สรุป OPPDAY หุ้น BLC

บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
BLC เติบโตต่อเนื่อง! เจาะลึกกลยุทธ์ 5P ดันยอดขายปี 2567 พุ่งทะยาน พร้อมลุยตลาด E-Commerce ด้วย AI
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติก จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ได้จัดกิจกรรม Oppday สำหรับงวดประจำปี 2567 โดยมีผู้บริหาร 3 ท่านเข้าร่วมบรรยายสรุปผลการดำเนินงานและทิศทางธุรกิจ
ผลประกอบการปี 2567: ปิดยอดขายที่ 1,557 ล้านบาท โต 10.7% (โตมากกว่าอุตสาหกรรม) กำไรสุทธิ 171 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท
แม้ผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้บริหารมองว่ายังสามารถทำได้ดีกว่านี้
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
บริษัทมุ่งสู่การเป็นผู้นำ Pharmaceutical Ecosystem ในไทย และขยายสู่ระดับสากล
กลยุทธ์ 5P Strategic ที่วางแผนไว้อย่างรอบคอบและครอบคลุม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคงในอนาคต
Product Innovation: สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ Global Health Trend ทั้ง Cosmeceutical, อาหารเสริม, Herbal Medicine
Place Innovation: นอกจากช่องทางโรงพยาบาลและร้านขายยาแล้ว ยังมองถึง Modern Trade และ E-Commerce
Partner Innovation: ร่วมมือกับบริษัท Nichi-Iko เพื่อทำการตลาดในประเทศและ CLMV
พัฒนา Innovation สมุนไพร ออกมาเป็นสินค้า Cosmeceutical และอาหารเสริม โดยตั้งบริษัทที่ 7 ขึ้นมาคือบริษัท BKD Viva เพื่อเป็น New S-Curve
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
Sentiment ของตลาดที่ยังไม่ตอบรับเท่าที่ควร แม้ผลประกอบการจะดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสาร
การแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรมยา
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
มุ่งเน้นการทำ Excellent Performance เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
Speed up ผลประกอบการให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทุกไตรมาส ทุกปี และทุก 3 ปี
ยึดมั่นเรื่อง Good Governance และ ESG
ใช้ AI และ Data ในการขับเคลื่อน Strategy ทั้งหมด
ยกระดับกระบวนการผลิตและการตลาดด้วย AI และ Data
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
BC ยังคงยึดมั่นใน Innovation ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ
คาดว่า BLC จะต้อง Speed ผลประกอบการให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ยังคงยึดถือเรื่อง Good Governance ได้ certify ESG
บริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
พัฒนา Innovation สมุนไพรออกมาเป็น Cosmeceutical และอาหารเสริม
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 51:50]
- Q: บริษัทมีมุมมองต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมยาในประเทศไทยอย่างไร และมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตนี้?
- A: อุตสาหกรรมยาในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะตลาดยาสำหรับผู้สูงอายุ และยาที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ส่งผลกระทบคือการแข่งขันที่รุนแรง และการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ
- Q: BLC มีแผนการลงทุนในด้านใดบ้าง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต?
- A: บริษัทมีแผนการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะยาที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และยาที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงทุนในด้านการขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
- Q: บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างไร?
- A: บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ และแผนการลงทุนของบริษัทในแต่ละปี
- Q: บริษัทมีมาตรการในการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ อย่างไร?
- A: บริษัทมีมาตรการในการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านการตลาด การเงิน การผลิต และการดำเนินงาน โดยมีการติดตามและประเมินความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ
- Q: BLC มีความแตกต่างจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่างไร?
- A: BLC มีความแตกต่างจากคู่แข่งในด้านความเชี่ยวชาญในการผลิตยาจากสมุนไพร และการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งยาแผนปัจจุบัน และยาแผนโบราณ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
- Q: บริษัทมีเป้าหมายในการเติบโตในระยะยาวอย่างไร?
- A: บริษัทมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยาของประเทศไทย และขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า
โดยรวมแล้ว BLC มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยา การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างใกล้ชิด