สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท วิค จำกัด (มหาชน) หรือ WIIK ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 รายได้รวมอยู่ที่ 375 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ที่มีรายได้รวม 408 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงเหลือ 5.74 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 10.21 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 ลดลง 43.78%
สาเหตุสำคัญของการลดลงนี้มาจากธุรกิจขายและติดตั้งท่อ โดยเฉพาะรายได้จากการขายท่อ PPR ที่ลดลง 28.41% เนื่องจากอัตราต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้จากการติดตั้งท่อจะเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ธุรกิจบริหารจัดการน้ำ รายได้จากการขายน้ำ ลดลง 1.61% เนื่องจากคุณภาพน้ำในช่วงไตรมาส 3/2567 ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้บริษัทต้องใช้ต้นทุนในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าใช้จ่ายทางการเงินก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากค่าขนส่ง ค่าเสื่อมราคา และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น

แผนธุรกิจของ WIIK ในอนาคตคือการมุ่งเน้นการขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจขายและติดตั้งท่อ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และโครงการขนาดใหญ่ บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้และกำไรจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาทในปี 2568

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง WIIK ดูจะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในแง่ของ P/E ที่อยู่ในระดับ 25.31 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 35 แสดงให้เห็นว่าความคาดหวังของนักลงทุนยังไม่สูง
P/BV อยู่ที่ 0.44 ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้น WIIK ถูกกว่ามูลค่าทางบัญชี YIELD อยู่ที่ 5.45% ซึ่งสูงกว่า 4% เป็นตัวชี้วัดว่าน่าสนใจในแง่ของเงินปันผล

D/E อยู่ที่ 0.26 แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีภาระหนี้สินที่ต่ำ โดยเฉพาะถ้าเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย 0.89 ในอดีต แสดงให้เห็นว่าพื้นฐานของ WIIK แข็งแกร่ง

วงจรเงินสดของ WIIK อยู่ที่ 261.38 วัน แสดงให้เห็นว่าบริษัทใช้เวลานานกว่าจะได้รับเงินสดจากลูกหนี้ ซึ่งอาจเกิดจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด ทำให้ลูกค้าบางส่วนชะลอการชำระเงิน

เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานของ WIIK อยู่ที่ 198.736733 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน อยู่ที่ -229.623633 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่

**โอกาส**
* การขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจขายและติดตั้งท่อ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
* การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่
* การควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* อัตราส่วนทางการเงิน D/E YIELD P/BV

**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
* ความผันผวนของราคาสินค้าและค่าขนส่ง
* ความล่าช้าในการชำระเงินของลูกหนี้
* ความเสี่ยงในการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่
* อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น

WIIK อาจเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของบริษัท หรือ นักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล