VIH
บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

VIH เจาะลึกผลประกอบการ Q3/2568: โอกาส, ความเสี่ยง, และทิศทางสู่อนาคต

สวัสดีค่ะ ท่านผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เราจะมาสรุปข้อมูลสำคัญจากงาน Oppday ของบริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ VIH ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านได้รับทราบผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 และแนวโน้มในอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

  • บริษัทมีการเติบโตของรายได้ที่เร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 3
  • มีการวิเคราะห์การดำเนินงาน, ต้นทุน, สถานะทางการเงิน, และการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
  • กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวชมี 4 แห่ง ก่อตั้งสาขาแรกตั้งแต่ปี 2525 สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาอย่างต่อเนื่อง
  • มี 2 จังหวัดที่ตั้งอยู่: กรุงเทพฯ (วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม และ วิชัยเวช แยกไฟฉาย) และ สมุทรสาคร (วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย และ วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

  • โครงการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่บนพื้นที่ 19 ไร่ ริมถนนบรมราชชนนี คาดหวังเป็น New S Curve ของกลุ่มโรงพยาบาล ลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท
  • ความคืบหน้าโครงการ: อยู่ระหว่างกระบวนการ EIA ซึ่งมีความล่าช้า แต่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปี 2570
  • การเลื่อนเปิดโครงการมีข้อดี: ฝ่ายบริหารมีเวลาเตรียมการมากขึ้น, บริหาร Cash Flow ได้ดีขึ้น, และประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจได้แม่นยำขึ้น
  • คลินิกเฉพาะทาง: ศูนย์ Elite Vision เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2567 เติบโตอย่างน่าสนใจ, คลินิกมะเร็งเติบโตดี, ศูนย์ AVIC รังสีร่วมรักษาตอบสนองกับคลินิกเฉพาะทางหลายแห่ง

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

  • ความเสี่ยง: ความล่าช้าในกระบวนการ EIA ของโครงการโรงพยาบาลแห่งใหม่
  • ผลกระทบ: อาจมีการเลื่อนแผนการเปิดให้บริการ
  • บางคลินิกอาจมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและบริบทต่างๆ เช่น คลินิกกุมารและคลินิกผิวหนัง
  • ผลกระทบจากเกณฑ์ DRG ในการเบิกจ่ายของภาครัฐที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลต่อรายได้จากศูนย์หัวใจ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

  • การปรับแผน: ใช้เวลาที่ได้จากการเลื่อนเปิดโครงการในการเตรียมความพร้อมและประเมินสถานการณ์
  • การบริหารจัดการ: ควบคุมต้นทุน, สร้างรายได้จากหลายแหล่ง, และเน้นการให้บริการเฉพาะทางที่มีความต้องการสูง
  • การแก้ไขปัญหาศูนย์หัวใจ: พยายามหาคนไข้ทั่วไปมาทดแทนคนไข้ที่ลดลงจากผลกระทบของเกณฑ์ DRG

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

  • คาดการณ์แนวโน้ม: Q4/2568 น่าสนใจเนื่องจากโรคระบาดยังคงต่อเนื่องและมีการเปิดศูนย์บริการเฉพาะทางใหม่ๆ
  • วิสัยทัศน์: มุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร
  • เป้าหมาย: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42:54]

  1. แผนการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่
    • คำถาม: แผนการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ถึงขั้นตอนไหนแล้ว และคาดว่าจะเปิดบริการช่วงไหน?
    • คำตอบ: ปัจจุบันความเจริญเติบโตมาทางแถบที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury หลายโครงการมาเปิดเพิ่ม โครงการอยู่ระหว่างกระบวนการ EIA คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปี 2570
  2. แนวโน้มไตรมาส 4
    • คำถาม: แนวโน้มไตรมาส 4 ของปีนี้จะเป็นอย่างไร?
    • คำตอบ: Q3 คือ Highlight แต่ Q4 ปีนี้น่าสนใจเพราะโรคระบาดไม่จบแค่ Q3 และมีการเปิดศูนย์บริการใหม่ๆ ต้องติดตามดูผลการดำเนินงานต่อไป
  3. การเติบโตของ VIH
    • คำถาม: VIH สามารถเติบโตได้ดีอย่างไรในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี?
    • คำตอบ: มาจากกลยุทธ์การมีแหล่งรายได้หลายแหล่ง, การเติบโตของเมืองที่ขยายมาสู่จุดที่ตั้งของโรงพยาบาล, และการเปิดศูนย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ
  4. แผนการเติบโตปีหน้า
    • คำถาม: ปีหน้าจะสามารถเติบโตต่อจากปีนี้ได้อีกหรือไม่ และมีแผนอย่างไร?
    • คำตอบ: เป็น Organic Growth โดยใส่ Intervention หลายอย่างเข้าไป เช่น การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มแหล่งรายได้จาก Product ใหม่ๆ
  5. ภาวะการตรวจสุขภาพ
    • คำถาม: ภาวะการตรวจสุขภาพในปลายปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วหรือไม่ ทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว?
    • คำตอบ: ตัวเลขของ MMU เติบโตดี ส่วนใหญ่มาจากแรงงานไทย แรงงานต่างด้าวมีผลกระทบจากปัญหาในประเทศเพื่อนบ้าน
  6. การดึงคนไข้ต่างชาติ
    • คำถาม: มีแผนการดึงคนไข้ต่างชาติมาเป็นลูกค้าหรือไม่ ทั้ง CLMV, จีน, และชาติอาหรับ?
    • คำตอบ: เคยทำในอดีตแต่ไม่ได้เน้นมากนัก ค่อนข้างระมัดระวังเพราะค่าใช้จ่ายทางการตลาดสูง เน้นให้บริการคนไทยก่อน ในอนาคตคงมีโครงการแต่ต้องพิจารณาความคุ้มค่าและจุดแข็งในการแข่งขัน
  7. ผลกระทบจากโครงการก่อสร้าง
    • คำถาม: ปัจจุบันมีคนไข้ที่เดินทางมาจากช่วงนครปฐม, ราชบุรี, กาญจนบุรี, สุพรรณบุรี มากน้อยอย่างไร เพราะการก่อสร้างสะพานข้ามแยกจะทำให้การสัญจรมายากขึ้น?
    • คำตอบ: อาจมีผลกระทบบ้าง แต่เนื่องจากโรงพยาบาลทางฝั่งด้านโน้นมีแต่โรงพยาบาลภาครัฐ คิดว่าผลกระทบต่อรายได้ไม่มากนัก
  8. แผนการลงทุน
    • คำถาม: ปีนี้และปีหน้าจะมีการลงทุนอะไรเป็นหลักบ้าง และงบประมาณเท่าไหร่?
    • คำตอบ: การลงทุนต้องมีแน่นอน โดยเฉพาะการเพิ่มศูนย์เฉพาะทาง แต่รายละเอียดอาจจะยังพูดมากไม่ได้
  9. อัตราการจ่ายเงินปันผล
    • คำถาม: โครงการใหม่ล่าช้า จะมีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลหรือไม่?
    • คำตอบ: คงต้องระมัดระวังในการใช้กระแสเงินสดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยังมีการขยายตัวและมีแผนในการขยายตัวอีกหลายเรื่อง จึงต้องเรียนให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจว่าฝ่ายบริหารตั้งใจจะขยายงานและทำให้องค์กรมีความแข็งแกร่งในระยะยาว
  10. ผลกระทบจากการควบคุมราคายา
    • คำถาม: คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อบริษัทจากการควบคุมราคายาของรัฐบาล?
    • คำตอบ: คิดว่ามีผลน้อย เพราะมีการควบคุมมา 4-5 ปีแล้ว และการเปิดเผยราคายาเป็นเรื่องที่ถูกบังคับจากภาครัฐอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ก็คงไม่ได้ต้องการเพียงแค่ให้แพทย์สั่งยา เพราะการใช้ยาจากโรงพยาบาลก็มีความอุ่นใจมากกว่า

  11. คำถามที่ถามโดยนักลงทุนและผู้บริหารตอบ
    • แผนการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ (นาทีที่ 42:54)
    • แนวโน้มไตรมาส 4 (นาทีที่ 43:48)
    • การเติบโตของ VIH (นาทีที่ 44:21)
    • แผนการเติบโตปีหน้า (นาทีที่ 45:10)
    • ภาวะการตรวจสุขภาพ (นาทีที่ 45:40)
    • การดึงคนไข้ต่างชาติ (นาทีที่ 46:37)
    • ผลกระทบจากโครงการก่อสร้าง (นาทีที่ 47:50)
    • แผนการลงทุน (นาทีที่ 48:58)
    • อัตราการจ่ายเงินปันผล (นาทีที่ 49:15)
    • ผลกระทบจากการควบคุมราคายา (นาทีที่ 50:13)

    โดยสรุป VIH ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากหลายด้าน ทั้งการขยายธุรกิจ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการติดตามและบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้