สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567

บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 7,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% จากไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.4% จากไตรมาส 3 ปี 2566 โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นจากราคาถั่วเหลืองวัตถุดิบหลักที่ลดลง นอกจากนี้บริษัทยังมีการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพ

แผนธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดส่งออกไปยังฮ่องกงและเกาหลีใต้ ซึ่งมีความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มกำไร รวมถึงการมุ่งเน้นการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ โดยบริษัทฯ ได้รับคะแนนประเมินบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 4 วัฒนธรรมสีเขียว จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม

จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มี P/E เท่ากับ 14.73 P/BV เท่ากับ 2.03 และ YIELD เท่ากับ 3.43 ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับปานกลาง โดยราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 22.04 บริษัทฯ มี D/E เท่ากับ 0.25 ซึ่งบ่งบอกถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง การที่บริษัทฯ มี D/E ต่ำ แสดงถึงความสามารถในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายกิจการในอนาคต ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจ บริษัทฯ ยังมีวงจรเงินสด 69.53 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ การที่บริษัทฯ มีวงจรเงินสดที่ต่ำ แสดงถึงประสิทธิภาพในการจัดการกระแสเงินสด เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2567 อยู่ที่ 1,286.09 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนอยู่ที่ -296.52 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

โดยรวมแล้ว บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีความมั่นคงทางการเงิน โดยบริษัทฯ มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน และมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

**โอกาส:**

- การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริหารจัดการ
- การมุ่งเน้นการพัฒนาความยั่งยืน
- การมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง

**ความเสี่ยง:**

- ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
- การแข่งขันในอุตสาหกรรม
- ความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ