BAREIT
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

BAREIT: สรุปผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 และตอบข้อสงสัยนักลงทุน

สรุป Opportunity Day ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ (BAREIT) โดยคุณลีรพัฒน์ ลีลาหะวณิช กรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงเทพรีทแมเนจเม้นท์ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ BAREIT ได้รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2568

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

    • จำนวนผู้โดยสารขาออกจากสนามบินสมุยเพิ่มขึ้นประมาณ 33,000 คน มาอยู่ที่ 400,000 คน
    • สถิติราย 9 เดือน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
    • จำนวนเที่ยวบินขาเข้าสนามบินสมุยในไตรมาส 3 ปี 2568 มี 4,344 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10%
    • สถิติราย 9 เดือน จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นกว่าปี 2567 ประมาณ 1,400 เที่ยวบิน จาก 11,367 เป็น 12,761 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 12%
    • สถานการณ์เดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศผ่านสนามบินสมุยยังคงค่อนข้างดี
    • ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด: การเจรจาแผนสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน, การคว่ำบาตรของรัสเซียที่ทำให้การส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีราคาสูงขึ้น (ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อสนามบินสมุย)
  2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

    • ไม่มีการกล่าวถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยตรง แต่เน้นย้ำถึงการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
  3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

    • ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์ระหว่างประเทศ (รัสเซีย-ยูเครน) ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
  4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

    • การปรับเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ช่วยลดค่าใช้จ่ายของกองทรัสต์
  5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

    • ไม่มีการกล่าวถึงแนวโน้มและอนาคตของธุรกิจอย่างชัดเจน แต่เน้นย้ำถึงผลการดำเนินงานที่ดีในปัจจุบัน
  6. ผลการดำเนินงานของกองทรัสต์:

    • รายได้รวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 300.34 ล้านบาท (ใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ของปีก่อน)
    • รายได้หลักยังคงมาจากเงินลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (95% ของรายได้รวม)
    • ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 76.11 ล้านบาท (ค่าใช้จ่ายหลักคือต้นทุนทางการเงิน คิดเป็น 67% ของค่าใช้จ่ายรวม)
    • กำไรจากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 224.23 ล้านบาท (อัตรากำไรจากการลงทุนสุทธิประมาณ 75%)
    • เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานที่ 218.80 ล้านบาท
    • รายได้รวม 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 892.31 ล้านบาท
    • ค่าใช้จ่ายรวม 9 เดือนแรกอยู่ที่ 231.34 ล้านบาท
    • กำไรจากการลงทุนสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 660.97 ล้านบาท
    • เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน 9 เดือนแรกที่ 659.59 ล้านบาท
    • สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ 10,497 ล้านบาท (ส่วนใหญ่คือเงินลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ 10,173 ล้านบาท และเงินฝากธนาคาร 318 ล้านบาท)
    • หนี้สินรวมอยู่ที่ 4,244 ล้านบาท (99% เป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน)
    • มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) อยู่ที่ 6,343 ล้านบาท (สินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยเท่ากับ 10.0126 บาท)
    • กระแสเงินสดต้นงวดยกมาจากงวดก่อนอยู่ที่ 271.55 ล้านบาท
    • กระแสเงินสดจากการดำเนินงานอยู่ที่ 835.32 ล้านบาท (เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานเป็นหลัก)
    • กระแสเงินสดใช้ไปจากกิจกรรมการจัดหาเงินที่ 813.58 ล้านบาท (รวมการจ่ายเงินปันผล 3 ครั้ง รวม 598.10 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่าย 153.48 ล้านบาท)
    • กองทรัสต์มีเงินสดปลายงวดอยู่ที่ 293.29 ล้านบาท
    • จ่ายประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินทั้งสิ้น 224.63 ล้านบาท คิดเป็นการจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่ 0.20 บาทต่อหน่วย (จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน)
    • รวมการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในปี 2568 (3 ครั้ง) อยู่ที่ 0.59 บาทต่อหน่วย

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 20.17

  • Q: ต้นทุนดอกเบี้ยในไตรมาส 4 จะลดลงอีกประมาณกี่ basis points?

    A: การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ล่าสุดคือเดือนสิงหาคม หากในไตรมาส 4 ไม่มีการประกาศลดลงของอัตราดอกเบี้ย MLR ต้นทุนดอกเบี้ยก็จะยังคงอยู่ในจำนวนที่ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา

  • Q: ในไตรมาส 4 ปี 2568 คาดว่าจะ maintain เงินปันผลต่อหุ้นในระดับเดียวกับไตรมาส 3 ได้หรือไม่?

    A: ทางกองก็มีความพยายามที่จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ยังต้องใช้ความพยายามอยู่ว่าจะสามารถประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนได้อย่างไร

  • Q: การปรับปรุงสนามบินสมุยของ BA ทำให้ capacity ในการรองรับผู้โดยสารและเครื่องบินสอดคล้องกับการตั้งสมมติฐานของกองในตอนที่เข้า IPO หรือไม่?

    A: แผนในการปรับปรุงสนามบินสมุยมีการคิดมาก่อนที่จะเข้า IPO ของกอง ดังนั้นจำนวนผู้โดยสารหรือจำนวนเที่ยวบินได้ถูกปรับเข้าไปในสมมติฐานของทางกองตั้งแต่แรกแล้ว

  • Q: ในไตรมาสที่ 4 จะมีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ประจำปี ทางผู้ประเมินจะมีการเปลี่ยน assumption ที่สำคัญ เช่น discount rate หรือไม่ และคาดว่าจะมีกำไรหรือขาดทุนจากการประเมินที่มีนัยสำคัญหรือไม่?

    A: กองทรัสต์มีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ประจำปีในไตรมาส 1 ของแต่ละปี ดังนั้นในไตรมาส 4 ปี 2568 จะยังคงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของตัว discount rate

  • Q: ในปี 2569 debt repayment ต่อปีเพิ่มขึ้นจากปี 2568 และพอในปี 2570 ก็จะมีการทยอยจ่ายชำระคืนเงินต้นเพิ่มขึ้นจากประมาณ 86 ล้านบาท เป็น 105 ล้านบาท ปี 2569 ทางกองจะมีการกันสำรองไว้จ่ายหนี้ที่จะ step up ขึ้นในปี 2570 ไว้ล่วงหน้าหรือไม่ และก็จะส่งผลต่อเงินปันผลที่จะจ่ายในปี 2569 หรือไม่?

    A: เนื่องจากค่าเช่าและบริการมีการ step up ขึ้นในส่วนของค่าเช่าและบริการร้อยละ 2 ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ดังนั้นในส่วนของการประเมินการจ่ายเงินคืนให้กับสถาบันทางการเงิน ตัวนี้เราก็สะท้อนเข้าไปอยู่ในสมมติฐานของการจัดทำประมาณการตั้งแต่แรกแล้ว

  • Q: สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ คาดว่าจะมีผลกระทบต่อสนามบินสมุยและ BAREIT อย่างไรบ้าง?

    A: ณ วันนี้ยังไม่มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่สนามบินสมุย และในช่วงประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว มีรายงานผลของแผ่นดินที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ตัวนี้ก็ไม่มีผลกับทางสนามบินสมุยด้วยเหมือนกัน

โดยสรุป BAREIT ยังคงมีผลการดำเนินงานที่มั่นคง โดยมีรายได้และกำไรที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงภายนอกบางประการ ทั้งนี้ กองทรัสต์ยังคงพยายามที่จะรักษาผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน