บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
PYLON กำไร Q2/25 พุ่งแรงเกินคาด! FSSIA ชี้เป้า 2.40 บาท
P/E 14.92 YIELD 1.53 ราคา 2.62 (0.00%)
PYLON โชว์ผลงาน Q2/25 สุดปัง กำไรสุทธิ 58.8 ล้านบาท โตกระโดดจาก Q1/25 และพลิกจากขาดทุนใน Q2/24 โบรกเกอร์ FSSIA มองอนาคตสดใส คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 2.40 บาท
ผลประกอบการที่น่าประทับใจ
PYLON รายงานกำไรสุทธิ Q2/25 ที่ 58.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 18.2 ล้านบาทใน Q1/25 และพลิกกลับจากขาดทุน 6.7 ล้านบาทใน Q2/24 ผลประกอบการนี้สูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 26 ล้านบาท และสูงกว่า Bloomberg consensus ที่ 40 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่หนุนกำไรคืออัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 24.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส เพิ่มขึ้นจาก 13.4% ใน Q1/25 และ 6.8% ใน Q2/24 การขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นนี้มาจากการประหยัดต่อขนาด (economies of scale) ที่เกิดจากรายได้ที่สูงขึ้น
รายได้จากการก่อสร้างใน Q2/25 พุ่งสูงขึ้นเป็น 299 ล้านบาท (+91% q-q, +45% y-y) โดยได้แรงหนุนจากการใช้เครื่องจักรที่สูงขึ้น โดยเฉลี่ย 15 ชุดใน Q2/25 (เทียบกับ 10 ชุดใน Q1/25 และ 6-8 ชุดใน Q2/24) การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากความคืบหน้าของโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น เวิ้งนาครเขษม, The Ritz-Carlton Lhong และรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ยังคงควบคุมได้ดีที่ 6% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
แนวโน้มสดใสใน Q3/25
FSSIA คาดการณ์ว่ากำไรใน Q3/25 จะยังคงเติบโตทั้ง q-q และ y-y โดยได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของการใช้เครื่องจักรเป็น 17 ชุด (เทียบกับ 15 ชุดใน Q2/25 และ 10-12 ชุดใน Q3/24) ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งตัวของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายโครงการที่เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย
คงคำแนะนำ "ซื้อ"
FSSIA คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ PYLON โดยมีราคาเป้าหมายที่ 2.40 บาท อิงจาก P/BV เป้าหมายที่ 1.9 เท่า กำไรสุทธิ 1H25 ของ PYLON อยู่ที่ 77 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการทั้งปีของ FSSIA ที่ 68 ล้านบาท (เทียบกับเพียง 0.5 ล้านบาทในปี 2024) ซึ่งสะท้อนถึง GPM ที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ FSSIA มองเห็นโอกาสในการปรับประมาณการปัจจุบันขึ้นอยู่กับการอัปเดตเพิ่มเติมจาก Opportunity Day ในวันที่ 27 สิงหาคม
สรุป
PYLON มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน Q2/25 โดยมีกำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ FSSIA มองเห็นแนวโน้มการเติบโตที่สดใสใน Q3/25 และคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่ 2.40 บาท