สรุปงบล่าสุด AAI

บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการหุ้น AAI ปี 2567: การเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง และเป้าหมายที่ท้าทายในปี 2568
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ในปี 2567 โดยเน้นที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 และภาพรวมตลอดทั้งปี พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท และเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2568
**1. สรุปผลประกอบการปี 2567:**
* **รายได้รวม:** AAI ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2567 โดยมีรายได้รวม **6,849 ล้านบาท** เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง **25.9%** เมื่อเทียบกับปี 2566 (5,439 ล้านบาท) โดยมีสัดส่วนรายได้จากอาหารสัตว์เลี้ยง 85.9% และอาหารพร้อมทาน 13.0%
* **ไตรมาส 4/2567:** บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 4 ปี 2567 อยู่ที่ **1,771 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น **18.5%** เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
* **กำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ **1,003 ล้านบาท** เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง **162%** เมื่อเทียบกับปี 2566 (383 ล้านบาท) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.47 บาท/หุ้น
* **ปัจจัยขับเคลื่อน:**
* การเติบโตของรายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มรับจ้างผลิต (OEM) ที่เติบโตถึง 39.5% เนื่องจากตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงกลับมาขยายตัว
* ยอดขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกาและยุโรป เพิ่มขึ้น
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
* **ปัจจัยกดดัน:**
* ยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานบรรจุภาชนะปิดผนึกลดลง เนื่องจากบริษัทฯ เลือกรับคำสั่งซื้อที่ให้อัตรากำไรที่ดีเท่านั้น
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงภายในประเทศ
* ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (บางส่วน)
**2. สถานการณ์ทางการเงินและงบดุล:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 5,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อนหน้า
* **หนี้สินรวม:** หนี้สินรวม 820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า เนื่องจากเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ส่วนของผู้ถือหุ้น 5,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการทำกำไรระหว่างปี
* **กระแสเงินสด:**
* กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน 918 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน
* กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 223 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนขยายกำลังการผลิต
* กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน 777 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินปันผล
**3. อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:**
| อัตราส่วน | ปี 2567 |
| :--------------------------------------- | :-------- |
| อัตรากำไรสุทธิ | 14.7% |
| อัตรากำไรขั้นต้น | 20.4% |
| อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) | 20.1% |
| อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) | 17.4% |
| อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) | 0.2 เท่า |
**4. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **กำไรขั้นต้น:** กำไรขั้นต้นสำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็น 1,400 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 20.4%) สาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบโดยรวมลดลง, สัดส่วนค่าจ้างแรงงานและค่าพลังงานลดลง และปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงครึ่งปีแรก
* **ค่าใช้จ่าย:** ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากการตั้งสำรองด้อยค่าเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าในจีน และค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย
**5. ผลการดำเนินงานเทียบกับเป้าหมายปี 2567 และเป้าหมายปี 2568:**
* **ผลการดำเนินงานปี 2567:** ยอดขายทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งในส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารพร้อมทาน
* **เป้าหมายปี 2568:**
* ตั้งเป้ายอดขายรวม 7.4 พันล้านบาท เติบโต 8.8% จากปี 2567 โดยมีสัดส่วนหลักมาจากอาหารสัตว์เลี้ยง (6.6 พันล้านบาท)
* คาดการณ์การเติบโตของยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงมาจากการเติบโตของตลาดโดยรวมและข้อได้เปรียบในตลาดรับจ้างผลิต
* ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในช่วง 18-20% แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
* จัดสรรงบประมาณลงทุน 1,015 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 และอาคารผลิตใหม่
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:**
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
* ความผันผวนของค่าเงินบาท
* **โอกาส:**
* ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโต
* ศักยภาพในการผลิตและข้อได้เปรียบในตลาดรับจ้างผลิต
* การลงทุนขยายกำลังการผลิต
**7. สรุป:**
AAI ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการขยายตัวของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน แม้จะมีปัจจัยท้าทายเรื่องความผันผวนของค่าเงินบาทและการแข่งขันในตลาด AAI ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ท้าทายในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตและการรักษาความสามารถในการทำกำไร
(7.75%)
(18.87%)
(18.18%)
(32.88%)
(11.27%)
(11.78%)
(2.76%)
(39.97%)
(40.32%)
(3.81%)
(57.00%)
(10.41%)