บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ดักธีมหุ้น เติบโตญี่ปุ่น และ เทิร์นอะราวด์จีน ด้วย JAPAN13 HK13 HKTECH13
DR คือ หลักทรัพย์ (หุ้น) ที่อ้างอิงหุ้นหรือกองทุนต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้น หรือ ผลประโยชน์จากเงินปันผล ก็เสมือนท่านได้ลงทุนกับหุ้นตัวนั้นจริงๆ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหมายมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันการลงทุนในหุ้นต่างประเทศกระแสแรงมาก และ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนปัจจุบันที่เห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคบ้านเรา
13 ก.พ. ที่ผ่านมา KGI นำทีมโดย นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) (พี่เจน) เชิญสื่อใหญ่ฉายภาพการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ด้วยสองธีมใหญ่ เติบโต และ เทิร์นอะราวด์ ผ่าน DR 3 ตัวได้แก่ JAPAN13 - HK13 - HKTECH13 ซึ่งอ้างอิงกองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นชั้นนำขนาดใหญ่ของ ญี่ปุ่น-จีน-ฮ่องกง
DR ทั้ง 3 ตัวนี้ สามารถซื้อ และ ขายได้ทันทีในระบบของ Settrade Streaming ที่ทุกคนคุ้นดีอยู่ก่อนแล้ว โดยระบบของ DR ที่ทาง KGI ทำออกมานั้นเป็นระบบ Real Time ที่ได้รับยอมรับมาตั้งแต่สมัย DW มาตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาด โดยหลักการคือ เมื่อเราซื้อ หรือ ขาย DR ดังกล่าวระบบของ KGI จะทำการเทรด ETF อ้างอิงทันทีแบบ Real Time ฉะนั้นหมดกังวลเรื่อง Bid Offer ได้เลยมีหุ้นให้ซื้อและขายสภาพคล่องเป็นเลิศ
JAPAN13 โอกาสลงทุนพร้อมกับการเติบโตของญี่ปุ่น
- ญี่ปุ่นกำลังเริ่มต้นเข้าสู่เงินเฟ้อหลังอยู่กับเงินฝืดมานาน เริ่มเห็นการจับจ่าย และ จ้างงานเพิ่มขึ้น
- อดีตซื้อขายในกลุ่มจำกัด ปัจจุบันเป็นที่สนใจของกองทุน และ นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เพราะ ข้อ 3
- ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange) ออกมาเรียกร้องให้บริษัทจดทะเบียนและผู้บริหารระดับสูงคำนึงเรื่องของการเติบโต ต้นุทนทางการเงิน และสัดส่วนทางการเงินต่างๆ มากขึ้น ผลักดันให้มีการจ่ายเงินปันผลให้มากขึ้น หรือซื้นหุ้นคืนเพิ่มเติม
- บริษัทส่วนใหญ่มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Price per Book Value) ที่ต่ำกว่า 1 เท่า
- เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตดีกว่าคาดจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
- Berkshire Hathaway กองทุนชื่อดังเริ่มเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
- ปันผลประมาณ 1.xx%
- P/E 18 เท่า จากดัชนี้ที่ปรับตัว 30% กว่าในรอบ 1 ปี จากเหตุผลข้อ 1-6 มีโอกาสที่จะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง
HK13 และ HKTECH13 จีนกินรอบใหญ่ปักหลักรอเทิร์นอะราวด์
- HK13 และ HKTECH13 ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ลงทุนในประเทศจีน
- ตลาดหุ้นจีนตกลงมามากกว่า 60% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
- ตลาดขาดความเชื่อมั่น ปัญหาระหว่างประเทศ และ ล้มละลาย บ.ใหญ่ ภาคอสังหา
- จีนเล็งเห็นความสำคัญตลาดหุ้น (หุ้นลงสะท้อนความไม่เชื่อมั่นไม่เกิดการลงทุน)
- จีนเร่งแผนฟื้นฟูเศรฐกิจปี 67 ระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ
- Forward P/E ของ HSI อยู่ที่ 7 เท่า สะท้อนภาพดีแต่ขาดความมั่นใจ
- ปันผล 4%
ความเสี่ยง
- ซื้อขายเทียบ บาท กับ ดอลล่าร์ฮ่องกง
- บาทอ่อนได้ประโยชน์ ราคา DR ปรับขึ้น ตรงข้ามเสียประโยชน์ (ได้และเสียประโยชน์ เล็กน้อย)ฃ
ความเห็นส่วนตัว
ส่วนตัวผมชอบ HK13 ปัจจุบันราคาลงมามากแล้ว ประกอบกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ และ กู้วิกฤติความมั่นใจเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในระยะยาวมองเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น และ การกลับตัวของเศรษฐกิจ ถึงแม้อาจจะใช้เวลานานสัก 3 ปี ก็สบายๆ ด้วยปันผล 4% แต่จะให้ดีเอา JAPAN13 มาไว้ด้วยดีกว่าเผื่อมี Surprise จากบริษัทญี่ปุ่นประกาศแผนการลงทุนให้ชาวโลกได้รู้กันว่าฉันกลับมาแล้ว :D
ข้อมูลจาก Press Releases
สำหรับ DR ทั้งสามตัวที่ออกมาล่าสุดประกอบด้วย
1. JAPAN13 ลงทุนในกองทุน ETF ChinaAMC MSCI Japan Hedged to USt ETF (3160 HK) โดยมีการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่นมากกว่า 200 ตัว เช่น TOYOTA, SONY Group และ Mitsubishi UFJ Financial Group เป็นต้น โดยในปี 2023 ราคากองทุน ปรับตัวขึ้นถึง 32.7% และมีค่ามูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึงกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
2. HK13 ลงทุนในกองทุน ETF Tracker Fund of Hong Kong (2800 HK)จะมีราคาเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับดัชนี Hang Seng ซึ่งเป็นดัชนีที่ครอบคลุมหุ้นประมาณ 80 บริษัทที่มีการทำธุรกิจในประเทศจีนและฮ่องกง เช่น HSBC Holding, TENCENT, AIAGroup, ALIBABA และ CHINA Mobile เป็นต้น กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึงกว่า 5 แสนล้านบาท
3. HKTECH13 ลงทุนในกองทุน Hang Seng TECH Index ETF (3032 HK) ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องเทคโนโลยีขนาดใหญ่และทำธุรกิจในประเทศจีนเป็นหลัก ครอบคลุมหุ้น 30 ตัว เช่น XIAOMI, TENCENT, ALIBABA โดยกองทุนนี้มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึงกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท