สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (UBE): ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (UBE) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 1,580.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.6 ล้านบาท (+26.2% YoY) จากธุรกิจเอทานอลและแป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก อัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวทั้งธุรกิจเอทานอลและแป้งมันสำปะหลัง ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 42.1 ล้านบาท ใน 2Q2567 เทียบกับขาดทุน -106.6 ล้านบาท ใน 2Q2566 (+139.4% YoY) โดยมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.011 บาท/หุ้น ส่วนในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 3,470.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 718.7 ล้านบาท (+26.1% YoY) และมีกำไรสุทธิ 149.7 ล้านบาท ใน 1H2567 เทียบกับขาดทุน -132.8 ล้านบาท ใน 1H2566 (+212.7% YoY) โดยมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.038 บาท/หุ้น

UBE วางแผนที่จะขยายธุรกิจและยกระดับความยั่งยืนโดยการมุ่งเน้นการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมด้วยงานวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตร เพื่อให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน UBE ตั้งเป้ารายได้และยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยเฉพาะการเพิ่มยอดขายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงและแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง

การฟื้นตัวของกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2567 สะท้อนถึงความสามารถของ UBE ในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการผลิต อัตราส่วนทางการเงินย้อนหลังแสดงให้เห็นว่า UBE มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E ต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีหนี้สินต่ำและมีศักยภาพในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ P/E ที่ 85.27 และ P/BV ที่ 0.54 แสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนต่อ UBE ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฉลี่ยของ UBE ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นผลมาจากผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา และ YIELD ที่ 1.93% ถือว่าไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล

**โอกาส:**

- **การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเอทานอลและแป้งมันสำปะหลัง:** ความต้องการเอทานอลและแป้งมันสำปะหลังในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว ทำให้ UBE มีโอกาสในการขยายตลาดและเพิ่มยอดขาย
- **การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน:** UBE มุ่งเน้นการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทและดึงดูดนักลงทุนที่สนใจ ESG
- **ศักยภาพในการขยายธุรกิจ:** D/E ต่ำกว่า 1 ช่วยให้ UBE มีศักยภาพในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น

**ความเสี่ยง:**

- **ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ:** ราคาหัวมันสำปะหลังมีความผันผวน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของ UBE
- **การแข่งขันในตลาด:** อุตสาหกรรมเอทานอลและแป้งมันสำปะหลังมีการแข่งขันสูง ทำให้ UBE ต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดและสร้างความแตกต่าง
- **การเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ:** นโยบายของภาครัฐเกี่ยวกับพลังงานทดแทนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ UBE

โดยสรุป ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ของ UBE แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจในแง่ของศักยภาพการเติบโต แต่ควรติดตามความผันผวนของราคาวัตถุดิบและการแข่งขันในตลาดอย่างใกล้ชิด การลงทุนใน UBE อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในระยะยาว เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และยินดีรับความเสี่ยงในระดับหนึ่ง เนื่องจากผลประกอบการยังไม่เสถียร และราคาหุ้นยังมีความผันผวน