MEGA
บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) เป็นบริษัทชั้นนำด้านสุขภาพในประเทศที่กำลังพัฒนาหลายประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัท แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. ธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We Care™ บริษัทฯ พัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์ ผลิตภัณฑ์ยาทีจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ไปยังประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ เมียนมาร์ เวียดนาม และกัมพูชา โดยเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังเติบโตในทวีปแอฟริกา ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ หมายรวมถึง ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นเจ้าของใบอนุญาต ในเครื่องหมายการค้าของลูกค้าด้วย 2. ธุรกิจการจัดจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า ไฮไลฟ์ บริษัทฯ ทำการตลาด การขาย และการจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์ ผลิตภัณฑ์ยาทีจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ และสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาทีจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์สุขภาพ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายนี้ใน 35 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจนี้ประกอบด้วยบริษัทยา และบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ธุรกิจในส่วนนี้ หมายรวมถึง ธุรกิจที่บริษัทฯ มีสิทธิในการจัดจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากประเทศที่กล่าวข้างต้น

บริษัทฯ มีแผนธุรกิจที่จะเน้นการเติบโตในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดจีน* บริษัทฯ จะเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We Care™ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงและมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา และจะใช้กลยุทธ์การตลาดแบบดิจิทัลเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานรวมในปี 2568 ที่ระดับ 17,000 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าธุรกิจการจัดจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า ไฮไลฟ์ จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะสามารถชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ได้

MEGA ถือว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยมองจาก P/E ล่าสุดที่ 16.75 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับปานกลาง บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ 0.52 ซึ่งต่ำกว่า 1 หมายถึงบริษัทฯ มีภาระหนี้สินที่ต่ำเมื่อเทียบกับทุน ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 3.4 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรในอดีต ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังมีผลตอบแทนจากเงินปันผล (YIELD) อยู่ที่ 4.13% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารทั่วไป บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2566 อยู่ที่ 1,926.486 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิหลังปรับปรุง อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบที่ -250.014 ล้านบาท อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทฯ มีการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ บริษัทฯ มีวงจรเงินสดที่ 133.27 วัน ซึ่งหมายถึง บริษัทฯ สามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้เร็ว ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้า โดยรวมแล้ว MEGA เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตสูง มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงของการชะลอตัวของธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ และความผันผวนของค่าเงินในภูมิภาค

**โอกาส**
* การเติบโตของตลาดสุขภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดจีน*
* การขยายธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We Care™
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา
* การใช้กลยุทธ์การตลาดแบบดิจิทัลเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

**ความเสี่ยง**
* การชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดจีน*
* การแข่งขันในตลาดสุขภาพที่รุนแรง
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* การเปลี่ยนแปลงของนโยบายด้านสุขภาพของรัฐบาล

**รายได้จากการดำเนินธุรกิจ**

จากตารางที่ให้มา แสดงให้เห็นว่ารายได้ของ Mega We Care™ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 และในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ในขณะที่รายได้ของธุรกิจการจัดจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า Maxxcare™ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการลดลงของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศเมียนมาร์

**การวิเคราะห์รายได้ตามภูมิภาค**

* ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดหลักของ Mega We Care™ โดยสร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 79 ของรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We Care™
* กลุ่มประเทศอินโดจีน* สร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 63 ของรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We Care™
* ทวีปแอฟริกา เป็นตลาดรองของ Mega We Care™ โดยสร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 11 ของรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We Care™

**อัตรากำไรขั้นต้น**

อัตรากำไรขั้นต้นของ Mega We Care™ ยังคงระดับอยู่ที่ร้อยละ 65.2 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 และอยู่ที่ร้อยละ 66.0 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เทียบกับร้อยละ 65.2 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 และร้อยละ 65.8 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Maxxcare™ หลังปรับปรุงอยู่ที่ร้อยละ 25.0 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับร้อยละ 21.5 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และอยู่ที่ร้อยละ 24.9 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เทียบกับร้อยละ 23.1 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566

**กระแสเงินสด**

บริษัทฯ มีกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงานที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 1,605 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 คิดเป็นร้อยละ 162 ของกำไรสุทธิ ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

**การลงทุน**

บริษัทฯ มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีตัวตน 99.7 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายสำหรับโรงงานผลิตในประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศออสเตรเลีย

**การจัดหาเงิน**

บริษัทฯ ใช้เงินสดสุทธิ 644 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 สำหรับกิจกรรมจัดหาเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินปันผล 697 ล้านบาท และได้รับเงินสดจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมธนาคาร 98 ล้านบาท

**สินทรัพย์หมุนเวียน**

* เงินสดและเงินฝากธนาคาร มีมูลค่า 3,694 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ปรับตัวดีขึ้น 981 ล้านบาท เมื่อเทียบกับวันที่ 31 ธันวาคม 2566
* ลูกหนี้การค้า มีมูลค่า 3,061 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ลดลง 253 ล้านบาท เมื่อเทียบกับวันที่ 31 ธันวาคม 2566
* สินค้าคงคลัง มีมูลค่า 3,308 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ลดลง 69 ล้านบาท เมื่อเทียบกับวันที่ 31 ธันวาคม 2566

**อัตราส่วนทางการเงิน**

* อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน ยังคงระดับอยู่ที่ 2.3 เท่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
* วงจรเงินสด อยู่ที่ 122 วัน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 132 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566

**สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน**

* สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน มีมูลค่า 4,271 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้น 146 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยหลักมาจากสัญญาเช่าทางการเงินใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567
* หนี้สินไม่หมุนเวียน มีมูลค่า 425 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยหลักมาจากสัญญาเช่าทางการเงินใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567

**อัตราส่วนทางการเงิน**

* อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ (0.37) เท่า
* อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.53 เท่า
* อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.02 เท่า

**หนี้สินหมุนเวียน**

* หนี้สินหมุนเวียน มีมูลค่า 4,751 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้น 315 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 การเพิ่มขึ้นในหนี้สินหมุนเวียน โดยหลักเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้า จากการแปลงค่าอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินตอลลาร์สหรัฐ

**ส่วนของผู้ถือหุ้น**

* ส่วนของผู้ถือหุ้น มีมูลค่า 9,795 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้น 493 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยหลักมาจากกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 และกำไรสะสม

**สรุป**

MEGA เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานที่ดี มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน และมีการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่มีประสิทธิภาพ บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตสูงในตลาดสุขภาพของประเทศกำลังพัฒนา แต่ต้องระวังความเสี่ยงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค การแข่งขันในตลาด และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตสูง มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ


รายได้รวม
3,980.14 ล้านบาท
225.57ล้านบาท
(6.01%)
ไตรมาสก่อนหน้า
31.20ล้านบาท
(0.78%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
1,929.12 ล้านบาท
165.66ล้านบาท
(9.39%)
ไตรมาสก่อนหน้า
93.75ล้านบาท
(5.11%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
48.47 ล้านบาท
1.50ล้านบาท
(3.19%)
ไตรมาสก่อนหน้า
2.72ล้านบาท
(5.95%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
1,139.78 ล้านบาท
73.44ล้านบาท
(6.89%)
ไตรมาสก่อนหน้า
101.52ล้านบาท
(9.78%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
28.64 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
512.82 ล้านบาท
35.17ล้านบาท
(7.36%)
ไตรมาสก่อนหน้า
18.13ล้านบาท
(3.41%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
12.88 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
1,054.95 ล้านบาท
505.26ล้านบาท
(91.92%)
ไตรมาสก่อนหน้า
501.62ล้านบาท
(90.65%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล