สรุป OPPDAY หุ้น DCC
Oppday
สรุป OPPDAY
DCC โชว์ผลงาน Q3 ปี 2568: รายได้ลด แต่กำไรยังคงที่ พร้อมลุยขยายพื้นที่เช่า
สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน ผมชนินทร์ สุภพิญโญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงินของบริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด (มหาชน) ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day ไตรมาสที่ 3 ของปี 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
รายได้จากการขาย: ในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 บริษัทมีรายได้ 1,451 ล้านบาท ลดลง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 (1,574 ล้านบาท) และลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีก่อนหน้า (2567) สาเหตุหลักมาจากการเข้าสู่หน้าฝน ทำให้งานก่อสร้างลดลง ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล
สัดส่วนการขาย: การขายในประเทศยังคงเป็นหลัก คิดเป็น 97% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนการส่งออกไปต่างประเทศอยู่ที่ 3% โดยประเทศหลักคือพม่าและลาว
รายได้สะสม 9 เดือน: รายได้จากการขายสะสม 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 4,876 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (5,393 ล้านบาท) สัดส่วนการขายในประเทศและต่างประเทศยังคงเดิม
ปริมาณการขาย: ในไตรมาสที่ 3 บริษัทขายกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และกระเบื้องพอร์ซเลน 8.1 ล้านตารางเมตร ลดลง 10% จากไตรมาสที่ 2 และลดลง 12% จากไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน
ราคาขายเฉลี่ย: ราคาขายเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 3 บาทต่อตารางเมตร มาอยู่ที่ 163 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
การขายในประเทศ: บริษัทเน้นการจัดจำหน่ายกระเบื้องและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผ่านสาขาของตนเอง (201 สาขาทั่วประเทศ) และช่องทางขายส่ง (Modern Trade, Traditional Trade) รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ
กลุ่มสินค้า Medium to High: บริษัทให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มกลางบน (Medium to High) ซึ่งประกอบด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาดใหญ่และกระเบื้องพอร์ซเลน โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
พื้นที่เช่า: บริษัทเปิดให้ผู้สนใจเช่าพื้นที่ในสาขาของตนเอง ทั้งโชว์รูม คลังสินค้า และลานจอดรถ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมและสนับสนุนผู้ประกอบการ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ภาวะเศรษฐกิจ: สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อรายได้และการเติบโตของบริษัท
ฤดูกาล: ธุรกิจได้รับผลกระทบจากฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่งานก่อสร้างลดลง
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
การปรับปรุงประสิทธิภาพ: บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานและสร้างฝุ่น รวมถึงนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่
การขยายช่องทาง: บริษัทขยายช่องทางการขายและการตลาด โดยเน้นกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มและทำงานร่วมกับสถาปนิกและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
การเติบโตอย่างยั่งยืน: บริษัทมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการตอบแทนนักลงทุน ควบคู่ไปกับการใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการควบคุมภาระหนี้สิน
การพัฒนาผลิตภัณฑ์: บริษัทจะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 26:45]
DCC มีการปรับแผนการตลาดอย่างไรเพื่อรับมือกับตลาดกระเบื้องที่หดตัว?
ทางบริษัทมีความมุ่งมั่นในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่ลูกค้าระดับราคาเหมาะสมไปจนถึงกลุ่มพรีเมียม และทำงานร่วมกับสถาปนิกและ Developer เพื่อนำสินค้าของบริษัทเข้าสู่โครงการต่าง ๆ
ปัจจุบัน DCC มีสาขาที่มีพื้นที่พร้อมให้เช่ากี่ตารางเมตร และมีอัตราเช่าประมาณกี่เปอร์เซ็นต์?
บริษัทมีพื้นที่ปล่อยเช่าประมาณ 90,000 ตารางเมตร ในเกือบ 100 สาขา ประกอบด้วยพื้นที่โชว์รูม พื้นที่คลังสินค้า และพื้นที่ลานจอดรถ ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ทุกสาขาของบริษัทที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ
ในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2568 DCC จ่ายเงินปันผลเกือบ 100% ของกำไรสุทธิ แต่เหตุใดในงวดไตรมาสที่ 3 จึงจ่ายปันผลที่ payout ratio ลดลงเหลือ 65%?
ทางบริษัทคำนึงถึงทุกมิติในการจ่ายเงินปันผล รวมถึงการพิจารณาแผนการใช้เงินของบริษัทในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น รวมถึงการบริหารภาระหนี้สินของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ยังต่ำ บริษัทพิจารณารอบด้านในการจ่ายเงินปันผลและบริหารงานเหล่านี้เพื่อให้เงินลงทุนของบริษัทและนักลงทุนทุกท่านเกิดประโยชน์สูงสุด
สรุป
โดยรวมแล้ว DCC ยังคงรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่ารายได้จะลดลงบ้างเนื่องจากปัจจัยภายนอก แต่บริษัทก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายช่องทางการตลาด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ การบริหารจัดการต้นทุนและหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ DCC สามารถรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินได้