บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: FSSIA มองข้ามรายการพิเศษใน Q4/2567

FSSIA คาดการณ์กำไรหลัก (core profit) ใน Q4/2567 ของ VIH จะลดลง 12% YoY เหลือ 87 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการพิเศษ (one-off items) จากสำนักงานประกันสังคม (SSO) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะเติบโต 5-7% YoY นอกจากนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตถึง 20% YoY จากการไม่มีรายการปรับปรุงรายได้ SSO และการปรับราคาทางการแพทย์

รายละเอียดการวิเคราะห์: ผลกระทบจาก SSO และการเติบโตในอนาคต

FSSIA คาดการณ์รายได้ใน Q4/2567 จะลดลง 1-2% YoY โดยมีปัจจัยกดดันจากรายได้ SSO ที่ลดลง 10% YoY เนื่องจากการปรับปรุงรายได้จากการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW>2) จากการลดการจ่ายเงินเหลือ 8,000 บาท/RW จาก 12,000 บาท/RW ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2568 อย่างไรก็ตาม FSSIA คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโต 20% YoY เป็น 380 ล้านบาท เนื่องจากการไม่มีรายการปรับปรุงรายได้ SSO จำนวน 39-43 ล้านบาท และการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาล 3-7% ในเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไร EBITDA เป็น 21.9% ในปี 2568 (จาก 20.8% ในปี 2567)

ข้อสังเกต: การปรับประมาณการและมูลค่าที่น่าสนใจ

FSSIA ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ลง 3% เพื่อสะท้อนผลกระทบจากการลดการจ่ายเงินสำหรับการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงของ SSO และปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลง 2-3% เพื่อสะท้อนรายได้จากผู้ป่วยทั่วไปที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงมองว่า VIH มีมูลค่าที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ P/E ปี 2568 ที่ 12 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 23 เท่า) และ EV/bed ที่ 7 ล้านบาท (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 28 ล้านบาท)

สรุป: คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมายใหม่

FSSIA คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ VIH โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 14.00 บาท (ลดลงจาก 15.00 บาท) อิงจากวิธี DCF โดยมีมูลค่า 11.4 บาท/หุ้น สำหรับโรงพยาบาลเดิมและเงินสดสุทธิ และ 2.6 บาท/หุ้น สำหรับโรงพยาบาลใหม่ FSSIA มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันเป็นจุดเข้าซื้อที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3-4% (ภายใต้สมมติฐาน payout ratio 40%)

วิธีคิดราคาเป้าหมาย: DCF (Discounted Cash Flow)
ราคาเป้าหมาย: 14.00 บาท