สรุปงบล่าสุด FPI
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ หุ้น FPI (บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับ 688 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การเติบโตนี้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายในประเทศและบริษัทย่อยต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น กำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 1,254.1% จาก 7.3 ล้านบาทในปีก่อน ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นคือ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง และการกลับมามีกำไรสุทธิของบริษัทย่อยทั้งในประเทศและต่างประเทศ (หน้า 1)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2568 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส โดยเฉพาะในเดือนกันยายน ภาคการผลิตทยอยกลับมาดำเนินการหลังจากการหยุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ประกอบกับการส่งออกและรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงทั้งในด้านการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นจากกลุ่มปิโตรเลียม เครื่องดื่ม และรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) (หน้า 1)
บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพียงเล็กน้อย (0.17% ของยอดขายรวม) ลูกค้าหลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งมีความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพสูง (หน้า 2)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขายและบริการ:** เพิ่มขึ้น 5.5% จาก 681.2 ล้านบาท เป็น 718.8 ล้านบาท (หน้า 3)
* **ต้นทุนขายและบริการ:** เพิ่มขึ้น 5.5% จาก 491.2 ล้านบาท เป็น 518.4 ล้านบาท (หน้า 3)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย:** เพิ่มขึ้น 18.6% จาก 13.5 ล้านบาท เป็น 16.0 ล้านบาท (หน้า 3)
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 13.1% จาก 44.6 ล้านบาท เป็น 50.4 ล้านบาท (หน้า 3)
* **กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยน-สุทธิ:** เพิ่มขึ้น 97.8% จาก (180.8) ล้านบาท เป็น (4.0) ล้านบาท (หน้า 3)
* **กำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้:** เพิ่มขึ้น 928.6% จาก 12.1 ล้านบาท เป็น 124.0 ล้านบาท (หน้า 3)
* **ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้:** เพิ่มขึ้น 424.7% จาก (4.7) ล้านบาท เป็น (24.8) ล้านบาท (หน้า 3)
กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง และค่าเผื่อมูลค่าสินค้าที่ลดลง (หน้า 4)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ลดลงเล็กน้อยจาก 4,196 ล้านบาท เป็น 4,163 ล้านบาท (ลดลง 1%) (หน้า 1, 6)
* เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง 11% (หน้า 6)
* ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นลดลง 4% (หน้า 6)
* สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น 8% (หน้า 6)
* ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 3% (หน้า 6)
* **หนี้สินรวม:** ลดลงจาก 1,766 ล้านบาท เป็น 1,615 ล้านบาท (ลดลง 9%) (หน้า 1, 7)
* เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินลดลง 26% (หน้า 7)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้นจาก 2,431 ล้านบาท เป็น 2,548 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5%) (หน้า 1, 7)
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลง แสดงถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินที่ดีขึ้น (คำนวณจากข้อมูลในหน้า 6-7)
**ภาพรวม 9 เดือน ปี 2568:**
* **รายได้รวม:** 2,008.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% (หน้า 4)
* **กำไรสุทธิ:** 240.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.8% (หน้า 5)
**การดำเนินงานของบริษัทย่อย:**
* **FPI AUTO PARTS INDIA PRIVATE LIMITED:** มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 72% และกลับมามีกำไรสุทธิ (หน้า 8-9)
* **RBS PLASTIC INNOVATION COMPANY LIMITED:** เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567 มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย (หน้า 9)
* **THARWAT ALQATA INDUSTRIES COMPANY LIMITED LIABILITY:** อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานในซาอุดีอาระเบีย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาสสามของปี 2569 (หน้า 9)
(10.08%)
(5.43%)
(3.40%)
(5.46%)
(6.05%)
(0.04%)
(9.80%)
(14.36%)
(55.05%)
(1,254.15%)
(178.73%)
(132.18%)