สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ มีผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 40.09 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 22.40 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการเติบโตอย่างโดดเด่นถึง 78.97% โดยสาเหตุหลักมาจากบริษัทมีโครงการที่มีลักษณะการทำงานคล้ายคลึงกัน ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการทรัพยากรและเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ราคาวัสดุก่อสร้างบางส่วนปรับตัวลดลงเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และลดต้นทุนในด้านต่าง ๆ

แผนธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคตมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุน บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2568 จากการรับรู้รายได้จากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการและโครงการใหม่ๆ ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด บริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน อัตราส่วนทางการเงิน เช่น P/E 17.26 และ P/BV 0.31 สะท้อนถึงความคาดหวังในอนาคตของนักลงทุนที่ไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ตาม YIELD 2.14% อาจไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นรับเงินปันผล ในขณะที่ D/E 4.55 บ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง สิ่งสำคัญคือ บริษัทฯ มีวงจรเงินสด 125.07 วัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกระแสเงินสดที่ยังไม่ดีนัก นอกจากนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ สะท้อนถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานก็ติดลบ สะท้อนถึงการบริหารจัดการกระแสเงินสดที่ยังต้องปรับปรุง โดยรวม UNIQ อาจเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ โดยการลงทุนระยะยาว เน้นการเติบโตของกำไรในอนาคต และติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด

**โอกาส**
* บริษัทฯ มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่าจะได้รับโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมในอนาคต
* ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว และคาดว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
* บริษัทฯ มีแผนพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุน

**ความเสี่ยง**
* ภาระหนี้สินที่สูงอาจส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร
* วงจรเงินสดที่ยาว สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกระแสเงินสดที่ยังไม่ดีนัก
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างสูง
* ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น