สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI: ไตรมาส 2 ปี 2567/68

บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI มีผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567/68 ที่น่าสนใจ โดยมีรายได้จากการให้บริการและการขายรวม 1,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการเติบโตของรายได้ในทุกธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการทางดิจิทัล และธุรกิจการจัดจำหน่าย บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 413 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 30.8 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26.6 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 78 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.8

**การวิเคราะห์ผลประกอบการ (ไตรมาส 2 ปี 2567/68 เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566/67)**

* รายได้จากการให้บริการและการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7 โดยธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล และธุรกิจการจัดจำหน่าย มีสัดส่วนรายได้ทีร้อยละ 45.1 ร้อยละ 30.8 และร้อยละ 24.1 ของรายได้จากการให้บริการและการขายตามลำดับ
* ธุรกิจสื่อโฆษณามีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน มีอัตราการใช้สื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.1
* ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 โดยหลักจาก RABBIT CASH มีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น ตามการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้จากค่าคอมมิชชันจากการขายประกันภัยและรายได้จากบริการอื่นๆ ที่เติบโตขึ้น
* ธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 โดยหลักๆ มาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจค้าปลีกภายใต้ TURTLE ณ สินกันยายน 2567 มีจำนวนร้าน โนพไอ ทั้งสิ้น 26 ร้าน เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 15 ร้าน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
* ต้นทุนในการให้บริการและการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 แต่อัตราต้นทุนต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 69.2 จากร้อยละ 73.4 ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักจากธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI มีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น RABBIT CASH มีการปล่อยสินเชื่อที่มากขึ้น และ โนพไอ มีการเปิดร้านเพิ่มขึ้น ทําให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ส่งผลให้อัตรากำไรขึ้นต้นเพิ่มไปอยู่ที่ร้อยละ 30.8 จากร้อยละ 26.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
* รายได้อื่นลดลงร้อยละ 90.1 เนื่องจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด จำนวน 537 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกิดเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 2 2566/67
* ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารค่อนข้างคงที่ โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรลดลง แต่การลดลงดังกล่าวถูกหักลบด้วยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการขยายจำนวนร้านค้า โนพไอ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 39.1 จากร้อยละ 49.6 ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
* ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นร้อยละ 164.7 จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของการร่วมค้าและบริษัทร่วม อาทิ บีทีเอส และบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
* บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิที่ 78 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.8

**ฐานะทางการเงิน**

* ณวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 28,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 725 ล้านบาท จาก 28,109 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
* สินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 460 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด เงินฝากธนาคารที่มีข้อจำกัดการใช้ และสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น และการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับ
* สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 265 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น สินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียนอื่น และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
* ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น ลดลง 216 ล้านบาท
* หนี้สินรวมจำนวน 3,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 750 ล้านบาท จาก 2,975 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับล่วงหน้าอื่น
* ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมจำนวน 25,109 ล้านบาท ลดลง 26 ล้านบาท จาก 25,134 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

**สภาพคล่องและกระแสเงินสด**

* สําหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน 187 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 428 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการขายเงินลงทุนในตราสารทางการเงินสุทธิ 617 ล้านบาท
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงินมีจํานวน 120 ล้านบาท มีสาเหตุหลักจากเงินสดรับจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุมในการออกหุ้นสามัญของบริษัทย่อย
* ส่งผลให้เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น 735 ล้านบาท จาก 2,877 ล้านบาท ณ 31 มีนาคม 2567 เป็น 3,618 ล้านบาท ณ 30 กันยายน 2567

**อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ**

* อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร: กำไรขั้นต้นร้อยละ 30.8, กำไรสุทธิร้อยละ 5.6
* อัตราส่วนแสดงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน: ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ร้อยละ -10.2, ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ถาวรร้อยละ -174.1
* อัตราส่วนสภาพคล่อง: สภาพคล่อง (เท่า) 3.3, การหมุนเวียนลูกหนี้การค้า (เท่า) 4.8, ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย 76.6 วัน
* อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้: หนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 0.1, เงินกู้ยืมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 0.0

**มุมมองของผู้บริหารต่อการดำเนินงานในอนาคต**

* แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.7 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ
* บริษัทฯ จะมีเงินสดเพิ่มเติมจำนวน 15,399.4 ล้านบาท ภายหลังการขายหุ้นสามัญของ บีทีเอส และการเพิ่มทุน
* บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมสำหรับการลงทุนในธุรกิจธนาคารไร้สาขา ขยายธุรกิจเดิม และสามารถรองรับโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

**วิเคราะห์โอกาสการลงทุน**

VGI เป็นบริษัทที่มีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวรอการเติบโต โดยเฉพาะนักลงทุนที่มองหาบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความเสี่ยงของ VGI อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

**โอกาส**

* การลงทุนในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา มีโอกาสเติบโตสูง
* การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ
* การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ
* การเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

**ความเสี่ยง**

* การแข่งขันในตลาดสูง
* ความผันผวนของเศรษฐกิจ
* ความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจใหม่
* การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค

**ข้อสังเกต**

* VGI มี D/E ต่ำกว่า 1 ซึ่งสะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น
* VGI มี P/E มากกว่า 35 ซึ่งบ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการในอนาคตของบริษัทฯ
* VGI มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน "ติดลบ" ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ แต่ในอนาคต VGI อาจมีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนเหล่านี้ได้
* YIELD นั้น ต่ำกว่า 4% ซึ่งอาจไม่น่าสนใจนักสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล
* วงจรเงินสดของ VGI “ยิ่งน้อยหรือติดลบ ยิ่งดี” เพราะสะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ ทำให้มีเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ เช่น การลงทุน การจ่ายเงินปันผล การจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น

**สรุป**

VGI เป็นบริษัทที่มีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวรอการเติบโต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความเสี่ยงของ VGI อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน