สรุปงบล่าสุด LEE

สรุปด้วย AI(O) BOT

**บทสรุปผลประกอบการของ บริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (LEE)**

**1. สรุปรายได้รวม:**
บริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีรายได้รวมสำหรับปี 2568 อยู่ที่ 2,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215 ล้านบาท หรือร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปี 2567 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 16 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119 ล้านบาทจากปีก่อนหน้า และมีกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ซึ่งมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.11 บาท (หน้า 1)

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3/2568 มีสัญญาณชะลอตัวจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังอ่อนแรง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอาหารสัตว์ของประเทศยังคงขยายตัวได้ดี โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศและตลาดส่งออกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเนื้อไก่และสัตว์น้ำ นอกจากนี้ ไตรมาสที่ 3 ยังเป็นช่วงฤดูกาลเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ส่งผลให้อุปสงค์ต่ออาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพผลผลิตและมาตรฐานการผลิตเนื้อสัตว์ จึงเลือกใช้อาหารสัตว์คุณภาพสูงมากขึ้น (หน้า 1)

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2568 จำนวน 88 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 12 ล้านบาท หรือ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 และเพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท หรือ 52% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 รายได้จากการขายในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาส 2/2568 และเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 25% โดยเฉพาะอาหารสัตว์บก กำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า 5% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 93% เนื่องจากการบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 17% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 18% แต่เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 10% (หน้า 3)

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 3,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117 ล้านบาท หรือ 4% จากสิ้นปี 2567 สินทรัพย์หลักประกอบด้วยสินทรัพย์ทางการเงิน 42%, ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 31%, สินค้าคงเหลือ 16% และลูกหนี้การค้า 6% หนี้สินรวมอยู่ที่ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาทจากสิ้นปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.12 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99 ล้านบาท หรือ 4% จากปี 2567 เนื่องจากผลกำไรจากการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 2 (หน้า 5-6)

**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**

* **การส่งเสริมการลงทุน:** บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งรวมถึงการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ (หน้า 1)
* **โครงการซื้อหุ้นคืน:** ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงินจำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 7.59 ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมด โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 180 ล้านบาท (หน้า 1)
* **ความยั่งยืน:** บริษัทมีการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจากถ่านหินเป็นพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวมวล และปรับปรุงระบบการอบแห้งและการบดอาหารสัตว์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (หน้า 8)
* **อัตราส่วนทางการเงิน:** อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) ร้อยละ 9.50 และ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (Return on Asset) ร้อยละ 8.33 ในช่วงไตรมาสที่ 3 (หน้า 6)
* **ความเสี่ยง:** บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาต้นทุนวัตถุดิบและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (หน้า 7-8)