YONG
บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

YONG Oppday: เจาะลึกผลกระทบธุรกิจ, โอกาส, ความเสี่ยง และแนวโน้มอนาคต (Q3'67)

สวัสดีครับ/ค่ะ วันนี้เราจะมานำเสนอข้อมูลบริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) ในภาพรวม เศรษฐกิจมหภาค และข้อมูลทางการเงินของบริษัทในไตรมาส 3 พร้อมทั้งภาพรวม 9 เดือนของปี 2567 และมุมมองของบริษัทในอนาคต รวมถึงช่วงถามตอบ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ธุรกิจของยงคอนกรีตครอบคลุมการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตหลากหลายชนิด ตั้งแต่งานรากฐาน (เสาเข็ม) ไปจนถึงโครงสร้างอาคาร (เสา คาน ผนังสำเร็จรูป) และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง (แผ่นพื้น ท้องหล่อ/เรียบ รั้วสำเร็จรูป) นอกจากนี้ยังมีธุรกิจขนส่งวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปด้วย

ธุรกิจได้รับผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวและหดตัวลง ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น รั้วสำเร็จรูปและผนัง Precast มีอัตราการใช้กำลังการผลิต (utilization rate) ไม่ถึง 50% อย่างไรก็ตาม เสาเข็มยังคงมียอดขายที่ดีเนื่องจากได้ลูกค้าในกลุ่มผู้รับเหมามาช่วยชดเชย

สัดส่วนลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลง โดยกลุ่มผู้รับเหมาและลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นเป็น 61% (จากเดิม 40% ในช่วง 2-3 ปีก่อน) ขณะที่สัดส่วนลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ลดลงเหลือ 29% เนื่องจาก Supply หดตัวลง บริษัทจึงเน้นหาลูกค้าใหม่ในกลุ่มผู้รับเหมาและลูกค้าทั่วไปมาชดเชย

แม้ว่ากำลังการผลิตโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา แต่บริษัทยังคงมุ่งเน้นการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเดิม และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ เพื่อสร้างความสมดุลทางธุรกิจ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากมีการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) จำนวนมาก โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งจะช่วยชดเชยการหดตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์

บริษัทได้เปิด Plant ใหม่ในระยองเพื่อรองรับการเติบโตใน EEC และมีลูกค้าที่ก่อสร้างโรงงานโดยมีการลงทุนทางตรงจากต่างชาติ (ส่วนใหญ่เป็นจีน) จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยชดเชยภาพของอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัวลง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ Jumpstart ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพัฒนาธุรกิจให้มีความโปร่งใสและยั่งยืนยิ่งขึ้น

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงหลักที่บริษัทกำลังเผชิญคือการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย

นอกจากนี้ การแข่งขันด้านราคาในอุตสาหกรรมก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่บริษัทต้องเผชิญ เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดในภาวะที่ Demand ลดลง

การเปลี่ยนแปลงนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของสถาบันการเงินก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้รับเหมาและลูกค้าทั่วไป รวมถึงมุ่งเน้นการให้บริการในภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการลงทุนจากต่างชาติจำนวนมาก

บริษัทยังได้เข้าร่วมโครงการ Jumpstart ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพัฒนาธุรกิจให้มีความโปร่งใสและยั่งยืนยิ่งขึ้น รวมถึงปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต โดยติดตามและบริหารจัดการลูกหนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทคาดว่าแนวโน้มของภาคอสังหาริมทรัพย์จะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4 แต่การขยายธุรกิจไปยัง EEC และการมุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มใหม่จะช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้

บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต Plant Readymix ในปี 2568 และเตรียมก่อสร้างโรงงานใหม่ในระยอง เพื่อรองรับการเติบโตใน EEC

บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้มีความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) และการสร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 50:39]

* แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 4/2567: * คำถาม: แนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 4 จะโตไหมเมื่อเทียบกับ Q on Q และ Year on Year * คำตอบ: มองว่า Q4 ยังไม่เห็นภาพที่ดีชัดเจนนักเมื่อเทียบกับ Year on Year เพราะอสังหาฯยังชะลอตัว แต่บริษัทพยายามหาลูกค้าใหม่มาชดเชย * Backlog คงเหลือ: * คำถาม: Backlog ปัจจุบันมีเท่าไหร่ * คำตอบ: มี Backlog 430 ล้านบาท, ขายพร้อมติดตั้ง 172 ล้านบาท รวม 602 ล้านบาท จะรับรู้ปี 2568 ราว 183 ล้าน, ปี 2569 ราว 259 ล้าน, ปี 2570 ราว 160 ล้าน * การประมูลงานใหม่: * คำถาม: ปัจจุบันมีการประมูลงานใหม่มูลค่าเท่าไหร่ * คำตอบ: งานระดับ 10 กว่าล้านบาทมีการประมูลเข้ามาเรื่อย ๆ และได้งานเพื่อรองรับรายได้ Q4/2567 และ Q1/2568 ส่วนงานระดับ 100 ล้านบาท คาดว่าจะมีในปีหน้า * ภาพรวมปี 2568: * คำถาม: ภาพรวมปี 2568 รายได้รวมน่าจะโตหรืออยู่ในระดับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับปีก่อน * คำตอบ: จาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมา รายได้ชะลอตัวลง Q4 ก็ยังไม่เห็นภาพที่ดีชัดเจนเมื่อเทียบ Year on Year * แผนฟื้นฟูผลประกอบการ: * คำถาม: Q3/2567 กำไรเติบโตเล็กน้อย แต่ผลประกอบการ 9 เดือนลดลงอย่างมาก มีแผนฟื้นฟูอย่างไร * คำตอบ: มีแผนหาลูกค้าใหม่และขยายโรงงานไป EEC ที่มีดีมานด์ และ EEC จะเป็นรายได้ชดเชยจากภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ระดับหนึ่ง * แผนขยายกำลังการผลิต EEC: * คำถาม: มีแผนขยายกำลังการผลิตโครงการเพื่อรองรับดีมานด์ EEC อย่างไร * คำตอบ: อยู่ในแผนธุรกิจที่เข้าโครงการ Jumpstart และได้รับอนุมัติจากบอร์ดแล้ว คาดว่าจะขยาย Plant Readymix ในปีหน้า และปีถัด ๆ ไป รวมถึงเตรียมก่อสร้างโรงงานใหม่ในระยองปีหน้า * ควบคุมต้นทุน Q4: * คำถาม: ต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นใน Q3 มีผลต่อกำไรขั้นต้น บริษัทมีแผนควบคุมต้นทุน Q4 อย่างไร * คำตอบ: ที่ต้นทุนการผลิตดูเพิ่มขึ้น มาจากราคาขายที่แข่งขันรุนแรงขึ้น ทำให้ Gap กำไรขั้นต้นลดลง บริษัทพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารให้ทรงตัวและลดลง รวมถึงควบคุม ECL (Credit Loss) อย่างใกล้ชิด เดือนละ 2 ครั้ง * โอกาส/ความเสี่ยงธุรกิจคอนกรีตสำเร็จรูป Q4: * คำถาม: คุณมองโอกาสหรือความเสี่ยงใดบ้างของธุรกิจคอนกรีตสำเร็จรูปใน Q4 * คำตอบ: อสังหาฯที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ดีมานด์การใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตลดลง โรงงานที่มี Supply พยายามรักษากำลังการผลิต (Utilization Rate) ของตนเอง ทำให้การแข่งขันราคายังสูงอยู่ คาดว่ายังเห็นภาพนี้ใน Q4/2567 และอาจถึง Q1/2568

สรุป

โดยสรุป ยงคอนกรีตกำลังเผชิญกับความท้าทายจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว แต่บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในภาคตะวันออก (EEC) และมุ่งมั่นที่จะปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย การขยายฐานลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถก้าวข้ามความท้าทายและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป