สรุปงบล่าสุด AWC
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “เอ-ญ่า รูฟทอป แอท เอ็มไพร์” แลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของไทยที่รวบรวมร้านอาหารชั้นนำระดับโลกมาอยู่บนรูฟทอปทิวสวยที่สุดในกรุงเทพฯ รวมถึงแผนการเปิดโครงการคุณภาพแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และพัทยาในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า เช่น "Okura Cruise" เรือเทียบยากิและไคเซกิสุดหรูระดับไฟน์ไดนิงลําแรกของโลกโดยโอกุระ ที่จะเปิดให้บริการ ณ ท่าเรือของโครงการเอเชียทีค เดอะ วิเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชัน และ "มีเลีย พัทยา อควาทีค เดสติเนชั่น" โรงแรมแห่งใหม่ในพัทยา ทีพร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยการเพิ่มศักยภาพของทรัพย์สินทั้งที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นและช่วงปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นทรัพย์สินที่ดําเนินงานปกติ การเร่งแปลงทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นทรัพย์สินดำเนินงาน และการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น โครงการ "เอเชียทีค บาย เดอะบีช", "เอเชียทีค 2.2", "เริ้ง ไชน่าทาวน์ เดสติเนชัน", "โรงแรม พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา นิวยอร์ก" และ "โครงการโรงแรม สุขุมวิท 38"
ผลประกอบการของ AWC ในไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการบริหารจัดการทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพและการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูง โดยมีรายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 15,222 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9 เดือนอยู่ที่ 3,991 ล้านบาท ตัวเลขนี้สะท้อนถึงอัตราส่วน P/E ที่อยู่ในระดับ 21.67 P/BV ที่ 1.31 และ YIELD อยู่ที่ 1.38 แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทในระดับปานกลาง อัตราส่วน D/E อยู่ที่ 0.97 สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการกู้ยืมเงินเพื่อสนับสนุนแผนการลงทุนระยะยาว ข้อมูลเพิ่มเติมจากงบการเงินแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในช่วง 9 เดือน อยู่ที่ 5,488.54 ล้านบาท และมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนอยู่ในช่วงติดลบ 5,991.07 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตในระยะยาว
มากกว่า 90% ของทรัพย์สินในพอร์ตโฟลิโอ บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ทำให้งบการเงินสะท้อนถึงศักยภาพในการพัฒนาทรัพย์สินได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุทรัพย์สิน บริษัทมีศักยภาพในการบริหารต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง เนื่องจากมีขนาดพอร์ตโฟลิโอที่ใหญ่ ซึ่งส่งผลให้โครงการที่พัฒนาแล้วมีรายได้เฉลี่ยต่อวันสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ AWC ในไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์เท่ากับ 2.071 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้จากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ตามงบการเงินลดลงร้อยละ 16.6 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกำไรจากการรวมมูลค่ายุติธรรม
โดยรวมแล้ว AWC มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในโครงการใหม่ๆ และการบริหารจัดการทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงในการลงทุนด้วย เช่น ความผันผวนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การแข่งขันที่รุนแรง และการเปลี่ยนแปลงของนโยบายรัฐ AWC เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาโอกาสเติบโตไปกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว และนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
(0.05%)
(3.74%)
(3.32%)
(2.44%)
(3.26%)
(6.01%)
(12.65%)
(12.59%)
(8.69%)
(0.24%)
(13.27%)
(67.00%)