บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ASPS คาด TPIPP กำไร Q4/67 ฟื้นตัว แต่ภาพรวมปี 68 กำไรลดลง
P/E 5.32 YIELD 8.89 ราคา 1.80 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ:
ASPS (บล.เอเซียพลัส) วิเคราะห์ผลประกอบการ TPIPP (ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์) โดยคาดการณ์กำไรสุทธิ Q4/67 ฟื้นตัว QoQ แต่แนวโน้มกำไรทั้งปี 2568 จะลดลง YoY คงประมาณการราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 3.0 บาท/หุ้น แนะนำ "Underperform" เนื่องจากขาดความน่าสนใจจากการที่กำไรปี 2568 มีแนวโน้มอ่อนตัว และคาดว่า dividend yield จะลดลง
ผลประกอบการ Q4/67 และแนวโน้ม:
กำไรสุทธิ Q4/67 เพิ่มขึ้น 9.4% QoQ มาอยู่ที่ 911.8 ล้านบาท หนุนจากกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น 26.9% QoQ จากรายได้ที่เติบโตตามการเรียกซื้อไฟฟ้าจากบริษัทแม่ TPIPL ที่เพิ่มขึ้น และ COD โรงไฟฟ้า solar ตามแผนอีก 8 MW อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง QoQ จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายในบริษัทได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามมีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการออกหุ้นกู้เพิ่มเติม
โดยรวมแล้วกำไรสุทธิและกำไรปกติทั้งปี 2567 ลดลง 9.6% YoY และ 9.1% YoY มาอยู่ที่ 3.30 และ 3.28 พันล้านบาทตามลำดับ กดดันจากราคาขายไฟฟ้าที่ลดลงตามค่า Ft ที่อ่อนตัว แม้ปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น แต่ชดเชยไม่หมด ปี 2568 คาดกำไรปกติลดลง 33.9% YoY มาอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท กดดันจาก Adder กลุ่ม TG4+TG6 ที่หมดอายุในเดือน เม.ย. และยังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มค่า Ft ที่ลดลง YoY ช่วงสั้น 1Q68 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ จากปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องพิจารณา:
ASPS ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 2.2 พันล้านบาท ลดลง 33.9% YoY โดยหลักถูกกดดันจากรายได้รับซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ของโรงไฟฟ้า TG4+TG6 ที่กำลังการผลิต 90 MW ที่จะหมดอายุลงในเดือน เม.ย. 2568 แม้คาดจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้า solar 81.4 MWe ที่ทยอย COD ต่อเนื่องไปจนถึงเดือน พ.ย. 2568 ประกอบกับแรงหนุนบางส่วนจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในโรงไฟฟ้าด้วยการลดใช้เชื้อเพลิงถ่านหินอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่คาดยังชดเชยได้ไม่หมด นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) จากภาครัฐฯ ที่ยังคงอยู่ ส่งผลให้ราคาขายไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง YoY
ช่วงสั้นงวด 1Q68 คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น QoQ โดยคาดจะมีแรงหนุนจากปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการเรียกซื้อไฟฟ้าจากทั้งภาครัฐฯ และ บริษัทแม่ TPIPL ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้า solar ที่คาดจะผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นตามค่าแสงที่สูงขึ้นตามช่วงฤดูกาล ประกอบกับคาดต้นทุนการผลิตจะปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาถ่านหินที่อ่อนตัว QoQ และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าตามแผนของ TPIPP อย่างต่อเนื่อง
สรุปและคำแนะนำ:
ASPS คงประมาณการราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 3.0 บาท/หุ้น แต่แนะนำให้สับเปลี่ยนไปลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าตัวอื่น อาทิ GULF, GPSC, BGRIM ที่ยังเห็นการเติบโตได้ดีกว่าในระยะยาว เนื่องจาก TPIPP ยังขาดความน่าสนใจจากแนวโน้มกำไรปี 2568 ที่อ่อนตัว YoY และ dividend yield ที่คาดว่าจะลดลง