บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ASIMAR โชว์ผลงาน Q2/68 รายได้โต 24% เรือซ่อมหนุน
P/E 6.82 YIELD 7.79 ราคา 1.54 (0.00%)
ASIMAR โชว์ผลงาน Q2/68 รายได้โต 24% เรือซ่อมหนุน
สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เป็นการให้ข้อมูลภาพรวมผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ที่ผ่านมา โดยมีคุณรัตน์พิพันธ์ พิบุญศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการเงิน และคุณสุรเดช ตัณฑ์ทิบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าร่วมให้ข้อมูล
หัวข้อที่จะพูดคุยกันในวันนี้ประกอบด้วย:
- Overview Business
- Financial Highlight
- ทิศทางข้างหน้าในอีกครึ่งปีหลังของปีนี้
- ช่วงถามตอบ
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
สำหรับนักลงทุนที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับบริษัท จะขอพรีเซนต์ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทสั้นๆ โดยวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทคือ ต้องการที่จะเป็นอู่เรือที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพและการส่งมอบได้ตามกำหนดเวลา นอกจากนั้นยังเน้นเรื่องของความยั่งยืน โดยพยายามหาเทคโนโลยีมาลดเรื่องของการปล่อยก๊าซ Emission ลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทก็จะมีลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน Community สิ่งแวดล้อม
บริษัทดำเนินงานมาเข้าปีที่ 44 แล้ว ก่อตั้งเมื่อปี 2524 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีโครงการต่อเรือขนาดใหญ่ต่อเนื่องมาทุกปี ตั้งแต่ปี 2564 มีการเซ็นสัญญาต่อเรือลากจูงให้กองทัพเรือ ถัดมาก็มีการเซ็นสัญญาต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ระหว่างนั้นก็มีการส่งมอบเรือเก็บขยะที่ใช้วัสดุชนิดใหม่ น่าจะเป็นลำแรกของประเทศไทย ในปีนี้จะเป็นปีที่จะต้องส่งมอบเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ในเดือนตุลาคม และเพิ่งมีเซ็นสัญญาต่อเรืออีกหนึ่งโครงการให้กับการท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เป็นเรือลากจูงอีกหนึ่งลำ
กลุ่มบริษัทประกอบด้วย:
- ASIMAR: ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเรือซ่อม ต่อเรือ Convert เรือ งานโครงสร้างเหล็ก และสนับสนุนธุรกิจ Offshore
- Eco Marine: ทำเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางน้ำ มีผลิตภัณฑ์น้ำยา Bio-Q ที่เป็นน้ำยาชีวภาพ ใช้เรื่องของ Oil Spill และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องมือต่างๆ นอกจากนั้นก็ทำเรื่องของการขายเรือ โดยเฉพาะเรือเก็บขยะ เรือเก็บผักตบชวา และมีงานขุดลอก ร่วมกับบริษัทต่างประเทศในเรื่องของการเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา
- Future Power Solution: เป็น System Integrator Solution Provider มีกลุ่มผลิตภัณฑ์อยู่ 3 กลุ่มหลักๆ คือ Marine เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Kongsberg ผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ Scania และเป็นตัวแทนขายเครื่องยนต์ MTU อีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นกลุ่ม Defense เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ Anti Drone จากสหรัฐอเมริกา อีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Sustainable ไม่ว่าจะเป็นพลังงานทางเลือก น้ำยาผลิตภัณฑ์ FluiDex ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ และระบบ Hydraulic ของเครื่องยนต์
ในส่วนของระบบคุณภาพ เดิมมี ISO 9001 เกี่ยวกับคุณภาพการต่อซ่อมและออกแบบเรือ มี ISO 14001 เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ISO 45001 เกี่ยวกับ Health and Safety ของพนักงาน และเพิ่งได้เพิ่มมาคือ ISO 14064-1 เป็นเรื่องของ Green House Gas ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อกุมภาพันธ์ปีนี้
บริษัทมีอยู่ 2 สาขา สำนักงานใหญ่อยู่ที่สมุทรปราการ มีอู่ลอยสามารถรับงานซ่อมเรือได้ 2 อู่ สามารถรับเรือได้ถึง 20,000 เดทเวทตัน มี Slipway 2 Slipway สามารถต่อเรือได้ยาวที่สุดถึง 125 เมตร กว้าง 28 เมตร อีกสาขาหนึ่งอยู่ที่สุราษฎร์ธานี มี Slipway 95 เมตร กว้าง 20.5 เมตร มีเนื้อที่อยู่ 338,400 ตารางเมตร
ผลงานคร่าวๆ มีกลุ่มเรือลากจูง ต่อเรือลากจูงให้ทั้งกองทัพเรือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย และส่งออกไปต่างประเทศ ในกลุ่มของเรือรบ มีต่อเรือตรวจการณ์ปืนให้กองทัพเรือ และมีซ่อมคืนสภาพเรือรบให้กองทัพเรือไปอีก 4 ลำ
อีกกลุ่มหนึ่งที่ผลิตผลงานออกมาเยอะคือ เรือ Workboat เป็นเรือที่มีภารกิจเฉพาะ ทำงานเฉพาะทาง อย่างในภาพตัวอย่างมีเรือเก็บขยะในทะเลให้ ทช. มีเรือเก็บผักตบชวา ต่อไปแล้ว 28 ลำ ให้กรมโยธาธิการและจังหวัดต่างๆ มีต่อเรือเก็บขยะเฉพาะทางให้กับ Toyota ประเทศไทย และมีเรือวางทุ่น ให้กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย
อีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นเรือสินค้า เคยมีต่อเรือขนตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 442 TEU ส่งออก และมีเรือ Shipment Bass ให้กับบริษัทในกลุ่ม Double A นอกจากนั้นเรือ Offshore ก็ต่อ มีทั้งต่อและทำ Conversion ส่งออกไปทางตะวันออกกลาง และใช้ใน Offshore ในพม่า
อีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มเรือ Passenger มีต่อเรือ Passenger ทั้งที่สามารถวิ่งในทะเลได้ และเรือ Passenger ที่วิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยรวมเป็นการแนะนำบริษัทภาพรวมแบบคร่าวๆ
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
Financial Highlight ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาทำได้ดี ทั้งรายได้และกำไร ในไตรมาส 2 ของปีนี้ทำรายได้รวมทั้งกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 250.3 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2 ของปีก่อน 24% ถึง 35.8% สูงขึ้นจากไตรมาส 1 อยู่ที่ 12.2% ในส่วนของการทำกำไรขั้นต้นทำได้อยู่ที่ 62.7 ล้าน ทั้งเรือซ่อมและเรือต่อ สูงขึ้นจากปีที่แล้ว 29.3% Net Profit กำไรสุทธิหลังหักภาษีทำได้ 12.1 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่ 6.3 ล้าน โตขึ้นประมาณ 1 เท่า ครึ่งปีแรกรวมแล้วทำรายได้ทั้งเรือซ่อมและเรือต่อ งานโครงการอยู่ที่ 473.4 ล้าน สูงขึ้น 33% Gross Profit สูงขึ้น 23% ทำได้อยู่ที่ 111.8 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ครึ่งปีแรกปีนี้อยู่ที่ 18.5% หลักๆ แล้วมาจากเรื่องของงานเรือซ่อม
รายละเอียดของแต่ละ Segment ในการเติบโตในแต่ละ Segment ในส่วนของไตรมาส 2 รายได้ที่ทำได้เป็นส่วนของเรือซ่อมอยู่ที่ 141.8 ล้านบาท และเป็นงานโครงการอยู่ที่ 99.5 ล้าน เป็นบริษัทในกลุ่มที่ช่วยสนับสนุนรายได้มาอยู่ที่ 6.1 ล้านบาท รายได้ที่เติบโตขึ้น สัดส่วนการทำรายได้อาจจะเนื่องมาจากปีนี้ โครงการต่อเรือรับรู้รายได้สะสม ณ ตอนสิ้นไตรมาส 2 รับรู้รายได้งานโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์อยู่ที่ 82.2% สูงกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่รับรู้อยู่ที่ประมาณ 83.8% เรือต่อก็เลยเติบโตสูงขึ้นที่ 187.6% มองในแง่ของเรือซ่อมทำได้รายได้อยู่ 141 ล้านบาท สูงจากปีที่แล้วไตรมาสที่แล้ว 14.5% แต่ถ้าเทียบปีที่แล้วสูงขึ้น 10.7%
ตัวเลขที่สูงขึ้นมาจากเรือซ่อม กำลังการผลิต Capacity สามารถรับเรือซ่อมได้เต็มกำลังการผลิต เรือซ่อมที่เข้ามาในช่วงไตรมาสนี้ มูลค่าซ่อมต่อลำจะสูง ราคาซ่อมเฉลี่ยต่อลำ 10 ล้านบาทต่อลำสูงขึ้น ตอนนี้มูลค่าสูง 10 ล้านบาทก็หลายลำ
ใน 6 เดือน รายได้การทำกำไรตอนนี้รายได้อยู่ที่ 473.4 ล้านบาท สัดส่วนของเรือซ่อมอยู่ที่ 56% เป็นงานโครงการอยู่ที่ 38% และเป็นของบริษัทในกลุ่มอยู่ที่ 4% นอกนั้นก็อื่นๆ อีก 2% Core Business ในการเป็นอู่เรือมาจากเรือซ่อม ซึ่งจะเป็นรายได้หลักที่เข้ามาอยู่ทุกปี เพราะตอนนี้กำลังการผลิตมีอู่ลอย 2 อู่ อัตราส่วนการทำกำไรตอนนี้ 3 เดือนอยู่ที่ 12.1 ล้านบาท ถ้าเทียบกับปีก่อนไตรมาส 1 ปีนี้ 6.3 เติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนของครึ่งปีแรกกำไรสุทธิตอนนี้ทำได้ 18.5 ล้านบาท ก็ใกล้เคียงกับปีที่แล้วอยู่ที่ 18.1 ล้านบาท
ตัวเลขเปรียบเทียบ 6 เดือน กับ 3 เดือน ของทั้งเรือซ่อมและเรือต่อ จะเห็นว่าตัวเลขของเรือซ่อม ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ทำรวมอยู่ที่ 265 ล้าน ในขณะที่เรือต่ออยู่ 181 ล้าน งานเรือต่อที่รับรู้รายได้เป็นเรื่องของอัตราความสำเร็จของงาน ในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้วความสำเร็จของงานยังไม่ได้สูง กำหนดส่งมอบในต้นไตรมาส 4 ปีนี้ ตอนนี้ความสำเร็จของงานรับรู้มาสะสมอยู่ที่ 82% ตัวเลขการรับรู้รายได้กับกำไรของปีนี้ก็เลยสูงขึ้น
โครงสร้างของเรือซ่อม เรือซ่อมเป็น Core Business สัดส่วนการรับงานของโครงการเรือซ่อม หลักๆ แล้ว 58% ก็จะเป็นเรือ Tanker เป็นเรือขนส่งน้ำมัน รองลงไปก็จะเป็นเรือ LPG ขนส่งการ์ด นอกนั้นก็จะเป็นเรือ Ferry ที่เข้ามาเยอะในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
โครงการที่ส่งมอบในครึ่งปีแรก เป็นโครงการต่อเรือเก็บขยะ เป็นวัสดุ HDPE ซึ่งส่งมอบให้กองทัพเรือ ส่งถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 รับรู้รายได้ในปีนี้อยู่ที่ 7.37 ล้านบาท รายได้รวมโครงการของลำนี้อยู่ที่ 9.35 ล้าน
Performance ของสาขาสุราษฎร์ สาขาสุราษฎร์ทำได้ดีต่อเนื่อง รายได้รวมของ 6 เดือนตอนนี้ทำได้อยู่ที่ 20.3 ล้านบาท ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกของปีที่แล้วที่ 21.8 ล้าน สิ่งที่ทำได้ดีขึ้นของสาขาสุราษฎร์คือเรื่องของการควบคุมต้นทุน อัตราส่วนการทำกำไรของเรือซ่อมที่สาขาสุราษฎร์ก็สูงขึ้นอยู่ที่ 38.2% เรือที่เข้ามาซ่อมที่สุราษฎร์ส่วนใหญ่จะเป็นเรือ Passenger เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่โตขึ้นในโซนภาคใต้ แล้วก็มีเรือขนส่งทั่วไป General Cargo เพิ่มขึ้น
สถานะทางการเงินของบริษัท
เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว สินทรัพย์รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% จาก 1,560 ล้านบาท เป็น 1,710 ล้านบาท หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 19% จาก 732 ล้านบาท เป็น 875 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 3% จาก 828 ล้านบาท เป็น 835 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เพิ่มขึ้นจาก 0.88 เท่า เป็น 1.05 เท่า
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บริษัทมีโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจในอนาคต ได้แก่:
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
บริษัทมีความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ ดังนี้:
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีวิธีการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
แนวโน้มของธุรกิจอู่เรือในอนาคตยังคงมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจเรือซ่อมบำรุง เนื่องจากเรือที่ใช้งานอยู่มีอายุมากขึ้น และต้องการการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้มีความต้องการเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับบริษัทในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): นาทีที่ 30:32
หัวข้อ : Backlog คงเหลือเท่าไหร่ ?
ปัจจุบัน Backlog ที่มีอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ภายในปี 2568 ประมาณ 400 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปี 2569
หัวข้อ : งานมาร์จิ้นดีคืออะไร ?
งานที่มีมาร์จิ้นดีคืองานซ่อมเรือ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการซ่อมเรือ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนและสร้างกำไรได้ดี
หัวข้อ : เรื่องการลงทุนเพิ่ม ?
บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทอาจพิจารณาลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอู่เรือ เช่น ธุรกิจพลังงานทางเลือก
หัวข้อ : นโยบายปันผล ?
บริษัทยังคงมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
หัวข้อ : เป้าหมายรายได้ปีนี้ ?
เป้าหมายรายได้ปีนี้คือ 1,000 ล้านบาท
สรุป
ASIMAR ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โดยมีรายได้และกำไรเติบโตขึ้นอย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะธุรกิจเรือซ่อมที่เป็น Core Business ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ซึ่งบริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือและมีแผนที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ