้านบาท หรือโตขึ้นกว่า 370% จากไตรมาส 2 ปีนี้ หรือตรงขึ้นถึง 2,000 กว่าเปอร์เซ็นต์เลย หรือ 240 กว่าล้านจาก Q3 ในปีที่ผ่านมา

อันนี้เป็นผลจากการที่ได้วางแผนกลยุทธ์ด้านต่างๆ (Market Expansion, Brand Portfolio, Partnership, Operation ด้านต่างๆ, Strategic Positioning ของแบรนด์ในเครือ)

Financial Highlight อีกมุมหนึ่ง Revenue มีอัตราการเติบโตขึ้น อย่างเห็นได้ชัด (กว่า 300 ล้าน) ในส่วนของ Revenue

EBITDA ด้วยก็เช่นกัน มีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ 438 ล้านบาท และเป็นผลสะท้อนไปถึง Net Profit ใน Q3 ที่ผ่านมา ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น (Net Profit คือ 362 ล้านบาท)

Revenue รายได้ประจำ 9 เดือนที่ผ่านมา ในส่วนของ Mobility Service นั้น มีอัตราเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 9 เดือนที่ผ่านมาของปีที่แล้ว ประมาณ 3% กว่า ก็คือ 10,000 ล้านบาท ในส่วนของ After Sales ก็ยังทรงอยู่ในที่ ในส่วนของรายได้บริการเรื่องรถเช่า ก็เติบโตขึ้น 3% กว่า รวมไปถึงธุรกิจ Other Business ก็เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของกลุ่ม MG Asia มีการวางแผนกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตผ่านรถ Premium EV ผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย Portfolio ถูกกำหนดว่าจะต้องเป็น Future Mobility (ยานยนต์แห่งอนาคต) เนื่องจาก Product และสินค้า ถูกสร้างขึ้นมาด้วยนวัตกรรม และ Drive ด้วย AI ผสมผสานกับการที่เป็นกลุ่ม Luxury และ Premium สะท้อนไปที่ Innovation และ Sustainability เพื่อสร้างความต้องการ Demand ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

Q3 นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสะท้อนผลงานในสิ่งที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ ในส่วนของ Premium EV Portfolio (เช่น Xpeng) ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ/รถตู้ ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ใน Segment

รวมไปถึงการ Launch Xpeng Humanoid (Iron) ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ รวมถึงทางกลุ่ม MG Asia หรือ Xpeng ประเทศไทย ภายใต้กลุ่ม MG Asia ได้รับรางวัล Best Organization Award ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันในเรื่องของการวางแผน การทำงานแบบมืออาชีพของทีมงาน Xpeng และการสนับสนุนอย่างมืออาชีพกับทางภายใต้ MG Asia ซึ่งแน่นอนว่าความร่วมมือในระดับเชิงธุรกิจและเชิงกลยุทธ์กับ Xpeng China ก็คงจะมีเพิ่มขึ้นอย่างตามลำดับ

รวมถึงการให้เพิ่มขีดความสามารถกับ Partner ในปัจจุบัน (BMW Group, Honda) หรือแบรนด์ต่างๆ ที่ทาง MG Asia เป็นตัวแทนอยู่

Xpeng เอง Premium Smart EV ในเมืองไทย ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการส่งมอบรถยนต์ขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างมีนัยยะ รวมถึง Seeker เองด้วยก็เช่นกัน ซึ่งตรงนี้เป็นผลสะท้อนถึงไตรมาส 3 ที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ในเรื่องของ Structure ในการ Transform MG Asia มีการ Lean Organization มีการปรับองค์กรให้เข้ากับการแข่งขันธุรกิจในปัจจุบัน มี Synergy และ Console โปรแกรมต่างๆ ทั้งการขายและการบริการลูกค้า เพื่อสร้าง Value Chain ต่างๆ และอันเป็นผลมาสะท้อนมาถึง Profit และ Synergy Business กันทั้ง Vertical และ Horizontal Business Model เพื่อการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และ Long Term ของกลุ่ม

ก่อนหน้านี้ได้มีการเป็น Partner กับทางบริษัทอรุณพลัส ภายใต้เครือของ ปตท. ภายใต้ชื่อ Neo Mobility Asia ซึ่งปัจจุบัน MG Asia ได้ acquire หุ้นทั้งหมด 100% ผ่านทาง Neo Mobility Asia ซึ่งเป็นบริษัท Joint Venture กับ PDD Group ซึ่งวันนี้ MG Asia ได้ถือหุ้นใน Neo Mobility Asia แล้ว 100% ทำให้การบุ๊กในเรื่องของกำไรและผลประกอบการทั้งหมด เริ่มในวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นมา ทางบริษัทก็ได้บุ๊กในเรื่องของ Profit จาก Neo Mobility Asia แต่เพียงผู้เดียวนะฮะ ก็คือ 100% แล้วก็รวมถึง Bottom Line แล้วก็ earning ต่างๆ ของบริษัท

การสร้าง Value Chain ได้มีการเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมและขยายธุรกิจผ่าน EV Business Supply Chain เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และเกิดขีดความสามารถในการแข่งขันในตำแหน่งสินค้าต่างๆ ในเครือ รวมถึงการพัฒนาในเรื่องของการส่งเสริมตัว Mobility Ecosystem ของ MG Asia ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากนั้น การสร้างรายได้ที่มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการหลังการขาย การเพิ่มขีดความสามารถของการให้บริการรถยนต์เช่าฟรีไฟฟ้า เพื่อสร้างรายได้อย่างเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจในเรื่องของบริการหลังการขาย รถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีเกิดขึ้นในอนาคตในเรื่องของ After Market ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการที่จะส่งเสริมและสะท้อนในเรื่องของการสร้างคุณภาพของกำไรทั้งในระยะสั้น แล้วก็รวมถึงระยะกลางและระยะยาว อันนำมาผลซึ่งการสร้างความยั่งยืน ในองค์กร ด้วย Business Model ที่ค่อนข้างจะ Diversify ในเรื่องของรายได้ของในกลุ่ม ให้สอดคล้องกับ Trend ของตลาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

สำหรับ Recap นิดนึงสำหรับ EV Ecosystem ของ MG Asia ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องกับ EV Ecosystem ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแบตเตอรี่ รวมไปถึงการทำ Package แบตเตอรี่ Recycle หรือในเรื่องของ EV Production EV Product Platform รวมถึงการสร้าง Customer Experience Design Center ที่จะเกิดขึ้นใน Q1 ในปีหน้า รวมถึงการสร้างช่องทาง Offline และ Online ผ่านในเรื่องของการบริการซื้อขายรถใหม่และรถยนต์มือสอง รวมถึงโปรแกรมทางการเงิน และประกันภัย เพื่อ Serve เฉพาะเจาะจงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ Rolls-Royce BMW หรือแบรนด์ต่างๆ ในเครือที่เกิดขึ้น รวมถึงแบรนด์ Xpeng และ Seeker ด้วยก็ตาม

แล้วก็รวมไปถึงการให้บริการรถเช่านะครับ ต่างๆ รวมพร้อมคนขับรวมถึงการขยายและเพิ่มฟรีดรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ใน Megatrend และผู้บริโภคต้องการนะครับซึ่งเราก็ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ ในเมืองไทยที่มีการขยายพอร์ตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เช่าไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจาก BMW นะครับไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Mini นะครับหรือแม้กระทั่งแบรนด์ Xpeng นะฮะไม่ว่าจะเป็น G6 หรือ X9 หรือรวมถึงแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าย่าง Seeker ซึ่งทาง Master Car Rental หรือ Six นะครับของเราก็มีให้บริการในฟรีดนี้อยู่ทั่วประเทศนะครับแล้วก็ความร่วมมือในการขยายนะครับในเรื่องของ Charging Station ผ่าน Outlet ของ MG Asia เองรวมถึงขยายผ่าน Partner นะฮะในเรื่องของ Charging Station แล้วก็รวมถึงการเตรียมความพร้อมในเรื่องของ After Market นะเรื่องของการบริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เราได้ถูกส่งมอบไปไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการฝึกฝนอบรมพัฒนาพนักงานหรือการเพิ่มนะครับจำนวนนะครับสต็อกเพื่อให้พอเพียงต่อการตอบสนองการบริการให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจอย่างสูงสุดแล้วก็รวมถึงการเพิ่มหลักสูตรและพัฒนาหลักสูตรในการเทรนนะครับช่างให้มีความรู้ความเข้าใจและเป็น Expert หรือเป็น High Technition นะครับผ่าน Match Training Center ของเรานะครับ

สำหรับ Recuring Income นะครับในเรื่องของ Revenue Finance facity เนี่ยเราได้มีการพูดถึงไปแล้วนะครับในเรื่องต่างๆ ตรงนี้สิ่งหนึ่งที่อยากจะสะท้อนแล้วก็ผ่านทางการเงินบอกออกมาก็คือในเรื่องของการบริการเหล่าๆ นี้เนี่ยจะสร้างความแข็งแกร่งนะครับในเรื่องของ Customer relationship นอกเหนือจากนั้นเองทางกลุ่มเองก็จะได้ เอ่อเรื่องของ Margin และ Revenue ที่ดีขึ้นนะครับผ่านโปรแกรม Vehicle ownership Program ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปแบบรถเช่าเรื่องของประกันหรือรูปแบบในการบริการด้านอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เนี่ยก็นอกเหนือจาก การดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้ เอ่อโปรแกรมน่ะฮะ เอ่อ ownership Program ของเรานะครับก็จะทำให้เป็นผลสะท้อนของรายได้นะครับที่เติบโตขึ้นนะครับรวมถึงผลกำไรที่ดีขึ้นก็คือ Margin นะครับที่ดีขึ้นกับทางกลุ่ม MG Asia นะครับในส่วนของธุรกิจบริการหลังการขายแล้วก็ในเรื่องของ Financial Service เนี่ยในส่วนของ Aftersale Service เนี่ยเราได้มีการเติบโตขึ้นนะครับแต่ไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะแต่ในอนาคตนะครับเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าลงไปวิ่งสู่ถนนมากขึ้นนะครับสิ่งที่จะเป็นผลตามมาตามสถิติ นั่นคือในเรื่องของเอ่อศูนย์ซ่อมสีและตัวถังที่เราได้มีการเตรียมขยายซึ่งได้มีการเปิดไปก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ที่นะครับเพื่อขยายรองรับนะครับทั้งในกรุงเทพ 1 ที่และต่างจังหวัดอีก 1 สาขาซึ่งชวนสิ่งต่างๆ เหล่านี้เนี่ยเพื่อตอบรับแล้วก็บริการกับลูกค้านะครับที่ให้ความไว้ วางใจกับกลุ่ม MG Asia แล้วก็รวมไปถึงการสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างมั่นคงให้กับทาง MG Asia

รวมถึงการร่วมพัฒนาโปรแกรมไม่ว่าจะเป็น Finance หรือประกันภัยนะครับเพื่อตอบสนองนะครับแล้วก็ให้ลูกค้าเข้าถึงนะครับในสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นผ่านโปรแกรมทางการเงินและการสร้างความเชื่อมั่นกับการทำประกันภัยผ่าน House ด้วยเช่นกันนะครับโดยในขณะเดียวกันเนี่ยแผนที่เราทำคู่ขนานนะครับบริษัทก็ได้มีการทำโปรแกรมเชื่อมต่อภายใต้ Ecosystem นะครับด้วยการสร้าง เอ่อ Vehicle ownership Program ให้กับลูกค้านะครับไม่ว่าจะเป็นซื้อขายบริการ Finance Insuran รวมไปถึงบริการหลังการขายหรือ After Market นะครับซึ่งตรงนี้เนี่ยผ่านภายใต้ Ecosystem ของ MG Asia นะครับทำให้ผลประกอบการของไตรมาส 3 ของเรานั้นเติบโตขึ้นอีกในระดับหนึ่ง ซึ่งในไตรมาส 3 เราก็ได้มีการอินเทอร์ริมในเรื่องของ Dividend ปันผลอยู่ที่หุ้นละ 0.14 บาทต่อหุ้นนะครับซึ่งในช่วงไตรมาส 4 นะครับซึ่งเป็นช่วงของเทศกาล คนตัดสินใจเปลี่ยนรถนะครับรอบของการเปลี่ยนรถในของไตรมาส 4 รวมถึง เอ่อแรงซื้อนะครับแรงกระตุ้นนะครับจากทั้งผู้ขายก็จะทำให้ทางกลุ่มลูกค้านั้นตัดสินใจเลือกนะครับเอ่อการตัดสินใจในช่วงไตรมาส 4 ก็คือเดือนพฤศจิกายนหรือเดือนธันวาคมนี้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายเนี่ยสูงสุดซึ่งในกลุ่มเองเราคาดการณ์ว่าเราจะมีผลนะฮะเติบโตของรายได้แล้วเติบโตขึ้นซึ่งก็จวบเหมาะกับมีคำถามถามเข้ามาในแนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2568 เทียบกับ Q on Q จะเติบโตขึ้นไหมผมเรียนตรงว่าโตขึ้นแน่นอนครับในเรื่องของรายได้แล้วก็สะท้อนไปที่ผลกำไรซึ่งเราคาดการณ์ว่าในส่วนของรายได้ Revenue จะเติบโตขึ้นทั้งกลุ่มนะครับนะครับก็คือในเรื่องของการขายรถ ถึงช่วงเทศกาลคนตัดสินใจถึงช่วงหน้าเทศกาลในการท่องเที่ยวรวมถึงต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในช่วงประมาณช่วงพฤศจิกายนจนจวบจนดีเซมเบอร์นั้นเนี่ยก็น่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% ซึ่งก็เป็นผลสะท้อนไปที่ผลกำไรที่แล้วก็คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นที่ประมาณ 15-20% ด้วยเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับคิวที่ผ่านมานะครับอันนี้คือแนวโน้มที่เราคาดการณ์ไว้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงนี้ก็เรามองว่าเป็นช่วงของไตรมาสของการตัดสินใจนะครับปิดปิดท้ายปีนะครับพร้อมกับทางกลุ่มเองก็มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้นรวมถึงมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าแล้วก็แบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มได้มากขึ้นนะครับผ่านทางการวางตำแหน่งสินค้าและ pricing ที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้นผนวกกับในกลุ่มผมเองก็มีในเรื่องของ Financial Program แล้วก็ Insurance Program รวมถึง Corporate Program ที่ให้ลูกค้าองค์กรนั้นได้เข้าถึงสินค้าแล้วก็รถยนต์แบรนด์ต่างๆ ในเครือได้มากขึ้นซึ่งก็น่าจะเป็นผลสะท้อนให้ทางกลุ่มเองมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นใน Q4 และปิดเป้าหมายในปีได้แล้วก็สามารถจะสร้างอัตราการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาได้ถึง 10-15% ของในเชิงรายได้แต่ในส่วนของกำไรนั้นก็น่าจะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะนะครับ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

Market Outlook ในช่วง Q4 (ไตรมาสที่ 4) มี Highlight คือ งาน Motor Expo ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ที่เมืองทองธานี

กิจกรรมงานใหญ่ระดับประเทศหรือในระดับภูมิภาค เป็นผลสะท้อน/เวทีสะท้อนให้ลูกค้ามาชมรถ, เลือก, และตัดสินใจ ซึ่ง MG Asia ก็เป็นหนึ่งในที่ผู้ออกร่วมงานผ่านบูธต่างๆ และแบรนด์ต่างๆ ในเครือ MG Asia ทั้งหมด

Q4 จะได้รับอานิสงส์จากงาน Motor Expo 2025 ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ที่เมืองทองธานี และคาดว่าจะสร้างอัตราการเติบโตได้ด้วยเช่นกัน

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ในช่วงที่ Market ค่อนข้าง Dynamic มาก แต่ทางกลุ่มเองนั้นมี Ecosystem ที่บริหารจัดการได้อย่างเพียงพอ ทำให้ยังรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างมีนัยยะ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

Business Operation ได้มีการ Improve ในเรื่องของ Business Segment Performance ด้านต่างๆ (Revenue Stream, การเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างผลกำไรผ่านการขาย, Blend กับ Product ทาง Finance, การ Diversify ด้านต่างๆ)

รถไฟฟ้าจีนจะเข้ามาแข่งขันกับสงครามราคาหรือไม่ ทางกลุ่มมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจรถยนต์ Premium/Luxury/Premium มานาน ให้ความสำคัญในเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้าที่เหมาะสมกับสินค้า ให้ความสำคัญกับความมั่นใจและการบริการของกลุ่มที่ทางบริษัทได้ทำในเรื่องของแบรนด์ต่างๆ หรือ Brand Portfolio ต่างๆ

สินค้าถ้าขายได้และมี Backlog หมายถึงว่าลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและให้ความไว้ วางใจ บวกกับโปรแกรมทางการขายและโปรแกรมทางการตลาดที่ชอบที่จะสร้างประสบการณ์ ให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์สินค้าในเครือ หรือแม้กระทั่งกิจกรรมที่ได้จัดล่าสุดไปที่ Crystal Park Design Center ก็คือในการทดสอบในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า EV ในเครือทั้งหมด ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาทดลองขับกว่า 500 ราย (ครึ่งพัน) ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่น แล้วก็รวมถึงลูกค้าได้สร้างประสบการณ์ตรงกับรถเอง ซึ่งทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในเรื่องของสงครามราคา

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

Groth Strategy ต่างๆ ได้มีการ Projection ในเรื่องของในเชิงของรายได้ในปีนี้ รวมถึงการคาดการณ์ในเรื่องของ After Sales Service ซึ่งจะเป็นช่วง High Season ที่ลูกค้านำรถเข้ารับบริการ เพื่อนำเอาไปใช้ในช่วง Long Weekend ระยะยาว รวมถึงการขยายขีดความสามารถ รวมถึง facility ในการให้การรองรับกับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

รถจะถูกนำส่งมอบเพื่อลด Backlog จำนวน Backlog ที่มีการจองมาก่อนหน้านี้ 6-700 คัน เพื่อส่งมอบและสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน

Revenue จาก Core Business รวม ถึง Supplement (ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในเครือ) ก็คือในเรื่องของ Automotive Retail Business Revenue มีการเติบโตขึ้น ประมาณ 3% ไปอยู่ที่ 1400 กว่าล้านบาท สนับสนุนในเรื่องของแบรนด์ต่างๆ ในเครือทั้งหมดตั้งแต่แบรนด์ Luxury High Luxury ไปจนถึง Premium Premium Mass แล้วก็รวมไปถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ใน Megatrend อย่างแบรนด์ Xpeng และ Seeker ด้วย

After Sales Revenue แตะอยู่ที่ 2800 กว่าล้านบาท คาดการณ์ว่าในปีนี้น่าจะทะลุไปที่ประมาณ 3500 ล้านบาท ในช่วง Q4 ปีนี้ ซึ่งก็จะเป็นการสร้างรายได้ที่เติบโตทั้งผ่านทั้งการบริการและก็รวมถึงการจำหน่ายอะไหล่ แล้วก็รวมถึงรถเช่าเองแล้วก็มีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะในฟรีดของต่างๆ ของ Corporate ก็คือเติบโตขึ้นประมาณ 3.6% ไปแตะที่ 13263 ล้านบาทผ่านแบรนด์ในเครือแล้วก็แบรนด์ต่างๆ รุ่นรถต่างๆ ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำและเป็นที่ต้องการของตลาด

Alpha X เริ่มมีสะท้อน เริ่มเห็นผลกำไร เริ่มเห็นรายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ รวมถึง Housecy ที่มีการสร้าง การเติบโตในเรื่องของผลกำไรอย่างต่อเนื่อง

มุมมองต่อการยุบสภา MG Asia มีมุมมองว่าตามที่รัฐบาลปัจจุบันมีการรับปากและคงจะต้องบรรลุภารกิจสำคัญๆ ในช่วงนี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีและคาดการณ์กันอยู่แล้วว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งนั้นก็เป็นสิ่งที่มีคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ เชื่อมั่นว่าจะทำให้นักลงทุนรวมถึงต่างชาตินั้นมีความมั่นใจในประเทศก็จะทำให้มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาและประเทศเราก็เป็นที่ เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็น เป็นทรงทรัพย์ประมุขเนี่ยสิ่งเหล่านี้เนี่ยผมเชื่อว่าทำให้ต่างชาติมองเห็นประเทศไทยนะครับที่มีความสำคัญรวมถึงการสร้างกระชับมิตรกับเพื่อนบ้านต่างๆ ก็จะทำให้ท่องเที่ยวนั้นดีแล้วก็เป็นประเทศที่น่าเที่ยวก็จะสร้างเม็ดเงินให้ไหลเข้ามาก็จะทำให้เกิดกำลังซื้อและการจับจ่ายรวมถึงในช่วงเทศกาลเลือกตั้งด้วยเช่นกันนะฮะก็จะทำให้มีความคึกคักนะครับแล้วก็ทุกๆ คนก็ตั้งหน้าตั้งตารอรัฐบาลใหม่กันทุกคนนะครับในการเลือกตั้งครั้งหน้าผมเชื่อว่าก็จะทำให้บรรยากาศนะครับการจับกำลังจับซื้อจะซื้อกำลังซื้อนะฮะจะดีนะครับซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นนะครับแล้วก็รวมไปถึงในปีหน้าเนี่ยผมก็คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็คงเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะอย่างแน่นอนนะครับซึ่งในปีนี้เราก็กำลังจะมาลุ้นกันว่าจะถึง 120,000 คันหรือเปล่านะครับสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้นะครับซึ่งคาดการณ์ว่าในปีหน้าก็คงจะเติบโตขึ้นอีกนะครับเนื่องจากแต่ละแบรนด์แต่ละค่ายรวมถึงในกลุ่มเองก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวขึ้นเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้นทั้งในเรื่องของ segmentation ทั้งในเรื่องของ Lifestyle ของลูกค้าด้วยเช่นกันครับ

Long Term กลยุทธ์ของ MG Asia เพื่อสร้าง Value Creation ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Smart Intelligence Smart EV ผ่าน AI Platform ต่างๆ ซึ่งทาง MG Asia ได้มีการจัดตั้งทีม แล Steering ในเรื่องของ AI เพื่อเอามา Implement งานทุกภาคส่วนในเครือ รวมถึงได้มีการทำโปรแกรมในเรื่องของการพัฒนาองค์ความรู้กับ พนักงานของเครือ เพื่อเติบโตไปกับ Megatrend อย่าง AI (Artificial Intelligence) ผ่าน Technology Partnership แล้วก็รวมถึง Automotive Partnership ของเรา รวมถึงนอกเหนือจากนั้น ได้มีการสร้าง ownership Program รูปแบบใหม่ๆ ผ่าน EV Mobility Ecosystem รวมถึงการให้ความสำคัญในการขยาย Xpeng Dealer Network อย่างมั่นคง แล้วก็รวมไปถึงการสร้าง Shareholder Value Creation ให้กับ ผู้ถือหุ้นด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ discipline ในการ ลงทุน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Improve Operation Excellence รวมถึงการ เพิ่มและก็มีขีดความสามารถสร้างขีดความสามารถแล้วก็ Dynamic ในเรื่องของ Brand Portfolio ที่เราได้ทำอยู่นะครับเพื่อสร้าง sustainability return ให้กับผู้ถือหุ้นของเราทุกรายนะครับ

วันนี้ MG Asia ในนามผู้บริหารสูงสุด ขอขอบคุณ ท่านผู้ชมที่ให้การสนับสนุน MG Asia ขอขอบคุณทางทีมงานที่ได้จัดเวลาให้ทาง MG Asia ได้มาอัปเดตธุรกิจ ใน MG Asia

ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ แล้วก็ขอถือโอกาสลาไปเลยนะครับ สวัสดีครับ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): นาทีที่ 52:58

ส่วนคำถามที่มีเพิ่มขึ้นนะครับจากการที่ผมได้นำเสนอและบรรยายไปนะครับซึ่งในข้อแรกนี้ผมก็ได้มีการตอบไปแล้วในเรื่องของแนวโน้มไตรมาส 4 นะครับที่เกิดขึ้นเราก็คาดการณ์ว่าจะโตขึ้นประมาณ 15-20% นะครับซึ่งสิ่งเหล่านี้เนี่ยก็เป็นผลที่ทำให้ เอ่อเราได้วางแผนกลยุทธ์ต่างๆ นะครับ

สำหรับคำถามที่เพิ่มขึ้นนะครับไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรถไฟฟ้าจีนจะเข้ามาแข่งขันกับสงครามราคาหรือไม่ต้องเรียนอย่างงี้ครับเอ่อทางกลุ่มเนี่ยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจรถ เอ่อยนต์ Premium นะครับ Luxury หรือ Premium มานานนะครับเรานะครับค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้าที่เหมาะสมกับสินค้านะครับเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับในเรื่องของความมั่นใจและการบริการของเอ่อกลุ่มที่บริษัทได้ทำในเรื่องของแบรนด์ต่างๆ หรือแบรนด์ Portfolio ต่างๆเพราะฉะนั้นเนี่ยในเรื่องของราคาเนี่ยนะครับสินค้าของเราเนี่ยถ้าขายได้นะครับแล้วก็เอ่อมี Backlog นะครับนั่นหมายถึงว่าเอ่อลูกค้าให้ความเชื่อมั่นนะครับแล้วก็ให้ความไว้ วางใจบวกกับโปรแกรมทางการขายและโปรแกรมทางการตลาดที่เราชอบที่จะสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ที่ดีนะครับกับแบรนด์สินค้าในเครือหรือแม้กระทั่งกิจกรรมที่เราได้จัดล่าสุดไปที่ Crystal Park Design Center นะครับก็คือในการทดถอบในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า EV ในเครือทั้งหมดก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาทดลองขับกว่า 500 รายคือครึ่งพันนะครับซึ่งตรงนี้ก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นนะครับแล้วก็รวมถึงลูกค้าได้สร้างประสบการณ์ตรงกับรถเองซึ่งทำให้เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในเรื่องของสงครามราคานะครับ

รวมไปถึงถ้ามันมีการยุบสภา MG Asia ของเรานั้นมีมุมมองว่าแน่นอนครับว่าเอ่อก็ตามที่ทางรัฐบาลปัจจุบันเนี่ยก็มีการรับปากนะครับแล้วก็คงจะต้องบรรลุภารกิจสำคัญๆ ในช่วงนี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดีเราก็เชื่อว่าแล้วก็ทุกคนก็ทราบกันดีแล้วก็คาดการณ์กันอยู่แล้วว่าจะมีการเลือกตั้งซึ่งการเลือกตั้งนั้นก็เป็นสิ่งที่มีคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจก็ผมเชื่อมั่นว่าก็จะทำให้นักลงทุนนะครับรวมถึงต่างชาตินั้นเอ่อมีความมั่นใจนะครับในประเทศก็จะทำให้มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาแล้วประเทศเราก็เป็นที่ เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็น เป็นทรงทรัพย์ประมุขเนี่ยสิ่งเหล่านี้เนี่ยผมเชื่อว่าทำให้ต่างชาติมองเห็นประเทศไทยนะครับที่มีความสำคัญรวมถึงการสร้างกระชับมิตรกับเพื่อนบ้านต่างๆ ก็จะทำให้ท่องเที่ยวนั้นดีแล้วก็เป็นประเทศที่น่าเที่ยวก็จะสร้างเม็ดเงินให้ไหลเข้ามาก็จะทำให้เกิดกำลังซื้อและการจับจ่ายรวมถึงในช่วงเทศกาลเลือกตั้งด้วยเช่นกันนะฮะก็จะทำให้มีความคึกคักนะครับแล้วก็ทุกๆ คนก็ตั้งหน้าตั้งตารอรัฐบาลใหม่กันทุกคนนะครับในการเลือกตั้งครั้งหน้าผมเชื่อว่าก็จะทำให้บรรยากาศนะครับการจับกำลังจับซื้อจะซื้อกำลังซื้อนะฮะจะดีนะครับซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นนะครับแล้วก็รวมไปถึงในปีหน้าเนี่ยผมก็คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็คงเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะอย่างแน่นอนนะครับซึ่งในปีนี้เราก็กำลังจะมาลุ้นกันว่าจะถึง 120,000 คันหรือเปล่านะครับสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้นะครับซึ่งคาดการณ์ว่าในปีหน้าก็คงจะเติบโตขึ้นอีกนะครับเนื่องจากแต่ละแบรนด์แต่ละค่ายรวมถึงในกลุ่มเองก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวขึ้นเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้นทั้งในเรื่องของ segmentation ทั้งในเรื่องของ Lifestyle ของลูกค้าด้วยเช่นกันครับ

เอ่อไม่ทราบว่าทางท่านผู้ชมนะฮะมีคำถามอะไรเพิ่มเติมเพิ่มขึ้นไหมครับสามารถแชทเข้ามาถามได้ใน inbox เลยนะครับ ถ้าไม่มีก็วันนี้ทางผมในนามในนามของ MG Asia ดร.สันตวุฒิ ทำชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารนะครับจาก MG Asia ก็ขอขอบคุณนะครับท่านผู้ชมที่ให้การสนับสนุน MG Asia ขอขอบคุณทางเอ่อทีมงานที่ได้จัด เวลาให้ทาง MG Asia ได้มาอัปเดตธุรกิจนะฮะใน MG Asia นะครับต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้แล้วก็ขอถือโอกาสลาไปเลยนะครับสวัสดีครับ

หัวข้อคำถามและคำตอบ

  1. Q: แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2568 เทียบกับ Q on Q จะเติบโตขึ้นไหม?
    A: โตขึ้นแน่นอนในเรื่องของรายได้ และสะท้อนไปที่ผลกำไร คาดว่าจะโตขึ้นประมาณ 15-20%
  2. Q: รถไฟฟ้าจีนจะเข้ามาแข่งขันกับสงครามราคาหรือไม่?
    A: MG Asia มีประสบการณ์ทำธุรกิจรถยนต์ Premium มานาน ให้ความสำคัญกับการวางตำแหน่งสินค้า, ความมั่นใจ, และบริการ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่สงครามราคา
  3. Q: การยุบสภาจะมีผลกระทบอย่างไร?
    A: คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งจะคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ และจะทำให้นักลงทุน/ต่างชาติมีความมั่นใจในประเทศมากขึ้น รวมถึงการสร้างกระชับมิตรกับเพื่อนบ้าน ก็จะทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้น
  4. Q: แนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในปีหน้าเป็นอย่างไร?
    A: คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเปิดตัว เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น