สรุป OPPDAY หุ้น ADB
Oppday
สรุป OPPDAY
ADB สรุปผลประกอบการปี 2568 ไตรมาส 3: โอกาสและการเติบโตในตลาดเม็ดพลาสติก
สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่กิจกรรม Opportunity Day รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ของบริษัท Apply DB จำกัด มหาชน
ADB ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 จากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท DB Chemical จำกัด ผู้ผลิตกาวเคมี และบริษัท Apply Chemical Industry จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกอุตสาหกรรม
ปี 2551 บริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่คือ สินค้ากาวและยาแนวในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก เราเรียกว่าผลิตภัณฑ์ DIY
ปี 2555 บริษัท โชวะ โกลบอล จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เข้าถือหุ้นส่วนหนึ่งของ ADB เพื่อเป็นพันธมิตร และให้ ADB เป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกทางการแพทย์ ให้กับทางโชวะเป็นผู้จัดจำหน่ายให้กับลูกค้ากลุ่มญี่ปุ่น
ปี 2560 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นตลาด MAI ในปีต่อมาปี 2561 เราเปิดโรงงานแห่งที่ 4 เพื่อผลิตสินค้ากลุ่มยาแนว
ปี 2564 บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อย ADB Bio จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกย่อยสลายได้
ปี 2566 บริษัท Spin off ธุรกิจกาวและยาแนว และสินค้า DIY จัดตั้งเป็นบริษัทย่อย ADB Sealant จำกัด หรือ ADBS
ปี 2567 บริษัท ไอกะ เอเชีย แปซิฟิก Holding เข้าซื้อหุ้น 51% ของ ADBS เพื่อเติมพอร์ตสินค้า ยาแนวให้กับกลุ่มไอกะ การร่วมมือนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการขยายตลาดของ ADBS ในภูมิภาคเอเชีย และรวมถึงการสร้าง Synergy ของสินค้ากลุ่มกาวในเครือไอกะ ที่เน้นสินค้าด้านเคมีภัณฑ์
โครงสร้างปัจจุบันของ ADB นะคะ Apply DB จำกัด มหาชน จะประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก Compound และถือหุ้นในบริษัทร่วม ADBS จำกัด ในสัดส่วน 49% และมีบริษัทย่อยคือบริษัท ADB Bio จำกัด พัฒนาสินค้ากลุ่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
สินค้าของ Apply DB เป็นเม็ดพลาสติก Compound เรามีประสบการณ์มากกว่า 40 ปีในการพัฒนางาน เกรด Soft PVC โดยเฉพาะเกรดสายไฟฟ้า สายเคเบิล และมีเกรดทางการแพทย์ ที่มีมาตรฐานสากล ISO 13485 ซึ่งจะเป็นพันธมิตรกับกลุ่มโชวะ และก็มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มญี่ปุ่น แล้วก็กลุ่มเกรดใช้ งานทั่วไป สามารถขึ้นรูปเป็นข้อต่อ เฟอร์นิเจอร์ ใช้ในงานก่อสร้าง เราเรียกกลุ่มนี้ว่า Rigid PVC
และกลุ่มของบริษัทร่วม ADBS ที่ร่วมกับไอกะ ก็จะมีประสบการณ์ในการผลิตกาวอุตสาหกรรมในแบรนด์ DB ที่เป็น ที่รู้จักกันดีในสินค้ากลุ่มรองเท้า แล้วก็สินค้า ยาแนว ภายใต้แบรนด์ ADB และ Sparko ค่ะ รวมถึงเรายังรับ เอ่อ ทำ OEM แล้วก็ ODM ให้กับแบรนด์สินค้า ชั้นนำระดับโลก
ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 และ 9 เดือนปี 2568 โครงสร้างรายได้ ในช่วงของไตรมาสที่ 3 จะเห็นว่า ยอดขาย รายได้เราอยู่ที่ 208.45 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ที่เป็น Break Down อยู่ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยกัน เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสายไฟ สายเคเบิล สำหรับงาน เอ่อ งานโครงการขนาดใหญ่ พัฒนาสาธารณูปโภค แล้วก็งานใช้ตามบ้านเรือน รวม ถึงงานที่เกี่ยวข้องกับสายไฟสำหรับใช้ เอ่อ ในงานของรถไฟฟ้าใต้ดินต่าง ๆ ที่ ที่ เอ่อ มีอยู่ในปัจจุบัน ยอดขายอยู่ 116 ล้านบาท ถัดไปเนี่ย เอ่อ สักประมาณ 30% ของยอดขายรวมของเราก็เป็นกลุ่มของ เกรด Medical Grade สำหรับใช้ทางการแพทย์ แล้วก็สักประมาณ 63 ล้านบาท อีก 29 ล้านบาท เป็นของ สัดส่วนของเกรดใช้ งานทั่วไป หรือสักประมาณ 15% ถ้ามองในแง่ของเทรนด์รายได้ จะเห็นว่าเรา Rebound จากไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่มีอยู่ 185 ล้านบาท ขึ้นมาเป็น 208 ล้านบาท รายได้หลักของเรายังมาจาก ลูกค้าในประเทศเป็นหลักอยู่ ก็เกือบ ๆ ทั้งหมดก็จะเป็นลูกค้าในประเทศเป็นหลัก สำหรับกลุ่มของเม็ดพลาสติก PVC ของเรา
ถัดจาก โครงสร้างรายได้เราจะมาดูภาพของ กำไร กำไรขั้นต้น จะเห็นว่า ภาพของ อัตรากำไรขั้นต้นจะคล้าย ๆ กับโครง สร้างรายได้ที่ ที่ เอ่อ นำเมื่อสักครู่นี้ ก็จะเห็นว่าช่วงไตรมาส 1 น่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่สูงที่สุดในปีนี้ แล้วก็ ดรอปลงมาไตรมาสที่ 2 แล้วก็ ไตรมาสที่ 3 ก็ Rebound ขึ้นมาอยู่สักประมาณ 13.4% สำหรับ เอ่อ อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัท ถ้าในแง่ของยอดขาย เราอาจจะปรับลดลงมาจากปีที่แล้ว 9 เดือนที่ผ่านมา ประมาณสัก 7% หรือว่าถ้า 14% ก็คือเป็นไตรมาสที่ 3 เทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว สัดส่วนของ Industry ที่เรา Support แน่นอนว่า ในงานของสายไฟ สายเคเบิล งานโครงการต่าง ๆ ก็จะเป็นกลุ่มของ Real Estate สักประมาณ 66% ที่เหลืออีก 30% ก็จะเป็นกลุ่มของ เกรด ที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์
นอกเหนือจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เห็นว่าเทรนด์ของไตรมาสที่ 3 เราเริ่ม Rebound จากไตรมาสที่ 2 ขึ้นมา มาอยู่ที่ 28 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายขายและบริหารรวมกันสำหรับไตรมาสที่ 3 อยู่ 26 ล้านบาทด้วยกัน ในไตรมาสที่ 3 เนี่ย เราก็ยังมีกำไร โดยรวม รวมกับงบ Consolidation อยู่ที่ 8.5 ล้านบาท ส่วนหนึ่งของ กำไรที่เป็นเกี่ยวข้องกับ Consolidation ก็จะมีกำไร ของส่วนของบริษัทย่อยด้วย
ถ้าเรามา Break Down ในส่วนของ ภาพรวมเฉพาะด้านซ้าย เราจะ Focus ให้เห็นเฉพาะ ในส่วนของธุรกิจ Compound เพื่อให้เห็นได้ชัดก่อนว่า ใน ในกลุ่มธุรกิจหลักเรา เม็ดพลาสติก Compound เมื่อ เมื่อสักครู่นี้ที่เป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ๆ เราเนี่ย ยอดขายรวม 630 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น อยู่สักประมาณ 13.5% โดยเฉลี่ย แล้วก็อยู่สักประมาณ 83 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายขายบริหารอยู่ 79 ล้านบาท เรายังมีกำไรสุทธิในส่วนของ งบเดี่ยว หรือว่าธุรกิจ เม็ดพลาสติก Compound เราอยู่ที่ประมาณ 6.6 ล้านบาท โดยประมาณสำหรับ 9 เดือนที่ผ่านมา ด้านซ้าย อันนั้นคือเป็นภาพของ ยอดขาย แล้วก็กำไรทั้งปี ซึ่งกำไรทั้งปีเนี่ย ก็จะเป็นในส่วนของ ไตรมาสที่ 4 ในปีที่แล้ว ที่เรามีรับรู้ในเรื่องของการ การโอน ทรัพย์สิน ให้กับ ADBS ไปด้วย ในภาพรวมของด้านขวา อันนั้นจะเป็นภาพรวมของงบ Consolidation ที่เรามีทั้ง บริษัทลูกก็คือ ADB Bio แล้วก็ มีส่วนแบ่งเงินกำไรของบริษัทร่วมเข้ามาด้วย ก็คือ ADBS เข้ามาด้วยในส่วนของ 9 เดือนที่ผ่านมา ในแง่ของยอดขายก็จะเห็นยอดขายใกล้เคียงกัน เพราะเรามี ของบริษัทยอดของเรา ADB Bio เข้ามา รวมอยู่ด้วยในโครงสร้างรายได้อีกเล็กน้อยเท่านั้น เป็นยอดขาย 631 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น อยู่ 86 ล้านบาท แล้วมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.6 ล้านบาท ใน 23.6 ล้านบาทเนี่ย ก็ จะมีส่วนของการรับรู้กำไรจากเงินลงทุนในบริษัท ADBS เข้ามาด้วย อีก 17.1 ล้านบาท รวมกันอยู่ตรง 23.6 ล้านบาทด้วย เพราะฉะนั้น ภาพรวมก็ถือว่ามีผลประกอบการที่เติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 9 เดือนที่ผ่านมา เรายังมีติดขัดทุนเล็กน้อยอยู่
ในแง่ของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เรามาดูสภาพคล่อง อัตราความสามารถในการทำกำไร และก็ Turn Over ของ Asset ต่าง ๆ รวมถึง โครงสร้างทางการเงินของเราเป็นยังไงบ้าง ในแง่ของงบการเงินรวมของ ADB จำกัด มหาชน 9 เดือนที่ผ่านมา Current Ratio เราก็อยู่ ประมาณ 1.5 เท่า 1.46 เท่า โดยเฉลี่ย แล้วก็ อัตรา Collection Period นะครับ ที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระหนี้จากลูกหนี้ก็ประมาณสัก 97 วัน Inventory Turn Over ก็ 71 วัน โดยเฉลี่ยเราก็ถือว่ามี Turn Over สินค้า ที่ดีอยู่ เมื่อเทียบกับในอดีต ในขณะที่ Collection Period ก็ เป็นไปตามลักษณะของ กลุ่มลูกค้าของเรา ที่เป็นลูกค้าของ เอ่อ งานที่เป็นลักษณะของโครงการขนาดใหญ่นะครับ ที่ เพราะฉะนั้นก็จะ มี Credit Term ที่ยาวกว่าปกติเล็กน้อย ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นก็ถือว่า เรากลับมา 9 เดือนที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13.6% ก็ถือว่า เราเติบโตขึ้นมาดีกว่าในอดีตที่ผ่านมา ส่วนหลัก ๆ เลย ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของอัตรากำไร ใน Chart เมื่อสักครู่ ก็ ก็จะเห็นทิศทางนะครับ ที่ปีนี้เนี่ยราคาวัตถุดิบเราเราก็ Manage แล้วก็ Control ในเรื่องของราคาวัตถุดิบได้ดีขึ้นนะครับ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ หลัก ๆ ที่ใช้ในการผลิตไม่ว่าจะเป็น เม็ดพลาสติก อ่า เรซิ่น ที่ใช้ในการผลิต หรือว่าสารเติมแต่งต่าง ๆ พลาสติไซเซอร์ แล้วก็ สารต่าง ๆ ที่อ้างอิงตามราคาน้ำมัน ก็เข้าใจว่าปีนี้ราคาวัตถุดิบต่าง ๆ หรือเคมีภัณฑ์ ก็ มีความ Asset มีเสถียรภาพมากขึ้นนะครับ เพราะฉะนั้นราคาไม่ค่อยผันผวนเท่าไหร่นักในส่วนของ ราคาวัตถุดิบ ในขณะที่เราก็พยายามลดต้นทุนในการผลิต แล้วก็ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อให้มี อัตรากำไรในการ ขั้นต้นในการดำเนินงานที่ดีขึ้นนะครับ สำหรับปีนี้รวมถึงเรามองไปถึงเทรนด์ปีหน้าเช่นกัน ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.7% นะครับ ก็ถือว่าเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตเช่นกัน Return on Equity อยู่ประมาณ 4.9% นะครับ Return on Asset อยู่ประมาณ 3.1% ในกลุ่มของ อัตรากำไรที่เกี่ยวข้องกับผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น และก็ทรัพย์สิน ก็จะเติบโตขึ้นตามอัตรากำไรที่ดีขึ้นในปีนี้นะครับ Asset Turn Over อยู่ 0.8 เท่า
เนื่องจาก ยอดขายก็ยังถือว่ายัง ยัง Slow Down เล็กน้อยนะครับ ในช่วงของไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน ปัจจุบันหลังจากที่เราได้รับชำระหนี้ระหว่างบริษัทร่วม ADBC Land นะครับ เอ่อ แล้วก็โอนกิจการกันเรียบร้อย เพราะฉะนั้นหนี้ระหว่าง เอ่อ อัตราส่วนหนี้ หนี้สินต่อทุนก็จะเริ่มลดลงมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วแล้วนะครับ แล้วก็ต่อเนื่องมาจนถึง ไตรมาสที่ 3 ปีนี้ อัตราส่วนหนี้ต่อทุนอยู่ที่ 0.5 เท่าเท่านั้นนะครับ แล้วก็ Interest Coverage Ratio ที่เกี่ยวข้องกับ เอ่อ ความสามารถในการชำระดอกเบี้ยก็อยู่ 2.02 เท่าครับ
Wrap Up กันอีกทีนึง ในแง่ของไตรมาส 3 จะเห็นว่าเทรนด์ของปีนี้ยอดขายนะครับ แล้วก็ สูงสุดที่ไตรมาส 1 Slow Down มาที่ไตรมาส 2 แล้วก็เราก็ Rebound กลับมาที่ไตรมาสที่ 3 นะครับ โดยรวมเราก็ยังมี ยอดขายปรับตัวลดลงเล็กน้อยนะครับ ประมาณ 8% เมื่อเทียบกับ อ่า 9 เดือนของที่ผ่านมา แต่ว่าถ้าไตรมาสที่ 3 เทียบกับไตรมาสที่ อ่า 3 ปีที่ก่อน ก็ลดลงมาประมาณสัก 14% หลัก ๆ เลยก็ Demand ในกลุ่มของ เอ่อ สินค้า อ่า สำหรับใช้ในส่วนของวัสดุอุตสาหกรรม ก็ยัง Slow Down อยู่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นของในประเทศรวมถึง ต่างประเทศซึ่งเข้าใจว่า ก็จะมีความเสี่ยงในเรื่องของ เอ่อ การส่งออก แล้วก็การรับชำระ เพราะฉะนั้น งั้นก็อาจจะทำให้เราเน้นโฟกัสที่ตลาดในประเทศเป็นหลักก่อนนะครับ ในส่วนของอัตรา อ่า การเติบโตของ เม็ดพลาสติกสำหรับ เกรด Medical Grade สำหรับทางการแพทย์ก็อาจจะ อ่า ปรับตัวลดลงจากปีที่แล้วเช่นกัน สักประมาณ 8% นะครับ ก็เลยทำให้ภาพรวมของ เม็ดพลาสติกของปีนี้อาจจะ อ่า ลดลงจาก จากปีที่แล้วเล็กน้อยนะครับ แต่ แต่ในขณะที่ความสามารถในการทำกำไร แล้วก็การบริหารต้นทุนในการผลิต ปีนี้เราก็ถือว่าเติบโต แล้วก็ค่อนข้างมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา สัก 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ราคาวัตถุดิบมีความผันผวนนะครับ ใน ในแง่ของค่าใช้จ่ายในการ อ่า ผลิตก็สามารถ อ่า เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แล้วก็ลดต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น ก็อยู่สักประมาณ 13.6% นะครับ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ ในอดีตที่ผ่านมา ในขณะที่ความสามารถในการทำกำไรในส่วนของเม็ดพลาสติก Compound ก็ ก็ Rebound ขึ้นจากปีที่แล้วนะครับ ปัจจุบันเราอยู่สักประมาณ 6.6 ล้านบาท ในขณะที่เรายังมีส่วน อ่า แบ่งกำไรของเงินลงทุนในบริษัทร่วมของ ADB Land อีก 1 17.1 ล้านบาท เพราะฉะนั้นงบ Consolidation รวมของ อ่า บริษัท ADB นะครับ ก็อยู่ที่ประมาณ 23.6 ล้านบาท สำหรับปีนี้นะครับ เมื่อเทียบกับ 9 เดือนที่ผ่านมาของปีที่แล้ว ที่เรายังมีติดผลขาดทุนเล็กน้อย 1. 1 เอ่อ 1.4 ล้านบาท นะครับ เพราะฉะนั้นถือว่า ความสามารถในการทำกำไรปีนี้ก็เติบโตขึ้น
เทรนด์ในส่วนของ Looking Forward ในช่วงของไตรมาสที่ 4 เราก็ยังมองทิศทางคล้าย ๆ กันกับไตรมาสที่ 3 อยู่นะครับ ในแง่ของยอดขายรวมถึงอัตรากำไร เพราะว่า ปัจจุบันในแง่ของราคาวัตถุดิบก็ไม่ได้มีความผันผวนอะไรนะครับ ก็ อ่า ยัง Stable อยู่ที่ อ่า ช่วง ๆ ปลายไตรมาส 3 อยู่นะครับ ในขณะที่การบริหาร ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ก็ยังสามารถที่จะ Control ได้อยู่ในกรอบของนโยบายของบริษัท ที่เราก็ยังมีความ อ่า เข้มงวดในการควบคุมค่าใช้จ่ายนะครับ ในช่วงของภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะยังไม่ได้เติบโตสักเท่าไหร่นะครับ ในช่วงของปีนี้ รวมถึงทิศทางของปีหน้าก็เข้าใจว่า เอ่อ ยัง มีทิศทางที่ยัง Slow Down อยู่นะครับ ใน ในแง่ของการเติบโต แต่ว่าการบริหารต้นทุนการผลิต แล้วก็ อ่า การควบคุมค่าใช้จ่าย ก็ยังเป็นสิ่งที่บริษัทต้องให้ความสนใจ แล้วก็ให้ความสำคัญในการควบคุม แล้วก็เพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรได้ดีขึ้นอยู่
ทั้งหมดก็เป็นภาพรวมของผลประกอบการของบริษัทสำหรับ อ่า 9 เดือน แล้วรวมไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาด้วย
เนื่องจากยังไม่มีคำถามสอบถามเข้ามานะคะ ถ้าท่านนักลงทุนต้องการสอบถามข้อมูลหลังจากนี้ค่ะ สามารถติดต่อได้ที่ อีเมลนะคะ หรือว่า Facebook ของ ทางบริษัทได้ที่ ADB_ir@db.co.th นะคะ หรือว่าทาง Facebook ของบริษัท Apply DB ค่ะ หรือว่าติดต่อเข้า เอ่อ ศูนย์นักลงทุนสัมพันธ์ได้ที่ 027094040 นะคะ ต่อ 1097-1099 ค่ะ หากไม่มีคำถามเพิ่มเติมนะคะ ขอขอบคุณท่านนักลงทุนที่เข้าร่วมรับฟังผลประกอบการของบริษัทในวันนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
สรุป: จากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ของ ADB พบว่าบริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แม้ว่ายอดขายจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ความสามารถในการทำกำไรยังคงเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากเสถียรภาพของราคาวัตถุดิบและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): ไม่มีการบันทึกช่วงถาม-ตอบในไฟล์เสียง