สรุป OPPDAY หุ้น MEGA
Oppday
สรุป OPPDAY
MEGA โชว์วิสัยทัศน์ปี 2568: ขยายตลาดเอเชีย, พัฒนาสูตรยาใหม่, เล็งลงทุน 120 ล้านเหรียญฯ พร้อมรักษาอัตราปันผลสูง!
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ผลประกอบการ MEGA ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 10,483 ล้านบาท ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของธุรกิจ Maxcare ในเมียนมา อย่างไรก็ตาม ยอดขายเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 ทำให้การลดลงของรายได้แคบลงจาก 14% ในครึ่งปีแรก เหลือ 10.3% ในช่วง 9 เดือนแรก
- รายได้ Mega We Care: 6,365 ล้านบาท เติบโต 4.3% (หากไม่รวมผลกระทบจากเมียนมาและอัตราแลกเปลี่ยน เติบโตในระดับเลข 2 หลัก)
- รายได้ Maxcare: 3,902 ล้านบาท ลดลง 27% (ลดลง 26.4% หากปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน)
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
MEGA มองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดจีน บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในเมียนมาเพื่อผลิตสินค้าเอง และขยายตลาดในเวียดนามโดยการสร้างโรงงานผลิตยา ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงตลาดภาครัฐได้ง่ายขึ้น
- ลงทุนในอินโดนีเซีย: พัฒนาสินค้าและขึ้นทะเบียนยาเพิ่มขึ้น
- ลงทุนในเวียดนาม: สร้างโรงงานผลิตยา มูลค่า 45 ล้านเหรียญฯ
- ลงทุนในเมียนมา: สร้างโรงงานผลิตเพื่อผลิตสินค้าเอง
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
MEGA เผชิญกับความเสี่ยงจากสถานการณ์ในเมียนมา, อัตราแลกเปลี่ยน, และภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ
- สถานการณ์ในเมียนมา: ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
- อัตราแลกเปลี่ยน: ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
- ภัยธรรมชาติ: น้ำท่วมในหลายประเทศ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
MEGA วางแผนที่จะแก้ไขปัญหาโดยการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างๆ, ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
- Borrow เป็น Local Currency
- Balance พอร์ตให้ดี
- Product ต้องเปลี่ยนราคาได้
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
MEGA ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทมีแผนที่จะลงทุนประมาณ 120 ล้านเหรียญฯ ในการขยายกำลังการผลิต, พัฒนายาใหม่, และสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น
- เป้าหมายการเติบโต: 9-12% ต่อปี
- เน้นการเติบโตของแบรนด์ Mega We Care
- รักษาอัตราการจ่ายปันผลในระดับ 50-60%
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 33:13]
แนวโน้มในไตรมาสที่ 4
คาดว่าจะเติบโต เพราะปกติไตรมาส 4 ยอดขายจะสูงกว่าไตรมาส 3 ประมาณ 10-15% ทุกปี
ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ
MEGA เน้นขายยาและสินค้าดูแลสุขภาพซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ผลกระทบจากเศรษฐกิจไม่มากนัก
เป้าหมายปี 2568 ทั้งปี
ยังคงเป้าหมายเดิม เติบโตในระดับ Single Digit High ถึง Low Double Digit (9-12%) โดย Mega We Care จะโตมากกว่า Maxcare
Target ปี 2569
คาดว่าจะเติบโตในระดับ High Single Digit ถึง Double Digit Low เช่นกัน
นโยบายภาครัฐหนุนยาในประเทศ
MEGA ไม่ทราบรายละเอียดนโยบาย แต่โดยทั่วไป MEGA ก็แข่งขันตามกฎเกณฑ์อยู่แล้ว หากมีนโยบายสนับสนุนก็จะเป็นผลดี
Product ที่ขยายเพิ่มขึ้น
มีทั้งยาและอาหารเสริม โดยอาหารเสริมส่วนใหญ่เป็นวิตามินในรูปแบบยา
ต้นทุน R&D
ประมาณ 2-2.5% ของยอดขาย Brand Business เน้น R&D ในกลุ่มยาที่เชี่ยวชาญ
Maxcare ปี 2569 จะโตเท่าไหร่
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเมียนมา หากเมียนมาดีขึ้นก็มีโอกาสโต 10-15%
สถานการณ์น้ำท่วมในไทย
ผลกระทบไม่มากนัก คาดว่าจะไม่เกิน 1% ของยอดขายรวม
นโยบายภาษีของ Trump กระทบหรือไม่
ไม่กระทบ เพราะ MEGA ไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐฯ และส่วนใหญ่ซื้อขายในเอเชีย
ความเสี่ยงหลักของ MEGA และแผนแก้ไข
ความเสี่ยงมีทุกวัน แต่ MEGA เตรียมพร้อมรับมือ มีทีมงาน BCP และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต่างๆ เช่น Currency Risk และ Quality Standard
ขยายตลาดไปอินเดีย
ยังไม่มีแผนขยายตลาดไปอินเดีย
โดยสรุป MEGA ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mega We Care พร้อมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงและรักษาอัตราการจ่ายปันผลที่ดี แม้ว่าจะมีปัจจัยท้าทายต่างๆ ที่ต้องเผชิญ