สรุปงบล่าสุด LEO

บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) ปี 2567
บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,632.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 2566 อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 47.6 ล้านบาท ลดลง 43% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้รายได้จะเติบโต แต่ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกและภายใน ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง
**สรุปผลประกอบการรายไตรมาสและรอบปี**
* **ภาพรวมปี 2567:**
* รายได้รวม: 1,632.5 ล้านบาท (+19% YoY)
* กำไรขั้นต้น: 472.8 ล้านบาท (+3% YoY)
* กำไรสุทธิ (ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่): 47.6 ล้านบาท (-43% YoY)
* อัตรากำไรขั้นต้น: 29%
* อัตรากำไรสุทธิ: 2.9%
* **ไตรมาส 4/2567:**
* รายได้รวม: 398.4 ล้านบาท (-22% QoQ, +9% YoY)
* กำไรขั้นต้น: 121.0 ล้านบาท (ใกล้เคียง QoQ และ YoY)
* กำไรสุทธิ (ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่): 13.3 ล้านบาท (+5% QoQ, -55% YoY)
* อัตรากำไรขั้นต้น: 30%
* อัตรากำไรสุทธิ: 3.3%
**ปัจจัยที่มีผลต่อผลประกอบการ**
* **ปัจจัยบวก:**
* การเติบโตของรายได้จากธุรกิจใหม่ เช่น การขนส่งสินค้าทางรางภายในประเทศ (บริษัท ธรห์เหลหย 1อ๐ ไหน[พผิหทอสไล| เอยไรฟีอร) และการขนส่งทางรางไปยังประเทศจีน-ลาว (LaneXang Express) รวมถึงการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน (1๑๐ 5อ0แช๓6ทย 8 5แตทไห 6หลโท) โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียน
* การรับรู้รายได้จากโครงการ Self-Storage สาขาใหม่ (พระราม 3, ไชน่าทาวน์, พระราม 4) และบริการจัดการโลจิสติกส์และกระจายสินค้าของ Advantis [.๑๐
* อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/2567 ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 30% จาก 24% ในไตรมาส 3/2567
* **ปัจจัยลบ:**
* การปรับตัวลดลงของค่าระวางเรือในไตรมาส 4/2567 ส่งผลกระทบต่อรายได้รวม
* ผลประกอบการของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และหลายบริษัทยังอยู่ในสภาวะขาดทุน
* การตัดสินใจหยุดดำเนินการธุรกิจของบริษัท [๐๐ [กิหลกทหาล 1 ๐ยไรฟี6ร (1.ไ1 ) ในประเทศเมียนมาร์ ทำให้ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1.7 ล้านบาท
* รายการค่าใช้จ่ายพิเศษในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 12.7 ล้านบาท และรับรู้การขาดทุนจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
* การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท
* ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่เข้าใช้บริการในลาน YICD#1 ลดลงเนื่องจากการปรับปรุงสภาพลาน
**สถานการณ์เศรษฐกิจ**
รายงานไม่ได้อธิบายสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสล่าสุดอย่างละเอียด แต่กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ทรงตัวในช่วงครึ่งปีแรก และวิกฤตทะเลแดงที่ส่งผลให้ค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในไตรมาส 4
**การวิเคราะห์รายได้และกำไร**
รายได้จากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเรือยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท คิดเป็น 75% ของรายได้รวม แม้ว่าค่าระวางเรือจะปรับตัวลดลงในไตรมาส 4 แต่บริษัทยังคงสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นไว้ได้จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
การเติบโตของธุรกิจใหม่และการขยายสาขา Self-Storage ช่วยชดเชยผลกระทบจากธุรกิจหลักที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายพิเศษและการขาดทุนจากบริษัทย่อยส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิโดยรวม
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* สินทรัพย์รวม: 1,864.1 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 305.2 ล้านบาท YoY)
* หนี้สินรวม: 958.1 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 325.1 ล้านบาท YoY)
* ส่วนของผู้ถือหุ้น: 905.9 ล้านบาท (ลดลง 20.0 ล้านบาท YoY)
* อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio): 1.1 เท่า (เพิ่มขึ้นจาก 0.7 เท่า ณ สิ้นปี 2566)
สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในบริษัทร่วม กิจการร่วมค้า และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเงินระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงิน อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการใช้เงินทุนจากการกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงหากบริษัทไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ตามเป้าหมาย
**กระแสเงินสด**
* กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน: ติดลบ 42.0 ล้านบาท
* กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน: ติดลบ 198.5 ล้านบาท
* กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน: บวก 221.9 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิลดลง: 15.8 ล้านบาท
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้และการลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น ๆ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนติดลบเนื่องจากการลงทุนในบริษัทร่วม กิจการร่วมค้า และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน บริษัทพึ่งพาการจัดหาเงินทุนจากภายนอกเพื่อชดเชยกระแสเงินสดที่ติดลบจากการดำเนินงานและการลงทุน
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**
* **ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของค่าระวางเรือ
* ผลประกอบการที่ไม่แน่นอนของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
* ความเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศเมียนมาร์
* ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
* ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น
* **โอกาส:**
* การเติบโตของธุรกิจใหม่ เช่น การขนส่งสินค้าทางราง และธุรกิจ Self-Storage
* การขยายตลาดไปยังประเทศจีนและประเทศเพื่อนบ้าน
* การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน
**แนวโน้มอนาคต**
บริษัทเชื่อมั่นว่าธุรกิจใหม่ ๆ จะสร้างการเติบโตของกำไรขั้นต้นและผลประกอบการใน 1-2 ปีข้างหน้า การขยายตลาดและการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตของบริษัทในอนาคต
**สรุปความสัมพันธ์ของตัวเลขสำคัญ**
แม้ว่ารายได้รวมของ LEO จะเติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 19% ในปี 2567 แต่กำไรสุทธิกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งกำไรสุทธิคือ ค่าใช้จ่ายพิเศษจากการหยุดดำเนินงานในเมียนมาร์ การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ การขาดทุนจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวมถึงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน อัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการขายได้ในระดับหนึ่ง แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น และภาระหนี้สินที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวม
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าบริษัทมีการพึ่งพาเงินกู้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาวหากไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งได้ การบริหารจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ LEO ในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
**โดยรวมแล้ว ผลประกอบการของ LEO ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ แต่ยังมีความท้าทายในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อให้สามารถสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนได้ การลงทุนในธุรกิจใหม่และการขยายตลาดเป็นโอกาสในการเติบโตในอนาคต แต่บริษัทต้องบริหารจัดการความเสี่ยงและภาระหนี้สินอย่างรอบคอบ**
(22.42%)
(9.46%)
(0.74%)
(0.71%)
(27.97%)
(9.29%)
(23.82%)
(1.49%)
(4.89%)
(54.63%)
(69.45%)
(135.90%)