สรุป OPPDAY หุ้น UREKA
Oppday
สรุป OPPDAY
UREKA โชว์ผลงานปี 2568 ไตรมาส 3: ธุรกิจน้ำประปาและพลาสติกรีไซเคิลแข็งแกร่ง
สวัสดีครับ ผมนายปิยะพจน์ แก้วจำลอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) วันนี้จะมาให้ข้อมูลของบริษัท
คำชี้แจงเบื้องต้น: ข้อมูลในเอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเสนอขายหรือเชิญชวนให้ซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ในทุกเขตอำนาจศาล และไม่ควรถูกนำไปใช้ทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจลงทุน เอกสารนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) โดยข้อมูลที่ปรากฏยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบหรือรับรองโดยหน่วยงานอิสระ บริษัทและที่ปรึกษา รวมถึงตัวแทนหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ขอรับรองหรือรับประกันไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเกี่ยวกับความถูกต้องครบถ้วน หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารนี้ ทั้งนี้บุคคลและบริษัทดังกล่าวจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลในเอกสารนี้ไปใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรนำไปใช้เป็นพื้นฐานโดยตรงหรือโดยอ้อมในการตัดสินใจลงทุน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด เอกสารฉบับนี้รวมถึงข้อมูลเอกสารหรือสื่อประกอบใดๆ ที่จัดทำขึ้นในลักษณะเดียวกัน ห้ามมิให้ทำซ้ำ เผยแพร่ หรือส่งต่อให้บุคคลภายนอก เว้นแต่จะเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และควรลงทุนเฉพาะเมื่อการตัดสินใจนั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของตนเอง โดยต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และทราบว่าผลตอบแทนอาจมากหรือน้อยกว่ามูลค่าเงินลงทุนที่เริ่มต้นได้
หัวข้อนำเสนอ
- ข้อมูลของบริษัท
- รายละเอียดงบการเงินที่ผ่านมา
- วิเคราะห์งบการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3 สำหรับงวด 9 เดือน
- ESG Highlight
ข้อมูลบริษัท
บริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 โดยเริ่มต้นธุรกิจจากการออกแบบและผลิตเครื่องจักรสำหรับภาคอุตสาหกรรม ต่อมาในปี พ.ศ. 2562 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์สู่การกระจายการลงทุน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และพัฒนาองค์กรสู่การเป็น Strategic Operating Group ที่บริหารทั้งการดำเนินงานและการลงทุนเชิงธุรกิจภายในเครือ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาและน้ำดิบ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกรีไซเคิล
โครงสร้างธุรกิจ: บริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในบริษัท โมเดิร์น ซินเนอร์จี จำกัด จำนวน 99.79% และถือหุ้นในบริษัท APW International จำกัด จำนวน 100%
ธุรกิจหลัก
- ธุรกิจสาธารณูปโภค: ลงทุนผ่านบริษัท โมเดิร์น ซินเนอร์จี จำกัด ธุรกิจหลักคือ การจัดหา การผลิต และการจำหน่ายน้ำดิบและน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค วันที่เริ่มต้นทางธุรกิจคือ 1 กรกฎาคม 2562 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 645,252,000 บาท กำลังการผลิต 10,950,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ตลาดคือตลาดภายในประเทศ
พันธกิจหลัก: ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำใช้และปัญหาอุทกภัย
วิสัยทัศน์และพันธกิจ: มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงในการบริหารจัดการน้ำ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผนึกกำลังในการรักษาศิลภาพ และส่งเสริมความยั่งยืนในการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว
- การบริหารจัดการน้ำดิบให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้น้ำ
- พร้อมทั้งให้ความร่วมมือในการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำ และควบคุมวิธีการจัดสรรน้ำอย่างต่อเนื่อง
- บริการจัดสรรน้ำประปาและน้ำอุตสาหกรรมผ่านระบบผลิตน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน และมีผู้เชี่ยวชาญควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้น้ำประปาและน้ำอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพดี สะอาด และปลอดภัย
สัญญาซื้อขาย:
- สัญญาซื้อขายน้ำประปา จ่ายน้ำหนองกะขะ ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2563 ของการประปาส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 10 ปี จำนวนเงิน 521,220,000 บาท
- สัญญาซื้อขายน้ำประปา สถานีจ่ายน้ำพานทอง 10 ปี ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2563 ของการประปาส่วนภูมิภาค จำนวนเงิน 520,344,000 บาท
- ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก: ลงทุนผ่านบริษัท APW International จำกัด ธุรกิจหลัก ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกรีไซเคิล วันที่เริ่มต้น 11 กันยายน 2543 ทุนจดทะเบียน 130 ล้านบาท กำลังการผลิต 28 ล้านตันต่อปี ได้รับมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001:2015 ได้รับการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI เลขที่ 2536(5)/2554
APW: ผลิตประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกรีไซเคิล โดยดำเนินกระบวนการตั้งแต่การคัดล้าง บด จนถึงการหลอมเม็ด และการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติและมาตรฐานอุตสาหกรรม
วิสัยทัศน์: มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกและอุตสาหกรรม
เป้าหมาย:
- ส่งมอบพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงที่ตอบอุตสาหกรรมยุคใหม่
- ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
- สร้างคุณค่าร่วมกับพันธกิจ ลูกค้า และสังคมด้วยความโปร่งใสและยั่งยืน
- ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG โดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และยึดมั่นในธรรมาภิบาลที่ดี
งบการเงิน
- ผลประกอบการ: เติบโตแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจในกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รายได้เติบโตเฉลี่ย CAGR ประมาณ 29% ต่อปี ในช่วงปี 2564 ถึง 2567
- กำไรขั้นต้น: อยู่ในระดับสูงและสม่ำเสมอ Average GP margin ประมาณ 40% ต่อปี
- กลยุทธ์ธุรกิจ: ที่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2564 สามารถขยายตัวและมีความยั่งยืน
- รายได้รวม: ในไตรมาสที่ 3/2568 จำนวน 171.26 ล้านบาท ลดลง 29.92 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 15 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 201.18 ล้านบาท
รายได้หลัก: ของธุรกิจในปัจจุบันประกอบด้วยธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิล และธุรกิจผลิตจำหน่ายน้ำประปา โดยรายได้จากการผลิตและจำหน่ายพลาสติกรีไซเคิลเป็นจำนวนเงิน 85.62 ล้านบาท และรายได้จากการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ณ สถานีจ่ายน้ำพานทอง และสถานีจ่ายน้ำหนองกะขะ เป็นจำนวนเงิน 79.35 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่รายได้จากการขายและการให้บริการลดลง เกิดจากยอดขายพลาสติกรีไซเคิลมีการชะลอตัว เมื่อเทียบกับปริมาณการสั่งซื้อของปีที่แล้ว และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม อีกทั้งปริมาณการขายและราคาขายค่อนข้างผันผวน ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต และราคาของวัตถุดิบที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับบริษัทมีต้นทุนขายและการให้บริการในไตรมาสที่ 3/2568 จำนวน
- ต้นทุนขายและบริการ: สำหรับไตรมาสที่ 3/2568 จำนวน 116.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.59 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน 115.34 ล้านบาท สาเหตุจากต้นทุนขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายพลาสติกที่ลดลง ในขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น จากการปรับตัวของราคาน้ำมันในประเทศ ที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้ว่าต้นทุนด้านพลังงานและวัตถุดิบต่อหน่วยจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทยังคงรักษาระดับอัตราต้นทุนขายต่อหน่วยได้ดี และมีแผนจะปรับปรุงประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายและการให้บริการต่อไป
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: ลดลงอย่างต่อเนื่องเนื่องจากบริษัท ยกระดับประสิทธิภาพระบบ และการบริหารงานจัดการ ทำให้โครงสร้างต้นทุนลีน และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
- ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร: สำหรับไตรมาสที่ 3/2568 เป็นจำนวนเงิน 35.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.05 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน 31.60 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเกิดจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และค่าปรับที่เกิดขึ้นจากการส่วนของการประปาส่วนภูมิภาค
- ต้นทุนทางการเงิน: ลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการปรับโครงสร้างหนี้ที่ประสบผลสำเร็จ และการลดวงเงินกู้ระยะสั้นที่มีต้นทุนสูง เป็นสัญญาณของความเสี่ยงเครดิตที่ลดลง สำหรับในงวด 9 เดือน บริษัทมีต้นทุนทางการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3/2568 จำนวน 14.22 ล้านบาท ลดลง 1.84 ล้านบาท คิดเป็นการลดลงร้อยละ 11 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 16.06 ล้านบาท สาเหตุที่ต้นทุนทางการเงินลดลง มาจากการปรับลดลงของต้นทุนเงินกู้ยืมจากธนาคาร
- กำไร: เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2565 และยังสามารถรักษากำไรไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แม้บริษัทจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากปัจจัยภายนอก และพร้อมฟื้นตัวทันทีเมื่อภาวะเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น
- กำไรสุทธิ: สำหรับงวด 9 เดือนในไตรมาสที่ 3/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิระดับไตรมาส 3.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2 โดยเมื่อพิจารณาผลการดำเนินงาน โดยไม่เป็นโดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นตัวเงิน จะทำให้ EBITDA ของบริษัทอยู่ที่ 18.68 ล้านบาท สำหรับไตรมาสที่ 3/2567 มีกำไร ทรัพย์ไตรมาสจำนวน 37.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นตาม 19 โดยเมื่อพิจารณาผลการดำเนินงาน โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นตัวเงิน จะทำให้ EBITDA ของบริษัทอยู่ที่ 54.24 ล้านบาท
- ทรัพย์สิน: มีการขยายตัวของทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และมีศิลภาพในระยะยาว โดยเป็นการลงทุนในทรัพย์สินที่สร้างประโยชน์ทางธุรกิจ สอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจน้ำ และโครงการใหม่ๆ โดยใน ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีทรัพย์สินรวมจำนวน 1,881.62 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินหมุนเวียนจำนวน 220.37 ล้านบาท ซึ่งส่วนประกอบหลักได้แก่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 37.41 ล้านบาท ลูกหนี้ ค้างรับ รายได้ค้างรับ และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆ จำนวน 131.97 ล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 1,661.25 ล้านบาท ซึ่งส่วนประกอบหลักได้แก่ ที่ดิน อาคารอุปกรณ์จำนวน 1,321.76 ล้านบาท มีทรัพย์สินรวมเพิ่มขึ้นจำนวน 12.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้และรายได้ค้างรับ
- หนี้สิน: หมุนเวียนคงที่ในระดับปลอดภัย ไม่มีสัญญาณหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่าหนี้สินรวมไม่ได้เพิ่มขึ้น แม้ธุรกิจและสินทรัพย์เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยสำหรับหนี้สินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 324.34 ล้านบาท ลดลง 45.34 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12 จากหนี้สิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 369.68 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินลดลง
- ส่วนของผู้ถือหุ้น: ในรอบ 4 ปี สะท้อนโครงสร้างเงินลงทุนแข็งมาก บริษัทสะสมกำไรไว้ โดยมีการเพิ่มทุน และการขยายกิจการ ทำให้ขณะการ ฐานะของผู้ถือหุ้นแข็งแรง สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เนื่องจากผลการดำเนินงานมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีกำไรสะสม ณ 30 กันยายน 2568 จำนวน 137.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.65 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ 31 ธันวาคม 2567 ที่มีผลกำไรสะสมอยู่ที่ 136.14 ล้านบาท
- D/E Ratio: ต่ำมากที่ 0.23
องค์ประกอบภาพรวม
- สถานะทางการเงินแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง Equity เพิ่มขึ้นจาก 762 ล้านบาท เป็น 1,523 ล้านบาทภายใน 4 ปี สะท้อนศักยภาพการทำกำไรและความสามารถในการสะสมทุน DE Ratio อยู่ในระดับที่ต่ำมาก 0.23 ซึ่งเป็นระดับที่สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ และรองรับการเติบโตในอนาคตได้ดี
- ภาระหนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ภาระหนี้รวมทรงตัวอยู่ในกรอบ 330-360 ล้านบาท แม้ทรัพย์สินจะโตบวกถึง 72% ไม่มีภาระหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง และไม่มีรายการผิดนัดชำระ
- คุณภาพของทรัพย์สินและเงินลง และเงินทุน สินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ได้จริง เช่น บ่อกักเก็บน้ำ โรงผลิตน้ำ และเครื่องจักร
- ต้นทุนทางการเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง ลดจาก 38 ล้าน เหลือ 22 ล้าน หรือ 20 ล้าน และ 14 ล้าน ในปัจจุบัน สะท้อนการบริหารโครงสร้างหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์หนี้คืนอย่างต่อเนื่อง
- ผลการดำเนินงานมีเสถียรภาพ กำไรจากการดำเนินงาน ยังสามารถครอบคลุมการจ่ายดอกเบี้ยได้อย่างมั่นคง สะท้อนความแข็งแรงของโครงสร้างรายได้ และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
- ความเสี่ยงเครดิตโดยรวมอยู่ในระดับต่ำ ดอกเบี้ยลดลงอย่างต่อเนื่อง ระดับหนี้ต่ำ และความสามารถในการชำระหนี้มั่นคง ไม่มีสัญญาณลดลงเชิงโครงสร้างด้านกำไรหรือด้านศักยภาพในการดำเนินงาน
ESG Highlight
- E (Environment): สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยผ่านทาง RPTE/RPE ลดปริมาณพลาสติกลงสู่สิ่งแวดล้อมผ่านการรีไซเคิลเชิงคุณภาพ ยกระดับระบบควบคุมคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ปฏิบัติการให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
- S (Social): ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในการทำงาน ส่งเสริมการจ้างงานในชุมชนเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้เศรษฐกิจท้องถิ่น ผลิตและส่งมอบน้ำประปาคุณภาพสูง ช่วยส่งเสริมสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้บริการ
- G (Governance): ดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานเชิงรุก ดำเนินนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันตามกรอบของ CAC พร้อมแนวปฏิบัติชัดเจนและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
ยูเรก้าและบริษัทในเครือยังคงแสดงจุดแข็งทางด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านของรายได้ กำไรขั้นต้น กระแสเงินสด และฐานะทางการเงิน สะท้อนความสามารถในการสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน ธุรกิจหลักทั้งธุรกิจน้ำประปาและเม็ดพลาสติกรีไซเคิล มี Demand ต่อเนื่อง ให้รายได้คุณภาพดี อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 40% และกำไรจากการดำเนินงานที่ครอบคลุมภาระดอกเบี้ยได้อย่างมั่นคง จุดแข็งของบริษัทมีอยู่ทั้งหมด 5 ด้าน คือ ฐานะทางการเงินแข็งแรง ระดับหนี้ต่ำ และการบริหารจัดการที่ดี ต้นทุนดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง การดำเนินงานมีศิลภาพแม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน มีศักยภาพรองรับการเติบโตของธุรกิจน้ำ และรีไซเคิลและพลาสติกรีไซเคิลในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจากที่กล่าวมาทั้งหมด ด้วยพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแรง โครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และธุรกิจที่มี Demand รองรับอย่างต่อเนื่อง ยูเรก้าจึงอยู่ในสถานะที่มั่นคง โปร่งใส และพร้อมเติบโต โดยมีความสามารถสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว พร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม
สรุป
ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2568 โดยเฉพาะในธุรกิจน้ำประปาและเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งมี Demand ต่อเนื่องและมีศักยภาพในการเติบโตสูง บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีโครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาลที่ดี ทำให้มีความพร้อมที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
Q&A Session [เริ่มในนาทีที่ 40:44]
Q: ทิศทางและแนวโน้มของธุรกิจในปี 2569
A:
- ธุรกิจน้ำประปา: คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายฐานลูกค้าและการเพิ่มปริมาณการผลิต
- ธุรกิจพลาสติกรีไซเคิล: มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
- บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุน
Q: แผนการลงทุนในอนาคต
A:
- บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำและพลาสติกรีไซเคิล
- การลงทุนจะเน้นไปที่โครงการที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดี
- บริษัทจะพิจารณาการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต
Q: ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ
A:
- ความเสี่ยง: ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ การแข่งขันในตลาด และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ
- โอกาส: การเติบโตของเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของความต้องการน้ำและพลาสติกรีไซเคิล และการสนับสนุนจากภาครัฐ
Q: นโยบายการจ่ายเงินปันผล
A:
- บริษัทยังคงมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
- อัตราการจ่ายเงินปันผลจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดของบริษัท
- บริษัทจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลพิเศษหากมีกำไรสะสมมาก
Q: ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
A:
- สถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบต่อธุรกิจบ้างเล็กน้อย แต่บริษัทสามารถปรับตัวได้ดี
- ธุรกิจน้ำประปายังคงมีความต้องการสูงเนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็น
- ธุรกิจพลาสติกรีไซเคิลได้รับผลกระทบบ้างจากปัญหาการขนส่งและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
Q: กลยุทธ์ในการรับมือกับการแข่งขัน
A:
- บริษัทมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพสินค้าและบริการ
- การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและคู่ค้า
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ