สรุปงบล่าสุด ADVANC
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ADVANC รายได้รวม 52,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 1.7% QoQ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% YoY และ 2.5% QoQ การขยายฐานลูกค้าและการส่งเสริมบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและดิจิทัลมีส่วนช่วยให้ผลประกอบการเติบโต กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น 35% สำหรับรอบ 9 เดือน สะท้อนการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการเติบโตของ EBITDA
การเติบโตของรายได้หลักเพิ่มขึ้น 20% YoY โดยรายได้จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโตขึ้นถึง 146% YoY การเข้าซื้อกิจการ 11188 และการขยายโครงข่าย 5G มีผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 14% YoY อย่างไรก็ตาม เอไอเอสสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 37.5% ด้านสินทรัพย์และหนี้สินยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วน D/E ที่ 0.39 เท่า เอไอเอสยังได้ชำระหนี้และลดการกู้ยืมระยะยาวต่อเนื่อง สะท้อนสถานะทางการเงินที่มีเสถียรภาพ
ในอนาคต เอไอเอสมีแผนขยายสาขาและลงทุนในโครงข่าย 5G และธุรกิจใหม่ๆ เช่น การขยายบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการร่วมลงทุนกับพันธมิตร โดยคาดว่าในปี 2567 รายได้จะเติบโต 13-15% และ EBITDA เติบโต 14-16% พร้อมแผนลงทุนปีละ 25,000-26,000 ล้านบาท เอไอเอสให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพด้านพลังงานและการลดขยะเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ ADVANC ไตรมาส 3/2567: โอกาสลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมที่แข็งแกร่ง
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 40,799 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน ผลจากการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการ 1188 และการเติบโตปกติของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริษัทมีกําไรสุทธิอยู่ที่ 8,788 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับผลการดําเนินงานที่ดีขึ้น และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากกําไรอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น เอไอเอสยังคงมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพการบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดี พร้อมยกระดับประสิทธิภาพในการดําเนินงาน โดยมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพบริการเพื่อตอบรับพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากบรรลุเป้าหมายโครงข่าย 5G ครอบคลุม 77% ของประชากรกว่า 95% ทั่วประเทศ เอไอเอสยังคงเดินหน้าขยายโครงข่ายในพื้นที่ที่มีการใช้งานสูง เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ ADVANC คือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการยกระดับคุณภาพบริการและระบบสิทธิประโยชน์ และมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับคุณภาพโครงข่าย โดยสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเพิ่มผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้เน้นกลยุทธ์การขายพ่วงด้วยบริการเสริมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง อาทิ สมาร์ทโฮม โซลูชัน โดยการขยายโครงข่ายไฟเบอร์ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
ฝ่ายบริหารคาดการณ์รายได้จากการให้บริการหลักในปี 2567 จะเติบโตประมาณร้อยละ 13 ถึง 15 โดยได้รับผลดีจากภาวะเศรษฐกิจที่มีปัจจัยเชิงบวกมากขึ้นในไตรมาส 3/2567 และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ บริษัทวางแผนจะรักษาแนวโน้มการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 การเติบโตจะยังคงเกิดจากการเข้าซื้อกิจการ 11โ88 และการสร้างการเติบโตจากธุรกิจเดิม ร่วมกับการฟื้นตัวของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ
เมื่อวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง ADVANC ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่มีศักยภาพ โดยมี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 25.14 P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 8.62 และ YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 3.17% ราคาเฉลี่ยหุ้นย้อนหลังในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 170 บาท ถึง 220 บาท แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มการเติบโต และมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากความมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความสามารถในการทำกำไร โดยมี EBITDA ในไตรมาส 3/2567 ที่ 27,696 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 37.5 แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังมี D/E อยู่ที่ระดับ 4.01 ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน และมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ที่ 87,640.584524 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง และมีเงินสดเพียงพอสำหรับการลงทุนและการจ่ายเงินปันผล อย่างไรก็ตาม บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน "ติดลบ" ซึ่งหมายถึงบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ
ในแง่ของความเสี่ยง ADVANC อาจเผชิญกับความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมที่มีความรุนแรง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น 5G อาจต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และอาจส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น นอกจากนี้ การที่บริษัทมี D/E สูง อาจทำให้มีความเสี่ยงจากหนี้สินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว ADVANC เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และมั่นคง พร้อมทั้งได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
(1.71%)
(13.33%)
(2.91%)
(24.26%)
(1.19%)
(9.68%)
(12.03%)
(48.57%)
(2.46%)
(7.88%)
(28.09%)
(24.89%)