สรุป OPPDAY หุ้น TRP

บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday Aesthetic Connect (TRP): เปิดแผนปี 68 ขยายฐาน, เน้น Dr. Branding, สู้ศึกตลาดศัลยกรรม
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):ผลประกอบการปี 67 พบว่ารายได้ลดลง 19% เมื่อเทียบกับปี 66 ใน Q4 เดียวกัน และ Gross Profit ลดลง 22% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าเสื่อมราคาและ Staff Cost ที่ยังคงที่ แม้รายได้จะลดลง ส่งผลให้ Gross Profit Margin เหลือ 52% อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร (SG&A) ได้ โดย Net Profit อยู่ที่ 32 ล้านบาท คิดเป็น 23.69% ของรายได้
เมื่อเทียบ Year-on-Year รายได้ลดลง 24.61% และรายได้รวมลดลง 22% แม้จะมีรายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น Gross Profit อยู่ที่ 281 ล้านบาท ลดลง 27% เนื่องจาก Staff Cost และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น Gross Profit Margin ลดลงจาก 54% เหลือ 52% Net Profit อยู่ที่ 139 ล้านบาท คิดเป็น 25%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดกัมพูชา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและชำนาญ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่มีอายุน้อยลง โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมและดึงดูดใจ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปิดโรงพยาบาลใหม่ในไตรมาส 2 ของปี 68
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):ความเสี่ยงหลักที่บริษัทเผชิญคือ Face Lock หรือการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดศัลยกรรม ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดลดลง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นจากการปรับฐานเงินเดือน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่กลับมาเป็นปกติ เช่น ภาษี ทำให้รายได้สุทธิลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):บริษัทใช้กลยุทธ์ Cross-sell และ Up-sell เพื่อเพิ่ม Billing Size โดยเน้นการทำศัลยกรรมตาและจมูก รวมถึง After Surgery เช่น Fat Stem Cell และ Autologous Fat Graft นอกจากนี้ ยังมีการทำ CSR และ Doctor Branding เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้า รวมถึงการขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพื่อลดผลกระทบจากตลาดในประเทศที่อาจมีข้อจำกัด
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการใช้ KLO, Influencer และ Celebrity เพื่อกระตุ้นตลาดและสร้างความน่าสนใจ รวมถึงการใช้ Pricing Strategy ที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่ม Price Sensitive นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนา Customer Retention โดยใช้ Data Analysis เพื่อ Retargeting และ Resell รวมถึงการ Update New Product ที่ลูกค้าอาจสะดวกในการซื้อมากขึ้น
บริษัทตั้งใจที่จะทำ Value-Based Marketing เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ และเน้นการสื่อสารผลลัพธ์ที่ดี หมอเก่ง และดารามาทำเยอะ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะทำ Brand Awareness Strategy โดยเข้าไปมีส่วนร่วมกับการจัดอันดับทีมแพทย์ เพื่อให้ตลาดรับรู้ว่ามีหมอที่เก่ง และให้หมอมี Channel ของตัวเอง รวมถึงสื่อที่ระบุชื่อหมอที่ชัดเจน
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่นาที 58:53หัวข้อคำถามและคำตอบ:
- การซื้อหุ้นคืน:
- คำถาม: คาดว่าจะซื้อหุ้นคืนจนครบวงเงินทันกำหนดหรือไม่?
- คำตอบ: ครบกำหนด 6 เดือน คือวันที่ 2 กันยายน คิดว่าจะซื้อทันภายในกำหนด
- คำถาม: ซื้อหุ้นคืนมีเป้าหมายเพื่อดันราคาหุ้นหรือไม่?
- คำตอบ: ไม่ได้ซื้อเพื่อดันราคาหุ้น แต่มั่นใจในธุรกิจของตัวเองว่ามั่นคงแข็งแกร่ง เพื่อเป็นความมั่นใจให้แก่นักลงทุนด้วย
- ค่าเสื่อมราคา:
- คำถาม: ถ้าเปิดโรงพยาบาลใหม่แล้วค่าเสื่อมจะเป็นอย่างไร?
- คำตอบ: ค่าเสื่อมต่อปีรวมค่าน้ำเข้าไปที่เพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 20 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 1.8 ล้านบาท)
- การซื้อหุ้นคืน
- ค่าเสื่อมราคา
โดยสรุป Aesthetic Connect (TRP) มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากปี 67 โดยใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย และตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะหลังจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ รวมถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและนักลงทุน