สรุปงบล่าสุด AAI
บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท เอเชียน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI
บริษัท เอเชียน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ได้สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 1,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความต้องการสินค้าในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกเพิ่มขึ้น AAI ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนตัวลง โดยมีผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเหลือ 19.1% จาก 25.7% ในไตรมาส 2/2567 อย่างไรก็ตาม AAI ยังคงมีกำไรสุทธิ 289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145.0% จากไตรมาส 3/2566 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง และมีรายได้ทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
AAI มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงแบบบรรจุกระป๋องและถุงเพาซ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน สินค้าที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงที่มีความต้องการเฉพาะ และสินค้าที่ส่งเสริมสุขภาพและโภชนาการของผู้บริโภคกลุ่มเสี่ยง AAI ยังได้ปรับลดงบลงทุนสำหรับปี 2567 เหลือไม่เกิน 250 ล้านบาท โดยเลื่อนโครงการลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติไปอยู่ในแผนงบประมาณปี 2568
เมื่อพิจารณาผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 AAI มีรายได้รวม 5,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 831 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 283.4% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างกำไรที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AAI มีผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 20.1% และผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 17.4% แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ทั้งนี้ AAI ยังมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
AAI ยังได้ปรับปรุงนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 29 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนปี 2567 เมื่อเทียบกับผลขาดทุน 65 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ AAI ยังมีต้นทุนทางการเงินเป็นรายได้ทางการเงินสุทธิราว 30 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนปี 2567 ซึ่งเป็นผลจากการให้บริษัท เอเซียนซี คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กู้ยืม และดอกเบี้ยรับจากบัญชีเงินฝากธนาคาร
จากผลประกอบการที่ผ่านมา AAI แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนตัวลง นอกจากนี้ AAI มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 16.08 P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 2.63 และ YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 3.68 ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 5.02 บาท เมื่อเทียบกับข้อมูล P/E, P/BV และ YIELD ในอดีต AAI มี P/E ที่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในอดีต แสดงถึงความคาดหวังที่ต่ำกว่า แต่มี P/BV และ YIELD ที่สูงกว่าระดับเฉลี่ย แสดงถึงความคุ้มค่าของการลงทุน นอกจากนี้ AAI ยังมี D/E ที่ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีวงจรเงินสด 143.78 ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการเงินสด และมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 1,235.33 ล้านบาท แสดงถึงศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนในอนาคต อย่างไรก็ตาม AAI มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน -993.93 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงการลงทุนที่มาก อาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรในระยะสั้น โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนใน AAI มีดังนี้
**โอกาส**
* **การเติบโตของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง**: ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มการเติบโต เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นที่นิยมมากขึ้น
* **การขยายกำลังการผลิต**: AAI มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
* **การพัฒนาสินค้าใหม่**: AAI มีแผนที่จะพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
* **ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง**: AAI มี D/E ที่ต่ำกว่า 1 แสดงถึงความสามารถในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจ
* **ผลตอบแทนจากเงินปันผล**: AAI มี YIELD ที่สูงกว่าระดับเฉลี่ย แสดงถึงโอกาสในการรับเงินปันผล
**ความเสี่ยง**
* **การแข่งขันในตลาด**: ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกมีความรุนแรง
* **ความผันผวนของค่าเงิน**: AAI เป็นบริษัทที่ส่งออกสินค้า ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน
* **การเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ**: AAI มีต้นทุนวัตถุดิบที่สำคัญ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของราคา
AAI เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนที่สนใจรับเงินปันผล หรือ นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง
(10.14%)
(39.03%)
(18.89%)
(63.86%)
(26.36%)
(17.81%)
(3.01%)
(4.17%)
(3.53%)
(144.64%)
(142.78%)
(9.10%)