สรุปงบล่าสุด UV

บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**บทสรุปผลประกอบการบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) (UV) ปี 2567**
ในไตรมาส 4 ของปี 2567 บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างสมดุลในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนของบริษัทฯ แม้ว่าในภาพรวมรายได้จากการขาย บริการ และให้เช่าจะปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 15,629.4 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ธุรกิจพลังงานที่ปรับลดลงเนื่องจากราคาค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าผันแปรลดลง แต่บริษัทฯ ก็ได้รับแรงหนุนจากรายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด รวมถึงธุรกิจบริการติดตั้งระบบต่างๆ ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของงบการเงิน กำไรสุทธิของปี 2567 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 22.18 ล้านบาทเมื่อเทียบกับ 515.83 ล้านบาทในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากในปีก่อนหน้ามีกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของบริษัทร่วมสุทธิจากภาษีเงินได้จำนวนมาก แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวได้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 16% จาก 14% ในปีก่อนหน้า
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัท UV ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจด้านพลังงาน ทั้งจากรายได้จากการขายไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์และสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพของกิจการที่ลงทุน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนพลังงานและจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความเสี่ยงทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ให้ตัวเลขคาดการณ์รายได้หรือยอดขายที่ชัดเจน แต่จากแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจพลังงานและอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
การวิเคราะห์ผลประกอบการของ UV ในปี 2567 ชี้ให้เห็นถึงภาพของบริษัทที่กำลังเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมั่นคง แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หากพิจารณาในรายละเอียด จะพบว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติยังคงเติบโตได้เล็กน้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธุรกิจหลักของ UV ยังคงมีความแข็งแกร่ง การที่บริษัทฯ มี D/E ratio ที่ 1.62 เท่า แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีการใช้เงินทุนจากหนี้สินในระดับที่สูง ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ แต่หากพิจารณาในมุมกลับกัน หากบริษัทต้องการขยายขนาดกิจการ การมีหนี้สินที่ต่ำ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น ในส่วนของอัตราส่วนทางการเงินอื่น ๆ พบว่า P/E ratio ล่าสุดสูงถึง 114.63 เท่า สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความคาดหวังต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคตอยู่ในระดับสูง แต่ขณะเดียวกัน P/BV ratio ที่ 0.23 เท่า แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นของบริษัทฯ อาจต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ส่วน YIELD ที่ 6.77% ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความผันผวนของราคาหุ้น UV ในอดีต โดยราคาหุ้นเฉลี่ยในไตรมาส 4 ของปี 2567 อยู่ที่ 1.67 บาท ซึ่งลดลงจาก 2.14 บาทในไตรมาส 4 ของปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2567 จะอยู่ที่ 3,722.72 ล้านบาท แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบที่ -83.26 ล้านบาท แสดงว่าบริษัทฯ ยังคงนำเงินสดไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ตาม วงจรเงินสดของบริษัทฯ ที่ติดลบ แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสดได้ดี สำหรับโอกาสการลงทุนนั้น บริษัทฯ มีความเสี่ยงที่ราคาพลังงานและราคาขายสังกะสีจะผันผวนตามตลาดโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีโอกาสที่จะเติบโตในธุรกิจพลังงานทางเลือก ซึ่งสอดคล้องกับกระแสการรักษาสิ่งแวดล้อมและความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น หุ้น UV อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือลงทุนระยะยาว มองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจพลังงานทางเลือก และสามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้
**โอกาส**
* การเติบโตของธุรกิจพลังงานทางเลือก
* การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์
* การปรับตัวลดลงของอัตราดอกเบี้ย
**ความเสี่ยง**
* ความผันผวนของราคาพลังงานและวัตถุดิบ
* การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น
* ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
(108.08%)
(10.70%)
(96.69%)
(2.67%)
(5.46%)
(9.03%)
(101.86%)
(35.35%)
(94.56%)
(98.48%)
(3.65%)
(1.19%)