https://aio.panphol.com/assets/images/community/3774_acbd89.png

สรุป Oppday SM (StarMoney) ปี 2567: เจาะลึกกลยุทธ์การเติบโตและแนวโน้มธุรกิจปี 2568

P/E 17.40 YIELD 3.75 ราคา 0.80 (-2.44%)

สรุป Oppday SM (StarMoney) ปี 2567: เจาะลึกกลยุทธ์การเติบโตและแนวโน้มธุรกิจปี 2568

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้ที่สนใจทุกท่าน เข้าสู่การนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ของบริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM โดยมี 4 หัวข้อหลักดังนี้:

  1. ภาพรวมธุรกิจ
  2. ผลการดำเนินงานประจำปี 2567
  3. กลยุทธ์การเติบโตขององค์กรในปี 2568
  4. การตอบประเด็นข้อซักถามในช่วงท้าย

บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการทางด้านสินเชื่อผ่อนชำระ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่ออุปโภคบริโภค ภายใต้แนวความคิดเพื่อให้ลูกค้ามีความรู้ทางการเงินและภูมิคุ้มกันทางการเงินที่เข้มแข็ง

ภาพรวมธุรกิจ (Business Impact Overview)

ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ 3 ธุรกิจหลักด้วยกัน:

  1. จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ รวมถึงรถจักรยานยนต์ ทั้งแบบเงินสดและผ่อนชำระ
  2. ให้บริการปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน, สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ไม่มีทะเบียนรถเป็นประกัน, สินเชื่อที่มีหลักประกัน (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง)
  3. ให้บริการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย (ประกันภัยรถยนต์, รถจักรยานยนต์, อัคคีภัย, ขนส่งภายในประเทศ, ประกันภัยเบ็ดเตล็ด)

ช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการทางการเงิน รวมถึงการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ผ่านสาขาหลัก สาขาย่อย และสาขา XX มากกว่า 93 สาขาของบริษัทฯ และแพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ภายใต้ชื่อร้าน StarMoney รวมถึงเว็บไซต์, Facebook, และ Line Application เพื่อประชาสัมพันธ์และตอบข้อซักถามลูกค้า

สาขาครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด 98 สาขา

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับที่ดีและยึดหลักจริยธรรม โดยมีการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมทั้งหมด 11 โครงการ (ปลูกต้นไม้, เก็บขยะ, เพาะและกล้า, บริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย, บริจาคอวัยวะ/เลือด)

บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ ESG DNA กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และดำเนินการอบรมครบ 100% แล้ว

การดำเนินงานด้านความยั่งยืนแบ่งออกเป็น:

  1. ด้านสิ่งแวดล้อม: เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า, อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม, ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  2. ด้านเศรษฐกิจ: เคารพสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติกับแรงงานอย่างเป็นธรรม, พัฒนากระบวนการทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง, รับผิดชอบต่อสังคม/สิ่งแวดล้อม/ชุมชน
  3. ด้านการกำกับกิจการ: คณะกรรมการ/ผู้บริหาร/พนักงานมุ่งมั่นยึดถือและปฏิบัติตามนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามมาตรฐานสากล 7 ประการ, ดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรม, ต่อต้านทุจริต

บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ด้านการดำเนินธุรกิจและพัฒนาความยั่งยืน รวมถึงแผนการพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และบริหารความเสี่ยง/ควบคุมภายในตามหลักการกำกับดูแลกิจการ

ปรับแผนพัฒนาในการสร้างตลาดและเครือข่ายใหม่, ขยายธุรกิจไปยังพันธมิตรและคู่ค้าใหม่, นำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารคุณภาพสินเชื่อ/วิเคราะห์ลูกค้า, เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงสินเชื่อและลดขั้นตอนการสมัคร (ออนไลน์/ออฟไลน์)

สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนภายใต้การกำกับกิจการที่ดี (ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ), บริหารจัดการลูกหนี้, ติดตามหนี้, รักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่

มุ่งมั่นปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง, นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์, รักษาสมดุลของระบบนิเวศ, สร้างคุณค่าอย่างสมดุลแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย, สนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม/ชุมชน

คณะกรรมการบริษัทฯ แต่งตั้งคณะทำงานการกำกับดูแลกิจการตั้งแต่ปี 2562 และเพิ่มหน้าที่ความรับผิดชอบในส่วนของความยั่งยืนในปี 2565 เปลี่ยนชื่อเป็น "คณะทำงานกำกับดูแลกิจการความยั่งยืน" ในปี 2567 รวมถึงอนุมัตินโยบายการพัฒนาความยั่งยืน

การบริหารงานด้านความยั่งยืนกำหนดให้สอดคล้องกับกฎหมาย/กฎระเบียบ/ข้อกำหนดอื่นๆ, ลดการใช้สารเคมี, จัดการของเสียทุกประเภทที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, ลดการใช้พลังงาน, ส่งเสริมการพัฒนาความรู้, ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน

จากการวิเคราะห์ประเด็นความยั่งยืนตามลำดับความสำคัญและเร่งด่วน ทำให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจใหม่

บริษัทฯ เริ่มใช้การรายงานตามเกณฑ์ GRI และกำหนดประเด็นความยั่งยืนและเป้าหมาย:

  1. กระบวนการจัดหาสินค้า: ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, เป็นคู่ค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมุ่งเน้นเศรษฐกิจนิเวศ, เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้า/บริการอย่างมีความรับผิดชอบ
  2. กระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ: นำ Digital Lending, พัฒนาการให้บริการสินเชื่อผ่านระบบเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (แผนธุรกิจในอนาคต)
  3. กระบวนการบริหารจัดการลูกหนี้: ปรับปรุงกระบวนการและบริการที่น่าเชื่อถือ
  4. กระบวนการติดตามหนี้: นำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารสินเชื่อ (ระบบ Lock Phone)
  5. กระบวนการรักษามาตรฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่: เพิ่มช่องทางในการขายสินค้า/บริการในช่องทางต่างๆ ที่ชัดเจน (โครงการ Work Place, สินเชื่อเพื่อธุรกิจ E-Tax/E-Receive, สินเชื่อประกัน, ขายสินค้าออนไลน์)

บริษัทฯ ได้รับการทวนสอบและรับรองผล Carbon Footprint โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และติดตั้ง Solar Cell ในสาขาที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย

ให้ความสำคัญในด้านจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ, ส่งเสริมความยั่งยืนแก่ธุรกิจ, รักษาประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย, ปฏิบัติตามกฎหมาย/กฎระเบียบ, นโยบายกำกับดูแลกิจการ, ประมวลจรรยาบรรณและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ, สร้างระบบงานเพื่อป้องกันการทุจริตผ่านระบบการตรวจสอบภายในเพื่อให้การประกอบธุรกิจเป็นไปด้วยความโปร่งใส/ซื่อสัตย์/สุจริต/เป็นธรรม

บริษัทฯ ได้รับคะแนนประเมิน AGM Checklist ในปี 2567 ในระดับ 5 เหรียญ (100 คะแนนเต็ม) และได้รับคะแนนประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการปี 2567 ในระดับ 5 ดาว (ดีเลิศ) เป็นปีที่ 2

ผลการดำเนินงานประจำปี 2567

บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12% และเติบโตทบต้นต่อปีจากปี 2564 ในอัตรา 7.7% โดยยังมีรายได้จากการขายและบริการเป็นรายได้หลัก (55%) รองลงมาเป็นรายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืมและรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อ

มีค่าใช้จ่ายรวม 1,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13% โดยมีค่าใช้จ่ายบริหารหนี้สูญเพิ่มขึ้นจาก 12% ในปีก่อนเป็น 17% จากการตั้งค่า ECL เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ และได้มีการตั้งสำรองแต่ละชั้นหนี้ไว้อย่างเพียงพอเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาวะเศรษฐกิจ

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้เท่ากับ 59.4% ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากรายได้รวมที่เพิ่มสูงขึ้น

รายได้จากการขายสินค้า (847.6 ล้านบาท) เติบโตจากปีก่อน 9.5% ตามนโยบายการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นและมีการกระตุ้นการขายสินค้าที่มี Margin สูง โดยยังคงเป็นการขายประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก (60%) รองลงมาเป็นโทรศัพท์มือถือ (38.4%) ซึ่งเติบโตจากปีก่อน 124% จากการปรับนโยบายการขายโทรศัพท์มือถือแบบผ่อนชำระเพิ่มขึ้น (นำระบบ Lock Phone ที่เป็น Android มาใช้ในช่วงปลายปี)

ยอดปล่อยสินเชื่อเงินให้กู้ยืม (1,493.5 ล้านบาท) ยังคงมีการคัดกรองลูกหนี้ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องและปล่อยสินเชื่อประเภทรถยนต์เป็นหลัก (75%) รองลงมาเป็นรถจักรยานยนต์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยในปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อประเภทรถยนต์ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากมีการชะลอการปล่อยสินเชื่อประเภทรถบรรทุกผ่านทางช่องทาง RM ลง และจำกัดวงเงินให้สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท พร้อมปรับลด LTV ลง

รายได้ดอกเบี้ย (636 ล้านบาท) คิดเป็น 41% ของรายได้รวม สัดส่วนหลักเป็นรายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืม (80%) สัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อ (20%) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากสัดส่วนการให้สินเชื่อเช่าซื้อประเภทโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี

อัตราดอกเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 23% (อัตราดอกเบี้ยสัญญาเช่าซื้อ 49.3%, อัตราดอกเบี้ยรับเงินให้กู้ยืม 20.3%)

อัตราผลตอบแทน (NIM) สุทธิอยู่ที่ 19.4% สูงกว่าปีก่อนจากรณยุทธ์ที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนก็ตาม

กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า (135.5 ล้านบาท) คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16% สาเหตุหลักมาจากการขายสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ เครื่องปรับอากาศ และสินค้าที่มี Margin สูงเพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับการสนับสนุนผลประโยชน์จากผู้จัดจำหน่ายที่มีมาอย่างยาวนานเพิ่มขึ้นสอดคล้องไปกับยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น

กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง (397 ล้านบาท) คิดเป็นอัตรา 25.7% เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายสินค้าขั้นต้นเพิ่มขึ้น, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ, รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อเพิ่มขึ้น

กำไรก่อนภาษีและต้นทุนทางการเงิน (163 ล้านบาท) สูงกว่าปีก่อน (155.4 ล้านบาท) แต่หากคิดเป็นอัตรากำไรจะเท่ากับ 10.5% ซึ่งจะต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย

กำไรสุทธิ (57.6 ล้านบาท) คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 3.3% ลดลงจากปีก่อน 11 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายบริหารหนี้สูญที่สูงขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระหว่างปี

อัตราส่วน ROA เท่ากับ 5.5%, ROE เท่ากับ 4.4% ซึ่ง ROE ลดลงสอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ลดลงจากปีก่อน

สินทรัพย์รวม (2,993.7 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนเพียงเล็กน้อย โดยมีลูกหนี้เงินให้สินเชื่อเป็นสินทรัพย์หลัก (87.9%) รองลงมาเป็นสินค้าคงเหลือ (109 ล้านบาท, 3.6%)

หนี้สินรวม (1,847.4 ล้านบาท) และส่วนของผู้ถือหุ้น (1,146.3 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 62% และ 38% ตามลำดับ

เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นหนี้สินหลัก (1,641.4 ล้านบาท, 54.8% ของหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นรวม)

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 1.6 เท่า ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดจากเจ้าหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน

ลูกหนี้สุทธิ (2,631 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 2.5% โดยเป็นลูกหนี้เงินให้กู้ยืม (89.3%) และลูกหนี้เช่าซื้อ (10.7%) โดยที่สัดส่วนลูกหนี้เช่าซื้อมีการปรับเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน สอดคล้องไปกับการปรับสัดส่วนการขายสินค้าแบบผ่อนชำระที่เพิ่มขึ้น

หากจะแยกตามประเภทของหลักประกันในส่วนของลูกหนี้เช่าซื้อ จะพบว่าโทรศัพท์มือถือมีสัดส่วน 50.5% สูงกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า (44%) ซึ่งปรับสัดส่วนลดลงจากปีก่อนจาก 50.4% สอดคล้องกับนโยบายการขายโทรศัพท์มือถือแบบผ่อนชำระเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมยังคงเป็นลูกหนี้ประเภทรถยนต์เป็นหลัก (85.5%)

คุณภาพหนี้ของลูกหนี้รวม (2,812.7 ล้านบาท) แบ่งเป็น Stage 1 (77.1%), Stage 2 (17.5%), Stage 3 (4.77%) หากแยกตามประเภทของสินเชื่อ จะพบว่าคุณภาพหนี้ของพอร์ตลูกหนี้เช่าซื้อ (292.4 ล้านบาท) เติบโตจากสิ้นปีก่อน 30.7% โดยแบ่งชั้นหนี้เป็น Stage 1 (94.9%), Stage 2 (3.3%), Stage 3 (1.8%) ซึ่งชั้นหนี้ทุกกลุ่มมีคุณภาพดีกว่าสิ้นปีก่อน โดยเฉพาะลูกหนี้ประเภทโทรศัพท์มือถือที่เป็นพอร์ตหลัก โดยมีการจัดเก็บเงินได้ดีขึ้นจากการนำระบบ Lock Phone มาใช้ ทำให้พฤติกรรมการชำระเงินของลูกหนี้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงในปีที่ผ่านมาได้มีการตัดหนี้สูญกลุ่มลูกหนี้โทรศัพท์มือถือที่ปล่อยในช่วงปี 2564-2565 ออกไปบางส่วน

คุณภาพหนี้ของพอร์ตลูกหนี้เงินให้กู้ยืม (2,520.3 ล้านบาท) เติบโตจากสิ้นปีก่อน 1.4% โดยแบ่งการจัดชั้นหนี้เป็น Stage 1 (75.7%), Stage 2 (19.2%), Stage 3 (5.1%) ซึ่งชั้นหนี้ทุกกลุ่มมีคุณภาพต่ำกว่าสิ้นปีก่อน

ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (181.7 ล้านบาท) มีลูกหนี้ชั้น NPL (134.1 ล้านบาท) คิดเป็นอัตราส่วน ECL ต่อ NPL (Coverage Ratio) เท่ากับ 135.4% ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากลูกหนี้กลุ่ม NPL ที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมี การตั้งสำรองเพิ่มขึ้นก็ตาม

อัตราส่วน ECL ต่อลูกหนี้เท่ากับ 6.5% และอัตราส่วน Credit Cost เท่ากับ 6.6% ซึ่งสูงกว่าปีก่อน

กลยุทธ์การเติบโตขององค์กรในปี 2568

กลยุทธ์การเติบโตของ StarMoney ในปี 2568 มองอยู่ 2 มุม:

  1. ใช้ศักยภาพของจำนวนสาขาที่มีมากกว่า 90 สาขา ให้มีการบริการลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า โดยปีที่แล้วสาขาย่อยอาจจะไม่ได้เน้นในการขายสินค้า ปีนี้จะใช้โอกาสนี้เนื่องจากสาขาย่อยสามารถลงในส่วนของชุมชนและเข้าสู่รากหญ้าได้มากขึ้น ให้บริการทั้งการขายสินค้าและการบริการทางการเงิน
  2. สาขาทั้งหมดกำลังมีระบบออนไลน์เข้ามา (E-Catalog) ในไตรมาส 3 อาจจะขายได้ทั้งสินค้าที่โชว์ในสาขาและสินค้าพันธมิตรที่ไม่ได้โชว์ในสาขา

ใช้ศักยภาพหรือสาขาที่มีอยู่ทำให้โอกาสในการขายสินค้าและการให้บริการในด้านการเงินได้มากขึ้น ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์

ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเก่าที่จะไปหาลูกค้าใหม่ จะมี 2 กลุ่มที่เป็นลูกค้าบุคคล (B2C) ใช้ระบบออนไลน์หรือระบบที่จะให้สาขาออกไปบริการให้สินเชื่อหรือขายสินค้าและให้บริการเช่าซื้อกับลูกค้าได้ในพื้นที่ของลูกค้าเลย (ไตรมาส 2 จะเริ่มใช้อุปกรณ์ให้สาขาออกไปติดต่อลูกค้าและทำธุรกรรมได้นอกสาขา)

ในไตรมาส 3 จะมีช่องทางออนไลน์มากขึ้น (E-Commerce) เนื่องจาก StarMoney มองว่าจุดแข็งคือมีสินค้าที่เป็นของตัวเองและการให้บริการการเงินที่เป็นของ StarMoney ใน E-Commerce หรือการขายออนไลน์ จะทำทั้งการค้าขายสินค้าและให้บริการในการดำเนินเงินผ่อนควบคู่กัน และใช้ระบบออนไลน์เป็นระบบแนะนำลูกค้าผ่านหรือลูกค้าสามารถสมัครออนไลน์เข้ามาเพื่อทำสินเชื่อได้

ในเรื่องของการใช้ศักยภาพสาขาเดิม จะเพิ่มสินค้าและบริการที่มากขึ้น:

  1. ขาย Solar Cell
  2. ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาขายเพิ่มเติม
  3. ให้บริการเพิ่มเติมอื่นๆ

ธุรกิจแฟรนไชส์ (ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ, ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ, ตู้แช่) ตลาดลูกค้าที่เป็นธุรกิจ จะมีความยั่งยืนและมีการผ่อนชำระกับการใช้สินค้ามากกว่า มีความมั่นคงมากกว่าในกลุ่มลูกค้าที่เป็นสินเชื่อรถยนต์ เราจะมา Focus ในส่วนของลูกค้าได้ใช้สินเชื่อและสินค้าไปในการทำธุรกิจต่อให้กับชุมชน

จะใช้บริการธุรกิจของ StarMoney ในเรื่องของการเงินไปขยายต่อได้ยังไงนอกสาขาโดยที่ไม่ต้องลงทุนสร้างสาขาตอนนี้เราได้มีพันธมิตรทางการค้าทั้งในพื้นที่ตะวันออกและพันธมิตรที่เรากำลังติดต่อกันไว้แล้วเราอาจจะไปให้บริการการขายสินค้าและการให้บริการทางการเงินในสาขาของพันธมิตรเลยลักษณะไปเหมือน Shop in Shop อันนี้ก็จะเป็นการที่เราจะสามารถใช้บริการและสินค้าของเราเข้าไปหาลูกค้ากลุ่มใหม่หรือตลาดกลุ่มใหม่ได้ชัดเจนขึ้นโดยมีการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาเป็นตัว Support ในการทำธุรกิจหรือในลักษณะเดียวกันเราใช้ลักษณะของธุรกิจการเงินเราไปสนับสนุนธุรกิจของพันธมิตรให้มีการเติบโตมากขึ้นอย่างเช่นธุรกิจพันธมิตรอาจจะไม่มีการทำสินเชื่อเงินผ่อนเราก็ไปให้สินเชื่อเงินผ่อนโดยเป็นสินค้าของพันธมิตรลักษณะนี้ก็จะทำให้เราได้ทั้งการขยายช่องทางใหม่และได้ทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามา

ในลักษณะเดียวกันเราก็ไม่ลืมว่าลูกค้าเก่าที่เรามีอยู่เราก็สามารถให้สิทธิประโยชน์ในการที่ลูกค้าเก่าเราของ StarMoney ไปใช้บริการอยู่ในสินค้าของพันธมิตรและได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้นอันนี้ก็จะเป็นลักษณะที่เราใช้ระบบการคอร์สเซลนะครับหรือการใช้ฐานลูกค้าทั้งสองฝ่ายของเราและพันธมิตรเนี่ยเพื่อสร้างธุรกิจทางการค้าใหม่ๆนะครับได้มากขึ้นอันนี้ก็เป็นกลยุทธ์ปีนี้ที่เราจะเดินนะครับสรุปได้ว่าเราจะดูตลาดเก่าตลาดใหม่กลุ่มลูกค้าใหม่กลุ่มลูกค้าเก่าโดยการขยายช่องทางการขายต่างๆนะครับพร้อมกับเพิ่มบริการต่างๆและในการที่เอาใช้ระบบดิจิทัลมาเป็นตัวเชื่อมนะครับเดี๋ยวในสไลด์ต่อไปนะครับ

แผนงานที่วางในปีนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว:

  1. ช่องทางสาขาต่างๆ สามารถ Compare เรื่องของประกัน ลูกค้ามาขอซื้อประกันรถยนต์ก็สามารถเปรียบเทียบให้ลูกค้าดูและสามารถกดสั่งซื้อหรือซื้อประกันรถยนต์ได้ผ่านทางระบบออนไลน์ที่สาขาได้เลย (ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น)
  2. ไตรมาส 2: ให้บริการสินเชื่อและเช่าซื้อนอกสถานที่ โดยสาขาเอาอุปกรณ์ Tablet/คอมพิวเตอร์ออกไปให้บริการลูกค้านอกสถานที่พร้อมกับการทำสัญญาได้เลยและสามารถขายสินค้าออนไลน์ผ่านในระบบที่จะทำกับอุปกรณ์ที่สาขาสามารถเอาไปใช้
  3. อุปกรณ์ส่วนนี้ที่สามารถทำการขายทั้งเช่าซื้อและสินเชื่อ จะไปใช้ในสาขาพันธมิตรที่เป็น Partner ในการที่จะเริ่มทำธุรกิจขยายสาขามากขึ้น
  4. ไตรมาส 3 และ 4: เน้นในเรื่องของการ นอกจากว่าเราจะเน้นในเรื่องของการที่เราจะรุกตลาดใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ แล้ว เราก็ไม่ลืมที่เราจะคัดคุณภาพลูกค้าโดยการที่เราใช้ระบบ AI หรือ Machine Learning เนี่ยมาทำเป็นระบบการให้คะแนนกับลูกค้าใหม่ที่เราจะคัดเข้ามา โดยเรามีระบบ E-Consent/NCB Online ต่างๆ แล้วก็ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าไปถึงเรื่องของการอนุมัติสินเชื่อและการติดตามหนี้ของลูกค้าหรือการจัดการหนี้ของลูกค้าดูพฤติกรรมว่าถ้าพฤติกรรมลูกค้ามาใน Stage ที่ 1 เนี่ยโทรไปตาม 1 ครั้ง 2 ครั้งแล้วไม่จ่ายเราจะมีทีมที่จะจัดการหนี้ที่ชัดเจนขึ้นนะครับทีมจัดการหนี้ก็จะมีความเข้มข้นมากขึ้นโดยดูจากพฤติกรรมการชำระของลูกค้าตอนนี้ก็เป็นไตรมาสที่ 3 กับ 4 ที่เราจะเอาระบบนี้เข้ามาช่วยนะครับเพื่อเป็นการ Protect การเอารูกหนี้ที่มีคุณภาพเข้ามาและการติดตามหนี้ที่ทันเวลา
  5. ขึ้นระบบ Digital Platform หรือ E-Commerce เต็มรูปแบบ (B2B และ B2C)
  6. ใช้เครือข่ายร้านค้าของ Partner หรือพันธมิตรเป็นคนที่จะขยายช่องทาง
  7. เอาข้อมูลทั้งหมดของลูกค้ามาวิเคราะห์ว่าสุดท้ายแล้วลูกค้าของเรามีความต้องการในอะไรบ้างและเขายังมีความสามารถในการผ่อนชำระหรือสามารถที่จะเพิ่มวงเงินในการที่จะมาซื้อสินค้าหรือทำธุรกิจของลูกค้าเองได้มากแค่ไหนเราอาจจะมีลักษณะที่เป็นเราอาจจะนำเสนอให้ลูกค้าก่อนที่ลูกค้าจะเรียกร้องว่าจะต้องการวงเงินเราก็จะมี การยื่นข้อเสนอให้ลูกค้าก่อนให้ข้อเสนอลูกค้าเก่าที่มี มีการชำระที่ดี ตรงเวลาเราก็อาจจะให้วงเงิน On Top เพื่อที่จะต่อยอดแล้วก็เพื่อสร้างความจงรักภักดีหรือเป็นโปรแกรมที่จะมีลูกค้าดีๆ ไว้กับทางบริษัท

สรุปแล้วในปีหน้าเนี่ยเราจะเน้นการรักษากลุ่มลูกค้าเก่าและก็เพิ่มยอดนะครับอันที่สองคือหาลูกค้าใหม่จากการขยายสาขาทั้งในรูปแบบของไปพันธมิตรเองหรือหาลูกค้าในจากสินค้าใหม่ๆ ที่เรามีนะครับแล้วก็เราใช้ระบบ Digital มาเป็นระบบการพัฒนาและสุดท้ายก็คือใช้ระบบ AI หรือ Machine Learning มาในการเป็นการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของการอนุมัติสินเชื่อและจัดติดตามหนี้นะครับอันนี้ก็จะเป็นแผนงานที่ปีนี้เราวางไว้นะครับก็เดี๋ยวในไตรมาสต่อๆไปผมก็จะมาอัปเดตอีกทีว่าเป็นยังไงนะครับในส่วนนี้ครับก็ประมาณนี้ครับของ การขยายธุรกิจ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 56:15]

นักลงทุนถามเกี่ยวกับยอดขายปี 67 และเป้าปี 68 รวมถึงพอร์ตและ NPL ของโทรศัพท์มือถือและรถบรรทุก:

ยอดขายโทรศัพท์มือถือ:

  • ปี 67: 326 ล้านบาท (39% ของยอดขายสินค้ารวม)
  • ปี 68: ตั้งเป้า 437 ล้านบาท (เติบโต 34%, 43% ของยอดขายสินค้ารวม)

พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ:

  • สัดส่วน 51% ของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรวม (5% ของพอร์ตสินเชื่อรวม)
  • NPL 1.65% (1.2% หากพิจารณาลูกหนี้ที่ใช้ Lock Phone)
  • NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อรวมทั้งหมด 0.8%

ยอดปล่อยสินเชื่อรถบรรทุก:

  • ปี 67: 353 ล้านบาท (24% ของพอร์ตสินเชื่อเงินให้กู้ยืม)
  • ปี 68: ตั้งเป้า 121 ล้านบาท (ลดลง 66% จากปี 67, 10% ของพอร์ตสินเชื่อเงินให้กู้ยืมรวม)

พอร์ตสินเชื่อรถบรรทุก:

  • ปี 67 (สิ้นปี): 777 ล้านบาท (31% ของพอร์ตสินเชื่อรถบรรทุก, 28% ของพอร์ตสินเชื่อรวม)
  • NPL: 4.8% (1.5% หากเทียบกับพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมด)

บริษัทฯ เน้นแก้ปัญหา NPL ของสินเชื่อรถบรรทุก และลดพอร์ตลง ในขณะเดียวกันจะเข้มงวดกับลูกหนี้ใหม่ และเร่งเคลียร์ NPL เดิมให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

นโยบายการตั้งสำรอง:

บริษัทฯ ตั้งสำรองเพียงพอสำหรับพอร์ตสินเชื่อ (Coverage Ratio 135% ของ NPL) เน้นเข้มงวดการคัดสรรลูกค้าเก่าที่มีประวัติการชำระดี สำหรับลูกค้ารายใหม่จะระมัดระวังและเข้มงวด รวมถึงกำหนด Ticket Size ต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท

บริษัทฯ คาดหวังว่าความต้องการใช้รถบรรทุกจะเริ่มกระเตื้องมากขึ้น จากมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของภาครัฐ การลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ

การขยายสาขา:

ปีนี้อาจจะยังไม่เน้นการเปิดสาขาเพิ่ม แต่จะเน้นช่องทางออนไลน์ E-Commerce และแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงพยายาม Scale ธุรกิจแพลตฟอร์มให้สามารถรองรับการใช้บริการของลูกค้าได้ทั่วประเทศ โดยคาดว่าแผนงานตรงนี้น่าจะเริ่มนำมาใช้ได้ในไตรมาส 3 เป็นต้นไป

ต้นทุนทางการเงิน:

แม้ว่า กนง. จะปรับดอกเบี้ย แต่ธนาคารไม่ได้ปรับลดให้ทั้งหมด เป็นการส่งผ่านในเรื่องของการลดดอกเบี้ยบางส่วนเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วบริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินในปี 2568 ลดลง 4%

แผนการขยายสาขาในภาคตะวันออกและภาคอื่นๆ:

ตอนนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นในเรื่องของการเตรียมระบบงานและโปรแกรมต่างๆ เพื่อรองรับการขยายช่องทางออนไลน์ และแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆ เพื่อเน้นการเติบโตในส่วนที่เป็นธุรกิจทางด้านของสินเชื่อเช่าซื้อให้เพิ่มมากขึ้น การขยายสาขาอาจจะไม่เน้นในปีนี้ แต่จะเน้นช่องทางออนไลน์ E-Commerce และแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มรายได้

สรุป

โดยสรุปแล้ว บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM มีกลยุทธ์ในการเติบโตในปี 2568 โดยเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์และพันธมิตรทางธุรกิจ การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมคุณภาพสินเชื่อยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อให้ผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว


หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป

  • ยอดขายโทรศัพท์มือถือปี 67 และเป้าปี 68
  • พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ
  • ยอดปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกปี 67 และเป้าปี 68
  • นโยบายการตั้งสำรอง
  • แผนการขยายสาขา
  • ต้นทุนทางการเงิน

โพสต์ล่าสุด
บทความ
3 วันที่แล้ว 13:30 น.
No Title Found