DIF
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

เจาะลึกผลประกอบการ DIF ไตรมาส 4 ปี 2567: โอกาสและความท้าทายในโลกดิจิทัล

สวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่งาน Opportunity Day การนำเสนอข้อมูลทางธุรกิจและผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 4 ปี 2567 ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล หรือ DIF ครับ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายหลังการควบรวมระหว่าง True และ DTAC ทำให้ True กลายเป็นผู้นำตลาด โดย SCB EIC คาดการณ์ว่า True มีส่วนแบ่งตลาด 53% ในปี 2567 และยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดในระดับใกล้เคียงเดิมในปี 2568

ในส่วนของตลาดธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต AIS สามารถขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่ 42% หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ 3BB ของ AIS SCB EIC คาดการณ์ว่าส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจบรอดแบนด์ในปี 2568 จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2567

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

กองทุน DIF เข้าลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมจากกลุ่ม True โดยมีทรัพย์สินหลักคือเสาโทรคมนาคมและสาย Fiber Optic Cable ซึ่งกลุ่ม True เป็นผู้เช่าหลักในการประกอบธุรกิจ

กองทุนมีบริษัท Telecom Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่ม True ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารทรัพย์สินโทรคมนาคม โดยมีหน้าที่หลักในการดำเนินการ day-to-day operation และทำการตลาดเพื่อหาผู้เช่ารายอื่น

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ถึงแม้ว่า True จะเป็นผู้ถือหน่วยรายใหญ่ของกองทุน DIF โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 20% และอีก 80% เป็นนักลงทุนทั่วไป แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาด

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

กองทุน DIF มีธนาคารกสิกรไทยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ และ SCBAM เป็นผู้จัดการกองทุนและบริหารทรัพย์สินที่กองทุนเข้าลงทุน นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม True และ SCBAM ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำในการลงทุน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

แนวโน้มในอนาคตของกองทุน DIF จะขึ้นอยู่กับการเติบโตของธุรกิจโทรคมนาคมและการบริหารจัดการทรัพย์สินของกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ กองทุนมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วย และรักษาความมั่นคงของกองทุนในระยะยาว

  • ทรัพย์สินที่กองทุนเข้าลงทุน:
    • เสาโทรคมนาคม: ประมาณ 16,000 ต้น
    • สาย Fiber Optic Cable: ประมาณ 2.8 ล้านคอร์กิโลเมตร
    • ระบบ Upcountry Broadband System: จำนวน 1.2 ล้านพอร์ต (190,000 คอร์กิโลเมตร)
  • ประเภทการลงทุน:
    • สิทธิในกระแสรายได้ + Call Option: กองทุนตั้งใจที่จะใช้สิทธิ์ exercise price ที่ 10 ล้านบาท ในปี 2568
    • กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน: กองทุนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทั้งเสาและสาย
    • เช่าระยะยาว + Call Option: กองทุนมี call option ในปี 2578 (AWC, 500 ล้านบาท) และ 2591 (TICC, 1,500 ล้านบาท)
  • สัญญาเช่ากลับ:
    • เสา: สิ้นสุดปี 2576
    • สาย Fiber Optic Cable: สิ้นสุดปี 2576 (มีเงื่อนไขเพิ่มเติม)
  • ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567:
    • ทรัพย์สินรวม: 204,000 ล้านบาท
    • ส่วนของทุน: 127,000 ล้านบาท
    • หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย: 24,900 ล้านบาท
    • อัตราหนี้สินต่อทรัพย์สิน: 0.12 เท่า
    • อัตราหนี้สินต่อทุน: 0.2 เท่า
    • รายได้จากเสาโทรคมนาคม: 30%
    • รายได้จากสาย FOC: 70%
    • ระยะเวลาสัญญาเช่าคงเหลือ: 14 ปี
  • ผู้ถือหน่วยลงทุน:
    • รายย่อย: 56%
    • กลุ่มสถาบัน (True): 20%
    • ผู้ถือหน่วยสถาบันอื่น: 17%
    • ต่างชาติ (สถาบัน): 6.4%
    • รายย่อย (ต่างชาติ): 0.4%

ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ของกองทุน

  • รายได้รวมของไตรมาส 4 อยู่ที่ประมาณ 3,544 ล้านบาท
  • กำไรจากเงินลงทุนสุทธิอยู่ที่ประมาณ 2,934 ล้านบาท
  • มีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาท (ไม่กระทบกระแสเงินสด)
  • กำไรจากเงินลงทุนสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 11,660 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 102%
  • กำไรสุทธิของกองทุนอยู่ที่ 7,398 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าค่อนข้างมาก
  • จ่ายเงินปันผลได้ทั้งสิ้นอยู่ที่ 0.8888 บาทต่อหน่วย โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมา จ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 10.8093 บาทต่อหน่วย

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 26:45]

  1. หัวข้อ: ความคืบหน้าในการ Refinance เงินกู้

    คำถาม: ขอทราบความคืบหน้าในการรีไฟแนนซ์เงินกู้ 12,000 ล้านบาท ต้องชำระเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรบ้าง

    คำตอบ: กองทุน DIF ได้ทำการรีไฟแนนซ์กับกลุ่มธนาคารเดิมเรียบร้อยแล้ว โดยภาระการจ่ายคืนเงินต้นในปี 2568 เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

  2. หัวข้อ: ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

    คำถาม: อัตราดอกเบี้ยที่ประกาศลดลง 0.25 บาท จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อกำไร และจะส่งผลในไตรมาสไหน

    คำตอบ: เงินกู้ยืมของกองทุนมี 2 ฉบับ ฉบับที่เพิ่งรีไฟแนนซ์มามีอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น 0.25% และฉบับปี 2565 จะมี step up ขึ้นมาอีก 0.25% ในปี 2568 ดังนั้นการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ย 0.25% อาจจะยังไม่ได้รับผลในแง่ของการเซฟภาระดอกเบี้ยของกอง ต้องดูต่อไปว่า กนง. จะมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งหากมีการปรับลดลง กองทุนจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ย และถ้ามีการประหยัดลดลงมากกว่านี้ ทาง DIF จะได้รับผลประโยชน์ สำหรับ 0.25% ที่จะลดลง จะทำให้กองทุนสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 60 ล้านบาท

  3. หัวข้อ: อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากการรีไฟแนนซ์

    คำถาม: ทำไมอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับวงเงินที่ครบอายุไป

    คำตอบ: ถ้าเปรียบเทียบกับวงเงินที่รีไฟแนนซ์ไปเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า

  4. หัวข้อ: แนวโน้มเงินปันผลปี 2568

    คำถาม: แนวโน้มเงินปันผลในปี 2568 จะเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567

    คำตอบ: มีการตกลงในแง่ของการชำระเงินต้นสำหรับวงเงินที่รีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 2567 การจ่ายเงินปันผล ถ้าเทียบกับอัตราดอกเบี้ย ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีประกาศลง คาดว่าจะสามารถจ่ายได้ใกล้เคียงกับเดิม อาจจะมีการกระทบต่อ DPU ประมาณ 0.01% กองทุนคาดว่าปีนี้อาจจะจ่ายตัวเงินปันผลปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ถ้ามีการประกาศลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น กองทุนก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย และนำส่งให้ทางผู้ถือหน่วยได้มากขึ้น

  5. หัวข้อ: การหาเงินกู้ใหม่มารองรับเงินกู้ที่ครบกำหนด

    คำถาม: เงินกู้ที่ครบกำหนดล่าสุด สามารถหาเงินกู้ใหม่มารองรับได้หรือยัง และเป็นสถาบันการเงินเดิมหรือไม่ เทอมการจ่ายเงินกู้เป็นอย่างไร

    คำตอบ: ทางกองทุนได้รีไฟแนนซ์กับทางเจ้าหนี้ไปที่เรียบร้อยแล้ว และยังเป็นสถาบันการเงินเดิมที่ได้มีการรีไฟแนนซ์ เทอมการจ่ายเงินกู้ ก็จะมีลักษณะของการทยอยจ่ายคืนเงินต้น ตลอดอายุเวลา 5 ปีของสัญญา

  6. หัวข้อ: รายได้และส่วนแบ่งตลาดบรอดแบนด์ของ True

    คำถาม: ธุรกิจบรอดแบนด์ของ True ปัจจุบันมีรายได้เท่าไหร่ และมีแนวโน้มจะเกิน 16,500 ล้านบาทก่อนหมดอายุสัญญาหรือไม่ ส่วนแบ่งตลาดบรอดแบนด์มีโอกาสเกิน 33% ก่อนหมดสัญญาหรือเปล่า

    คำตอบ: สำหรับรายได้ของธุรกิจบรอดแบนด์ของกลุ่ม True สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมานั้นมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งเกิน 16,500 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของสัดส่วนส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจบรอดแบนด์ว่าจะเกิน 33% หรือเปล่า อาจจะต้องรอ ดูอีกทีนึง เนื่องจากว่าการเข้าควบรวมกิจการระหว่าง True กับ DTAC ก็เลยทำให้มีการปรับตัว ฐานรายได้ แล้วก็เลยส่งผลต่อตัวส่วนแบ่งตลาดของของธุรกิจบรอดแบรนด์เล็กน้อย แต่ทางกลุ่ม True จะต้องเช่าต่อสาย Fiber Optic Cable ไปอีกสูงสุดไม่เกิน 10 ปี นับจากปี 2576 ก็คือจะต้องเข้าเงื่อนไขเพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถ้าดูในปัจจุบันนี้แล้ว ตัวรายได้ของธุรกิจบอร์ดแบนด์เนี่ยก็เกิน 16,500 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  7. หัวข้อ: มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนที่ลดลง

    คำถาม: มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีการลดลงมากกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก มีสาเหตุจากอะไร มีการเปลี่ยนแปลงบริษัทประเมิน หรือเกี่ยวข้องกับ การประเมินค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม อย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ บริษัทประเมินมีความน่าเชื่อถืออย่างไร

    คำตอบ: มูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ลดลง เกิดจากการที่มูลค่าทรัพย์สินกองทุนลดลงจากการประเมิน และในปี 2567 ทางกองทุนมีการเปลี่ยนผู้ประเมินใหม่ แต่ก็เป็นผู้ประเมินเดิมที่เคยประเมินไว้ใน 2-3 ปีที่แล้ว โดยปกติกองทุนจะมีการจัดจ้างผู้ประเมินเปลี่ยนผู้ประเมินทุก ๆ 2 ปี โดยภาพรวมแล้ว ทางผู้ประเมินรายนี้ไม่ได้มองธุรกิจของกองทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานบางส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่สมมติฐานที่สำคัญที่พอเปลี่ยนแปลงแล้วส่งผลกระทบต่อมูลค่าค่อนข้างเยอะ คือส่วนที่เรียกว่า discount rate หรืออัตราคิดลด ที่ใช้ในการคิดลดกระแสรายได้ที่มองในอนาคตกลับมาเป็นปัจจุบัน ส่วนดังกล่าวจะ เป็นส่วนที่ทำให้ส่งผลต่อมูลค่าการประเมินค่อนข้างมาก อัตราคิดลดที่กองทุนใช้คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หรือต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของกองทุน ที่ประกอบไปด้วยส่วนของทุนและส่วนของเงินกู้ โดยหลัก ๆ แล้วส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปที่ส่งผลกระทบคือส่วนของเงินกู้ ที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น มาค่อนข้างมากในระยะหลัง ตัวใน รายงานผู้ประเมินใหม่ ก็จะ สะท้อนเรื่องของตัวนี้เป็นหลักไป ส่งผลให้อัตราคิดลด เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้วเนี่ยขึ้นมาประมาณ 0.5% ซึ่ง 0.5% ดังกล่าวเนี่ยส่งผลต่อมูลค่าของ ของ การประเมินของกองทุนอย่างที่เห็นคือประมาณลดลงประมาณ 10,000 ผู้ประเมิน มอง rate เพิ่มขึ้นเพราะสาเหตุใดเนื่องจากอาจจะมองว่าทิศทางของดอกเบี้ยเนี่ยอยู่ในทิศทางขาลง กองทุนจะมีการให้ทางผู้ประเมินเนี่ยประเมินสอบผ่านมูลค่าทุก ๆ สิ้นปี ดังนั้นเนี่ย ทางผู้ประเมินเองเนี่ยก็จะมองเรื่องของมูลค่า หรือ ส่วนของที่เป็นปัจจัยต่าง ๆ ในส่วนที่เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ ตอนที่ประเมินนะครับ ส่วนของที่บอกว่าเป็น ดอกเบี้ย ต้นทุนทางการเงินอาจจะเริ่มลดลงอย่าง เงี้ยครับ อาจจะยังไม่ได้มองแนวโน้มในระยะยาวขนาดนั้นก็ เป็น มอง สะท้อนจากสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ณ ตอน ประเมินเป็นหลักครับ

  8. หัวข้อ: แผนการเพิ่มรายได้ในอนาคต

    คำถาม: ทาง DIF มีแผนเพิ่มรายได้ในอนาคตหรือไม่ ถ้ามีเป็นโครงการอะไร รายได้เท่าไหร่

    คำตอบ: ยังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภายใต้แผนที่วางไว้ และจะติดตามพูดคุยอย่างใกล้ชิดว่าพร้อมที่จะมีทรัพย์สินที่นิ่งและใช้ประโยชน์อยู่ ให้กองทุนได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมหรือเปล่า สำหรับทรัพย์สินที่กองทุนมีอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ เราจะมีการใช้สิทธิ์ Call Option เพื่อที่จะแปลงจากการลงทุนแบบซื้อกระแสรายได้มาเป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่ง ทรัพย์สินในส่วนนี้ก็จะสามารถนำมาหา ประโยชน์เพิ่มเติมได้ก็คือเราจะมีตัวของพื้นที่ที่จะให้เช่ามากขึ้นแล้วก็ เสาในส่วนของนี้ค่ะจะเป็นเสาที่ เป็นเสาที่ มีความต้องการในแง่ของ อยู่ในพื้นที่ที่ ที่สำคัญน่ะนะคะก็คิดว่ากองอยากจะทำการตลาดในส่วนนี้ให้เพิ่มขึ้นน่ะนะคะกับทางผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ก็ถ้ามีแผนที่ชัดเจนหรือ ก็มีราย ได้เพิ่มขึ้นมาก็จะ เรียนแจ้งผู้ลงทุนแล้วก็ปรากฏในงบการเงิน

  9. หัวข้อ: ความมั่นใจในการต่อสัญญาเช่าโครงข่าย

    คำถาม: อยากให้ทางผู้จัดการกองทุนให้ความมั่นใจในเรื่องของการต่อสัญญาเช่าโครงข่าย ว่าหมดอายุแล้วน่าจะได้ต่อสัญญาเช่าไปได้ถึงเมื่อไหร่

    คำตอบ: สัญญาเช่าที่มีกับทางผู้เช่าหลักตั้งแต่จัดตั้งกองทุนรวมมา ก็คือทาง True ก็มีการใช้ ทรัพย์สินที่เช่า มีการให้บริการจริง แล้วก็ True เองยังเป็นผู้ประกอบการหลักในธุรกิจ Mobile แล้วก็ทางอินเทอร์เน็ตอยู่ ซึ่ง ณ ปัจจุบันสัญญาเช่าของกองทุนเนี่ย ยังเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 9 ปี ที่จะครบอายุกับสัญญาผู้เช่าหลัก โดยถ้าเป็น เกี่ยวกับ สาย FOC ก็จะ ขยายออกไปอีก จากปี จาก 9 ปี ก็จะเป็น 19 ปี ซึ่งในส่วนของกองทุนกับ True เองนะคะก็จะมีการเข้ามาพูดคุยกันนะคะ อาจจะเป็นช่วงประมาณ 2 ปี ก่อนที่จะครบอายุสัญญาเช่า น่ะนะคะ แต่ ณ ปัจจุบันค่ะกองทุนก็ยังมีความมั่นใจว่าในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการหลักอ่ะนะคะในส่วนของ True เองเนี่ยก็ ยังมีการ ใช้งานจริงนะคะแล้วก็มีการเพิ่มในแง่ของการลงทุนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่องนะคะ ก็ยังไม่มีสัญญาณใดที่จะมองว่าจะ มีการเปลี่ยนแปลง ณ เวลานี้นะคะ ยังไงก็จะ มีการอัปเดตให้ทางผู้ลงทุนทราบเกี่ยวกับสถานะ Market Share ของ ทาง True นะคะ ในธุรกิจนี้เรื่อย ๆ

  10. หัวข้อ: ผลกระทบจาก Data Center ต่อการเช่าเสาและสายเคเบิล

    คำถาม: Data Center มีผลต่อการเช่าเสาหรือสายเคเบิลในอนาคตหรือไม่

    คำตอบ: ในส่วนของ Data Center ค่ะ ถ้าถามว่า มีผลกระทบโดยตรงกับทางธุรกิจเสาและสายของกองหรือเปล่านะคะ อันนี้จะเป็นลักษณะของทางอ้อมมากกว่าค่ะว่าในแง่ของถ้า มีการ ต้องเกี่ยว เกี่ยวข้องนะคะ หมายถึงว่าผู้ที่มาใช้บริการ Data Center ค่ะ ถ้าจะเกี่ยวข้องกับตัวที่เป็น ให้บริการโทรคมนาคมนะคะ ถ้ากลุ่มนี้มีจำนวน เยอะนะคะก็มีดีมานด์ที่จะมาใช้เสากับศาลของกองมากขึ้นน่ะนะคะ แต่เข้าใจว่าลูกค้า ของ Data Center ก็น่าจะมีหลากหลายพอสมควรนะคะมีหลายกลุ่ม

  11. หัวข้อ: กำไรจาก Call Option

    คำถาม: ขอเชิญ คุณ นวพล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ กำไรของ Call Option นะคะ ที่จะลงทุน 10 ล้านบาท นะคะ เป็นเท่า ไหร่ ในระยะเวลานานแค่ไหน

    คำตอบ: Call Option ที่เป็นยอด 10 ล้านบาท จะเป็นค่าใช้จ่ายในการที่เรา จะ exercise เพื่อได้รับสิทธิ์ ในส่วน ได้รับ ได้ รับ ทรัพย์สินในส่วนของ ที่เป็นเงินลงทุนในสิทธิ์ในกระแสรายได้มา ทั้งนี้ของกองทุนกับ ทาง กลุ่ม True เองที่ใน ฐานะผู้ เช่าหลักเนี่ยก็มีสัญญา ที่ ล็อก กันไว้ครับว่าหลังจากที่เรานำทรัพย์สินเข้ามาเป็นของกองแล้วครับ ก็จะมีการ เช่าทรัพย์สินเหล่านี้ต่อจนถึง ปี 2576 นะครับ โดยที่ รายได้ รายได้ สุทธิ เนี่ยจะไม่น้อยไปกว่าเดิม นะครับ ดังนั้นถ้าหากท่านผู้ถือหน่วยครับลองลองดูในส่วนของงบการเงินนะครับในส่วนของรายได้จากเงินลงทุนในสิทธิ์กระแสรายได้นะครับก็จะพบว่ารายได้ของ เอ่อ ของรายได้ ที่ generate จากในส่วนนี้ครับก็อยู่ประมาณ 3,000 ล้านต่อปีนะครับอันนี้ก็จะคาด การณ์ ได้ว่าเป็น ทาง กองเนี่ย น่าจะมี เอ่อ ผลตอบแทนเข้ามา อย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ

  12. หัวข้อ: สัญญาเช่าเสาหมดอายุ

    คำถาม: เมื่อใกล้หมด อายุ เสา นะจะหมายถึงสัญญาเช่าเสา หากไม่มีการเช่าต่อทางกองทุนจะดำเนินการอย่างไร

    คำตอบ: สัญญาเช่าปัจจุบันที่กองทุนมีกับผู้เช่าหลักคือ True จะเหลือประมาณ 9 ปี ถ้า True ไม่ได้เช่าต่อ กองทุนคิดว่าในแง่ของการใช้บริการ ทางด้านโทรคมนาคมไม่ว่าจะเป็นในส่วนของมือถือ นะคะหรืออินเทอร์เน็ตเองอ่ะค่ะก็จะต้องมีผู้ให้บริการรายอื่น ๆ อ่ะค่ะเข้ามาอยู่ในธุรกิจด้วยนะคะ ซึ่งทางกองทุนค่ะก็จะต้องมีการเข้าไป อ่าเจรจานะคะกับผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการรายใหม่อ่ะค่ะก็จะต้อง อ่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ตัว Infrastructure ที่เป็นเสาและสายในการให้บริการนะคะ ก็อันนี้จะเป็น อ่าสเต็ปที่ 1 นะคะ ถ้าไม่มีการต่ออายุสัญญาเช่ากับ True นะคะ

  13. หัวข้อ: สัญญากู้ยืมสั้นกว่า 5 ปี

    คำถาม: มีแนวคิดที่จะทำสัญญา กู้ยืมสั้นกว่า 5 ปีหรือ ไม่ เนื่องจากเป็นช่วงดอกเบี้ย ขาลงนะคะ

    คำตอบ: ในส่วนของระยะเวลาของสัญญากู้ยืมค่ะ อ่าต้องเรียนว่า ทาง กองทุน น่ะนะคะใน ในแง่ของการ รีไฟแนนซ์ น่ะนะคะในส่วนของกองเนี่ยก็ต้อง balance ว่าในระยะเวลาการกู้ยืมอ่ะค่ะ ถ้า ถ้าสั้นเกินไปอ่ะนะคะมันก็จะมี อ่าความ อ่า จริง ๆ คือ เทรนด์ดอกเบี้ยนะคะเรามี แนวทางที่จะทำให้เราได้ประโยชน์ในช่วง ดอกเบี้ย ขาลงในลักษณะอื่น ๆ อ่ะนะคะโดยที่เรา อ่ามองว่าสัญญา กู้ยืมที่สั้นกว่า 5 ปีอ่ะค่ะมันอาจจะ อ่าสร้างความ ผันผวน หรือความกังวลกับทางผู้ลงทุนด้วยอ่ะนะคะ งั้นในแง่ของกองก็จะพิจารณาในเรื่องของการทำ อ่า เรียกว่าประกันความเสี่ยงอ่ะนะคะสำหรับอัตราดอกเบี้ยเอาไว้อ่ะนะคะก็ลองดูว่าถ้ามีจังหวะที่ อ่ามุมมองตลาดกับค่าใช้จ่ายในการทำอ่ะนะคะ อ่าเป็นประโยชน์กับกอง กองทุนก็จะพิจารณาเข้าทำค่ะ

โดยสรุป, งาน Oppday ของ DIF ในครั้งนี้ได้ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน, โอกาส, และความท้าทายที่กองทุนกำลังเผชิญอยู่ แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ แต่กองทุนยังคงมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วย