สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทสรุปผลประกอบการบริษัท วิค จำกัด (มหาชน) (WIIK) และการวิเคราะห์เชิงลงทุน

บริษัท วิค จำกัด (มหาชน) (WIIK) ผู้ผลิต จำหน่าย และให้บริการติดตั้งระบบท่อพลาสติก HDPE, LDPE, PP และท่อ Weholite Spiro รวมถึง WehoTank รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ การเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ รุ่นที่ 3 (WIIK-W3) และการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (วิค วอเตอร์, วิค พีที, เซาเทิร์น คอนซัลแตนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น) เพื่อขยายพื้นที่สำนักงานให้เพียงพอต่อจำนวนบุคลากร ในส่วนของงบการเงิน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิปี 2567 จำนวน 43.98 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 49.41 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้อื่นๆ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรขั้นต้นจากการขายและบริการจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ธุรกิจหลักอย่างการขายท่อมีการแข่งขันสูงขึ้นและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ธุรกิจบริหารจัดการน้ำมีการเติบโตของรายได้จากการขายน้ำ แต่รายได้จากการให้บริการติดตั้งแบบ BOO ลดลง

บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและขยายตลาดในธุรกิจหลัก รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการน้ำ โดยการขยายฐานลูกค้าและพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตน้ำประปาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต จากข้อมูล ณ สิ้นปี 2567 บริษัทฯ มีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) รวม 687.17 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อรายได้ในอนาคต

แม้ว่าผลประกอบการปี 2567 จะลดลงเล็กน้อย แต่ WIIK ยังคงมีความน่าสนใจในฐานะบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจท่อพลาสติกและบริหารจัดการน้ำ โอกาสในการลงทุนอยู่ที่การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและความต้องการน้ำประปาที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดท่อพลาสติก และความล่าช้าในการดำเนินโครงการต่างๆ นอกจากนี้ ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม เช่น P/E ที่ 16.6 และ P/BV ที่ 0.34 บ่งชี้ว่าหุ้น WIIK อาจมีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาว แต่ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

**โอกาส:**

* การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
* ความต้องการน้ำประปาที่เพิ่มขึ้น
* ศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจบริหารจัดการน้ำ

**ความเสี่ยง:**

* ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดท่อพลาสติก
* ความล่าช้าในการดำเนินโครงการต่างๆ

**ความสัมพันธ์และการวิเคราะห์:**

* **รายได้และกำไร:** รายได้รวมปี 2567 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิลดลง แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิลดลง
* **D/E:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท
* **ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไร:** การลดลงของรายได้อื่นๆ และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อกำไร
* **พัฒนาการสำคัญ:** การเพิ่มทุนและการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานเป็นพัฒนาการที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต
* **อนาคตการลงทุน:** WIIK ยังคงมีความน่าสนใจในฐานะบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจท่อพลาสติกและบริหารจัดการน้ำ