สรุปงบล่าสุด AAI
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**บทสรุปผลประกอบการของ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (AAI)**
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568, AAI มีรายได้รวม 1,651 ล้านบาท ลดลง 11.8% เมื่อเทียบกับ 1,872 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567. การลดลงนี้มาจากทั้งกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและกลุ่มอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก สาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับเงินบาท. เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า, รายได้รวมลดลง 3.2% เนื่องจากยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงลดลงจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน, แม้ว่ากลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกจะเพิ่มขึ้นมาชดเชยได้บางส่วน (หน้า 1).
กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 178 ล้านบาท ลดลง 38.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า และลดลง 8.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อัตรากำไรสุทธิลดลงมาอยู่ที่ 10.8% (หน้า 1).
สำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2568, AAI มีรายได้รวม 5,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับ 5,078 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า เนื่องจากการเติบโตของยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงในไตรมาสที่ 1 เป็นสำคัญ (หน้า 1). กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2568 อยู่ที่ 631 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 12.0% ลดลง 24.1% เมื่อเทียบกับ 831 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า (หน้า 1).
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
ตลาดอาหารสุนัขและแมวทั่วโลกยังมีแนวโน้มเติบโต, แม้ว่าในปี 2568 อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและมาตรการกีดกันทางการค้า. อย่างไรก็ตาม, เจ้าของสัตว์เลี้ยงยังคงมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าพรีเมียม, ทำให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงยังมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว (หน้า 2).
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้มากกว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง. ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3, ราคาทูน่าเคลื่อนไหวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐ ทำให้กำลังซื้อได้รับผลกระทบ (หน้า 2).
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
กำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 229 ล้านบาท ลดลง 35.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า และลดลง 15.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 13.9% (หน้า 1). อัตรากำไรขั้นต้นต่ำลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาทเป็นสำคัญ (หน้า 1).
สำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2568, กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 846 ล้านบาท ลดลง 23.6% เมื่อเทียบกับ 1,107 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.2% (หน้า 1).
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 93 ล้านบาท, เท่ากับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า (หน้า 5).
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568, กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 5,538 ล้านบาท ลดลง 6.8% เมื่อเทียบกับ 5,941 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 8). ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4,724 ล้านบาท ลดลง 398 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 9).
กลุ่มบริษัทฯ มีเงินให้ บมจ. เอเชี่ยน ซีคอร์ปอเรชั่น กู้ 751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 245 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นงวดปี 2567 (หน้า 3).
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* **โครงการซื้อหุ้นคืน:** ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568, กลุ่มบริษัทฯ ซื้อหุ้นคืนแล้ว 5,535,300 หุ้น คิดเป็นเงิน 24,226,894 บาท (หน้า 3).
* **ความยั่งยืน:** กลุ่มบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่ม Thailand’s Best Managed Company ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) เป็นปีแรก (หน้า 3).
* **เป้าหมายปี 2568:** กลุ่มบริษัทฯ ยังคงเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายสำหรับปี 2568 ได้มากกว่า 7 พันล้านบาท (หน้า 10).
(1.91%)
(11.19%)
(15.05%)
(35.88%)
(13.39%)
(27.78%)
(4.00%)
(0.80%)
(8.80%)
(38.57%)
(31.39%)
(13.08%)