สรุปงบล่าสุด TRP
บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรมภายใต้ชื่อ "ธีรพรคลินิก" โดยมุ่งเน้นการให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการลดลง 23.75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมถึงภาวะการแข่งขันที่สูงของอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาที่สูงขึ้น ส่งผลต่อรายได้ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทมีต้นทุนการให้บริการลดลง 21.98% เป็นไปตามการลดลงของรายได้ ทำให้กำไรขั้นต้นลดลง 25.25% นอกจากนี้ บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายลดลง 23.60% และมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 8.82% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการสรรหาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการในการร่วมลงทุน ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 10.42% โดยมีกำไรสุทธิ 38.03 ล้านบาท คิดเป็น 27.98% ของรายได้รวม
แผนธุรกิจของ TRP ในอนาคตคือการขยายสาขาเพื่อรองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันโดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการให้บริการ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยมีโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลธีรพรบนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดดำเนินการในไตรมาส 1 ปี 2568
ผลประกอบการของ TRP ในไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการดำเนินธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่บริษัทก็สามารถควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงเพียงเล็กน้อย แม้ว่า P/E อยู่ที่ 20.66 และ P/BV อยู่ที่ 1.95 บ่งบอกถึงความคาดหวังที่สูงของนักลงทุน แต่ D/E ที่ 0.07 บ่งบอกถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และยังมี Yield อยู่ที่ 4.35% ซึ่งถือว่าน่าสนใจ แต่หากพิจารณาจากราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 9.91 บาทในไตรมาส 3 และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 208.09 ล้านบาทในปี 2566 และ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนที่ -1102.96 ล้านบาท ในปี 2566 บ่งบอกถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ แต่การลงทุนในปีที่ผ่านมาอาจทำให้ผลตอบแทนในอนาคตไม่ค่อยน่าประทับใจนัก โอกาสการลงทุนใน TRP อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในระยะยาว โดยเน้นการเติบโตของบริษัทและอาจได้รับเงินปันผลในอนาคต
จากข้อมูลทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,789.84 ล้านบาท ลดลง 0.31% จากปีก่อน เนื่องจากการนำเงินไปจ่ายค่าก่อสร้างโรงพยาบาลธีรพร หนี้สินรวม 101.15 ล้านบาท ลดลง 7.45% และส่วนของผู้ถือหุ้น 1,688.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.11% จากการเพิ่มขึ้นของกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรร บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่อง 12.58 เท่า ลดลงจากปี 2566 เนื่องจากมีสินทรัพย์หมุนเวียนลดลง อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.06 เท่าเท่ากับปี 2566 อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 53.20% และ 25.60% ตามลำดับ ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรลดลง อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 15.19% และ 14.16% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีอัตราผลตอบแทนที่ดี
## โอกาสการลงทุน:
* **พื้นฐานทางการเงินแข็งแกร่ง** : D/E ที่ 0.07 บ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ ทำให้บริษัทมีโอกาสในการกู้ยืมเงินมาลงทุนขยายกิจการในอนาคตได้สูง
* **อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามมีแนวโน้มเติบโต** : ความนิยมในการทำศัลยกรรมความงามเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
* **บริษัทมีศักยภาพในการขยายสาขา** : สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้
* **มี Yield 4.35% **: ถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล
* **โรงพยาบาลธีรพรแห่งใหม่** : การเปิดดำเนินการในอนาคตอาจช่วยเพิ่มรายได้และผลกำไร
## ความเสี่ยงการลงทุน:
* **ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว** : อาจส่งผลต่อกำลังซื้อของลูกค้า
* **การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง** : อาจทำให้กำไรของบริษัทลดลง
* **ต้นทุนการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น** : อาจทำให้กำไรของบริษัทลดลง
* **ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ** : มีความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
* **ความเสี่ยงในการลงทุนของโครงการใหม่** : การลงทุนในโรงพยาบาลธีรพรแห่งใหม่ อาจไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
(6.78%)
(21.35%)
(12.45%)
(25.24%)
(5.31%)
(4.96%)
(7.09%)
(14.46%)
(49.01%)
(10.42%)
(311.83%)
(0.00%)