BC
บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

BC โชว์ผลงาน Q3/2568: โอกาสเติบโตในธุรกิจโรงแรมและการบริการ

สวัสดีนักลงทุนและผู้ฟังทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Opportunity Day ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2568 โดยคุณศิรพัฒน์ ก้อนสถาพร เจ้าหน้าที่ฝ่าย Investor Relations และ Corporate Finance and Treasury และคุณคลองธรรม ริมประพันธ์ Senior Vice President ฝ่าย Business Development Investment and Operation ของ Boutique Corporation จะมาให้ข้อมูลและตอบคำถาม

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

*

ในไตรมาสที่ผ่านมา Boutique Corporation สามารถทำผลงานได้ดี โดยมีรายได้รวม 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 504.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (Year-on-Year)

*

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคือการ exit หรือ divestment โครงการหลักอย่าง ICO ของ Project Summer Point ในเหรียญ SumX ซึ่งเกิดขึ้นในปีนี้

*

ในขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (Q on Q) มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 3.9% คิดเป็น 80.4 ล้านบาท ในแง่ของ Hotel and Commercial Property Operations

*

บริษัทมีความยินดีที่ได้รับการสนับสนุนจาก Lender หรือธนาคารเป็นอย่างดี โดยในไตรมาสที่ผ่านมา Boutique Corporation ได้ secured loan หรือได้รับ loan เพิ่มใน amount ที่ significant คือ 1,392 ล้านบาท ซึ่งเป็น loan ที่ project ที่ทำอยู่คือ Project สุขุมวิทซอย 5 และ Project กมลา 2

*

ถึงแม้จะมี loan อยู่แล้ว แต่ในไตรมาสที่ผ่านมาได้รับปริมาณ loan ใน project เดิมเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ return ของผู้ลงทุนต่างๆ ใน project นี้มีปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

*

ทางกลุ่มค่อนข้างมั่นใจใน Demand ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา Visit ในประเทศไทย

*

ใน Q3 รายได้จากโรงแรมในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 5.3% Q on Q และกรุงเทพฯ เพิ่ม 9% Q on Q ถือว่าเป็น Sign ที่ดี และ Outlook ของไตรมาส 4 ก็แน่นอนว่าเป็น High Season และมองเห็นเลขที่ค่อนข้างดี

*

ด้าน Asset Light Service เดือน 7 ที่ผ่านมา Boutique ได้เซ็นสัญญา Franchise Agreement 3 โรงแรมกับ Accor พร้อมกับได้รับการ recognize จาก Accor ว่าเป็น Official Third Party Operator สำหรับโรงแรมของ Accor ในประเทศไทย

*

หากมี Owner ที่อยากทำโรงแรมใช้ Brand Accor เป็น Franchise แต่ตัวเองยังไม่มี capability ในการบริหารโรงแรมเอง สามารถจ้าง Boutique Corporation เป็นคนบริหารโรงแรมได้ โดยใช้ Brand จาก Accor

*

ต้องการ recurring income เพิ่ม และต้องการ Asset Light income เพิ่ม และมีความสามารถในด้านนี้อยู่แล้ว จนได้รับการยอมรับจาก Brand ระดับโลกอย่าง Accor

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

*

ภาพรวมการท่องเที่ยวปีนี้คิดว่าน่าจะ Flat เทียบกับปีที่แล้ว โดยรวมนักท่องเที่ยวน่าจะ Arrive ประมาณ Forecast ประมาณ 34-35 ล้านคนในปีนี้

*

ถ้าปีหน้าไม่มี External Factor เข้ามากระทบเพิ่ม ก็คิดว่าน่าจะมีการเติบโตขึ้นได้ Inline ไปกับช่วงก่อนหน้า Covid หรือปีช่วงประมาณ 2019

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

*

Tourism Demand ทางกลุ่มค่อนข้างมั่นใจอยู่ ในแง่ Demand ของนักกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างๆ ที่เข้ามา Visit ในประเทศไทย

*

มีการปรับ F&B Offering ในโรงแรมต่างๆ ใน Port ให้เริ่มมีการ cover อาหารอินเดีย สำหรับ Breakfast อาจจะเป็นบางไอเทม แน่นอนว่า Continental Breakfast อะไรพวกนี้ก็ยังมีอยู่ตามปกติ แต่ให้เริ่มมี Selection ของ F&B ที่เป็นอาหารอินเดียเพิ่มเติม

*

ได้ทำการเปิดร้านชิทแชท ที่ Owood ซอยสุขุมวิท 24 เป็น Pilot Project ที่พยายามจับตลาดกลุ่มลูกค้าอินเดียและกลุ่มคนไทยที่ชอบทานอาหารอินเดีย ได้มีการ Grand Opening ไปเมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมา เสียงตอบรับค่อนข้างดี และใช้พื้นที่นี้เป็นครัวกลางในการ Train Chef ใน Project ต่างๆ ให้สามารถทำอาหารอินเดียได้

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

*

Corporation มี Asset under management ตั้งแต่ปี 2008 มา 11,100 ล้านบาท Current Asset under management 9.5 พันล้าน ส่วนต่างคือ Asset ที่ขายไปตาม Business Model ในช่วง 10 ปี ให้หลัง และมี Under construction อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท

*

ทำ Build Operate Sale จะเริ่มตั้งแต่หา Project หาที่ดินขึ้นมา หา นักลงทุนมาลงทุนร่วมกัน แล้วก็พัฒนาโครงการขึ้นมา เลือก Brand แล้วก็ Operate แล้วก็ขาย

*

ปัจจุบัน Operate อยู่ทั้งหมดรวมทั้งโรงแรมรวมทั้ง Commercial 14 Project มี Project ใน Pipeline 5 Project แล้วก็ขายไปแล้ว 11 Project

*

JW Marriott Bangkok พร้อมพงษ์ จะเป็นโครงการที่เป็น Flagship ของ Boutique Corporation ได้เซ็นสัญญาไปเรียบร้อย คาดว่าจะเปิดได้ในปีประมาณ 2029-2030 อยู่ในซอยสุขุมวิท 14 connect ไปถึงซอยสุขุมวิท 26 พื้นที่ 3 ไร่

*

ปีหน้า Outlook คือ Continue ใน Business Model คือ Build Operate แล้วก็ Exit ปีหน้ามี Plan ที่จะ Exit Asset เหมือนเดิมตามปกติ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่มในนาทีที่ 52:33]

*

รบกวน Update สถานการณ์โรงแรมที่ภูเก็ตว่าสินทรัพย์เสียหายไหม มากน้อยเพียงใด เหตุการณ์กระทบต่อรายได้เพียงใด?

*

โรงแรมที่ภูเก็ตมี Merke ที่เพิ่ง Rebrand ที่ป่าตองสาย 3 กมลา 12 ที่อยู่ในช่วง Development ที่ป่าตอง หรือที่ภูเก็ต หรือที่กมลา ไม่ได้มีผลกระทบจากน้ำท่วม โรงแรม Operate ได้อย่างต่อเนื่อง ที่ Rebrand มาเบื้องต้นเห็น ADR ที่สูงขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 1,000 ต้น ๆ เป็นประมาณ 2,000 บาทนิด ๆ และทีม Operation น่าจะมีการปรับ และดำเนินงานได้ดีขึ้นอีก เพราะว่าตอนนี้เพิ่ง Rebrand มาไม่กี่วัน คิดว่ามี Upside พอสมควร ส่วนกมลา กำลังก่อสร้างอยู่ ไม่ได้ผลกระทบจากน้ำท่วมแต่ อย่างใด

*

งบ Profit Loss alone ตรง impairment Loss 2.68 ล้านมาจากส่วนใด?

*

เป็นการตั้งค่า เผื่อหนี้สงสัยจะสูญตาม TFRS 9 จาก งบ งบเดี่ยว จะมีรายได้ management income ที่เป็น AR อยู่ เป็น account receivable อยู่ ก้อนนึงถึงเวลา ถ้าเวลาผ่านไปแล้วมีการ Aging เกิดขึ้นมาบ้าง ทาง ทาง ทีมบัญชีจะ ตั้ง สำรองส่วนนี้ไว้ เวลา Exit Project หรือเวลามีการจ่ายคืนตรงนี้ กลับเข้ามาการ impairment จะถูก Reverse กลับ เป็นรายได้ได้


หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป *

สถานการณ์โรงแรมที่ภูเก็ต

*

งบ Profit Loss stand alone


โดยสรุป Boutique Corporation ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจโรงแรมและการบริการ โดยใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น การขยาย Brand ระดับโลก การพัฒนาบริการใหม่ๆ และการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว