BRI
บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) (BRI) ฉบับสมบูรณ์

บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ประสบกับความท้าทายในปี 2567 จากภาวะเศรษฐกิจโลก หนี้ครัวเรือน และความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท และร่วมทุนพัฒนาโครงการกับพันธมิตร 7 โครงการ แต่รายได้รวมและกำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 3,860.2 ล้านบาท ลดลงจาก 5,861.9 ล้านบาทในปี 2566 กำไรสุทธิลดลงจาก 1,194.5 ล้านบาท เป็น 426.6 ล้านบาท รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง แต่มีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ บริษัทมีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้จำนวนมาก เนื่องจากการเรียกเก็บค่าบริหารงานโครงการจากบริษัทร่วมค้าล่าช้ากว่าที่กำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทมีเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น 1,684.9 ล้านบาท และเงินลงทุนในการร่วมค้าเพิ่มขึ้น 1,046.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการร่วมทุน

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจโดยเน้นการร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการร่วมค้าทั้งสิ้น 43 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 48,300 ล้านบาท กระจายอยู่ทั่วประเทศ บริษัทตั้งเป้าที่จะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการร่วมค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ แผนการดำเนินงานในอนาคตมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ท่ามกลางสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง กลยุทธ์หลักยังคงเป็นการสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย บริษัทมีแผนเพิ่มการรับรู้และเข้าใจในแบรนด์กับผู้บริโภคมากขึ้นในปี 2568 โดยใช้พรีเซ็นเตอร์และการพัฒนาเอกลักษณ์ของการบริการ นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในปี 2568 เพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมและลดอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น

BRI เผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรสุทธิอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทยังคงมีโครงการร่วมค้าจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อาจเป็นโอกาสในการเติบโตในอนาคต หากโครงการเหล่านี้สามารถสร้างรายได้ได้ตามเป้าหมาย ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพในการเติบโตระยะยาวของบริษัท แต่ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาวะตลาด ภาระหนี้สิน และความไม่แน่นอนในการอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน หนี้สินรวมของบริษัทลดลง 1,190.7 ล้านบาท โดยหลักมาจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและทยอยคืนเงินกู้ยืมจากธนาคาร ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีหุ้นกู้ระยะยาว 3,741.4 ล้านบาท ซึ่งมียอดที่ถึงกำหนดชำระในปี 2568 จำนวน 1,370.6 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนชำระหุ้นกู้ดังกล่าวจากเงินรับจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ เงินรับจากการร่วมค้าในโครงการใหม่ และเงินรับจากการออกหุ้นกู้ใหม่

**โอกาส:**

* การร่วมทุนกับพันธมิตรช่วยลดภาระทางการเงินและเพิ่มโอกาสในการขยายโครงการ
* โครงการร่วมค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอาจสร้างรายได้และกำไรในอนาคต
* ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาว
* แผนการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อปรับโครงสร้างทางการเงิน

**ความเสี่ยง:**

* สภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายและกำไร
* ความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่ออาจทำให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น
* ภาระหนี้สินที่สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโต
* ความไม่แน่นอนในการอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุน

**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**

* **รายได้:** ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2567
* **กำไร:** ลดลงอย่างมากในช่วงปี 2567
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปี 2567
* **D/E:** ค่อนข้างสูง แสดงถึงภาระหนี้สินที่มาก แต่มีแผนลดลงจากการออกหุ้นเพิ่มทุน
* **P/E:** ลดลง แสดงว่าราคาหุ้นถูกลงเมื่อเทียบกับกำไร
* **P/BV:** ลดลง แสดงว่าราคาหุ้นถูกลงเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี
* **YIELD:** สูงขึ้น แสดงถึงอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงขึ้น
* **วงจรเงินสด:** ค่อนข้างยาว แสดงว่าบริษัทใช้เวลานานในการเปลี่ยนสินค้าคงคลังให้เป็นเงินสด

**ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไร:**

* สภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์
* ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย
* ความสามารถในการสร้างรายได้จากโครงการร่วมค้า
* การตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

**พัฒนาการสำคัญ:**

* การเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ
* การร่วมทุนพัฒนาโครงการกับพันธมิตร 7 โครงการ
* การจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย
* แผนการออกหุ้นเพิ่มทุน

**อนาคตการลงทุน:**

* การลงทุนใน BRI มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เอื้ออำนวย
* นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงและโอกาสอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
* การลงทุนระยะยาวอาจมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี หากบริษัทสามารถสร้างรายได้และกำไรจากโครงการร่วมค้าได้ตามเป้าหมาย และสามารถปรับโครงสร้างทางการเงินได้สำเร็จ


รายได้รวม
1,523.48 ล้านบาท
1,523.48ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1,122.74ล้านบาท
(42.43%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
503.09 ล้านบาท
503.09ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
696.73ล้านบาท
(58.07%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
33.02 ล้านบาท
33.02ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
12.32ล้านบาท
(27.17%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
266.56 ล้านบาท
266.56ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
166.45ล้านบาท
(38.44%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
17.50 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
-76.26 ล้านบาท
76.26ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
525.02ล้านบาท
(116.99%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
-5.01 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
2.55 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
1,188.45 ล้านบาท
1,188.45ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
2,384.38ล้านบาท
(199.37%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล