สรุป OPPDAY หุ้น TOG
Oppday
สรุป OPPDAY
โอเค มาเริ่มสรุป Oppday TOG ปี 2568 ไตรมาส 3 กันเลย!
TOG สรุปผลงานQ3/68: โอกาสท่ามกลางความท้าทาย, ปรับกลยุทธ์รับมือความเสี่ยง!
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2568 บริษัท TOG มีรายได้รวม 2,579 ล้านบาท ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 514 ล้านบาท ลดลง 13% และกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท ลดลง 26% โดยมี Ebitda อยู่ที่ 488 ล้านบาท ลดลง 8.4%
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) พบว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยกำไรขั้นต้นเติบโต 13.9% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกือบ 95% และ Ebitda ปรับเพิ่มขึ้นราว 26%
ถึงแม้รายได้และกำไรขั้นต้นจะยังคงอ่อนตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 19% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของผลกำไรในไตรมาสที่ 3 อย่างเด่นชัดเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):บริษัทมีเป้าหมายที่จะกระจายความสำคัญไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มเติม แทนที่จะโฟกัสไปที่กลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาเหนือเพียงอย่างเดียว
บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในแอฟริกา และจะรอประเมินผลของการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
ตลาดแคนาดามีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากการขยายสาขาของลูกค้ารายใหญ่ (Specsavers) เพิ่มเติมอีก 111 สาขา
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):ความไม่แน่นอนจากกระบวนการคิดของสหรัฐอเมริกาในเรื่องของ Reciprocal Tariff ส่งผลกระทบต่อสภาพการทำธุรกิจในอเมริกา ทำให้เกิดการชะลอตัว
การที่บริษัทคู่แข่งในจีนหันไปปล่อยสินค้าในตลาดอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐฯ ทำให้ราคาขายสินค้าโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
การแข่งขันที่รุนแรงจากจีนในตลาดเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากมี Barrier to Entry ที่ต่ำกว่าภูมิภาคอื่น
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):บริษัทพยายามที่จะ Recover ผลกระทบจาก Reciprocal Tariff และสามารถดึงผลประกอบการกลับมาได้บ้างในไตรมาสที่ 3
บริษัทมีแผนที่จะกระจายความเสี่ยงโดยการให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มขึ้น
บริษัทกำลังบริหารจัดการความเสี่ยง โดยการที่ผู้ผลิตในจีนเริ่มใช้แคมเปญ "มีโรงงานในจีนและประเทศอื่นใน Southeast Asia"
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):บริษัทคาดว่าผลกระทบจาก Reciprocal Tariff อาจมีอย่างต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่งใน 2569
บริษัทคาดการณ์รายได้ปี 2569 ใกล้เคียงปี 2568 แม้มี challenges จากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำได้ใกล้เคียงรายได้ของปีปัจจุบัน
ตลาดอังกฤษยังคงมีความสำคัญและมีแผนที่จะ develop portfolio ในส่วนนี้เพื่อเพิ่ม Value Add ทั้งในมุมมองของลูกค้าและบริษัท
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A Session นาทีที่ 21:15]โดยสรุป TOG ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกหลายด้าน แต่ก็มีโอกาสที่จะเติบโตในตลาดใหม่ๆ และจากการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป การบริหารจัดการความเสี่ยงและมองหาโอกาสใหม่ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของ TOG ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
- ไตรมาส 4 Outlook จะเป็นอย่างไร?
- ออสเตรเลีย: เป็นช่วง Peak Period คาดการณ์ไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว
- สหรัฐฯ: เริ่มมี Traction จาก Target Customer แต่ยังไม่กลับมาครบตามที่ตั้งใจ
- แผนตั้งโรงงานในต่างประเทศ และ Dividend Payout?
- แผนตั้งโรงงานถูกชะลอลงก่อน
- Dividend Payout: จะขออนุมัติจากกรรมการบริษัท ให้สูงกว่าปีก่อน แต่ขึ้นอยู่กับ Net Profit ที่ทำได้ในปีนี้
- แนวโน้มไตรมาส 4/2569 เทียบ YoY จะโตไหม?
- น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
- เป้าหมายทั้งปี 2569?
- รายได้: คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปี 2568 แม้มี challenges จากอัตราแลกเปลี่ยน
- Tariff สหรัฐฯ มีผลอย่างไร?
- ถ้าสหรัฐฯ ยกเลิก Tariff: เป็นผลบวกต่อ TOG
- เมื่อเทียบกับคู่แข่งใน Southeast Asia: ไม่ได้ต่างกันมาก กลับสู่ Status Quo
- เมื่อเทียบกับจีน: ยังได้เปรียบอยู่
- สถานการณ์ตลาดในสหรัฐฯ?
- ภาพรวมเศรษฐกิจยังค่อนข้าง Slow
- ลูกค้าส่วนใหญ่ยัง Concern เรื่อง Budget ที่จะใช้
- TOG ได้ Traction ค่อนข้างดี แต่ต้อง Convert Traction เหล่านั้นให้เป็นตัวเลข
- Canada จะมากกว่าสหรัฐฯ: ใน 2-3 ปีนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ตลาดโตคู่กัน
- ผู้ผลิตในเม็กซิโกแย่งตลาด?
- ปัจจุบันยังไม่เห็นข้อเสียเปรียบแบบนั้น
- ผู้ผลิตในเม็กซิโกมี Cost Structure ที่แตกต่างจาก TOG หลายเจ้ามี Cost ที่สูงกว่า
- สถานการณ์ไตรมาส 4 และคาดการณ์ปีหน้า (อเมริกา และ แคนาดา)?
- Q4: เป็นช่วงที่มี Activity เยอะ หวังว่าจะ Conclude Deal ต่างๆ ให้เสร็จ
- สายการผลิตใหม่ ใช้เต็มกำลังหรือยัง?
- ยังมี Capacity เหลือ 20%
- มีความพร้อมในการรับลูกค้าใหม่ๆ
- รายได้จากสหรัฐฯ และแคนาดา?
- สหรัฐฯ ยังโตกว่าแคนาดาอย่างมีนัยสำคัญ
- แคนาดา: มีโอกาสเติบโตสูง จากการขยายสาขาของ Specsavers
- แนวโน้ม US ไม่ดี ทั้งที่จีนส่งไปไม่ได้?
- ปัจจุบันส่งได้ แต่มีต้นทุนทางภาษีที่สูงกว่า
- เหตุผลที่ US ไม่ดี: มีความชะงักงันอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ตอนนี้ Clear ขึ้นแล้ว
- แผนการลงทุนในโรงงานใหม่?
- แนวคิดนี้จะถูกชะลอลงก่อน
- ต้องการเห็นความชัดเจนของการบริหารจัดการเชื่อมโยงกับ Reciprocal Tariff
- บริษัทสูญเสียลูกค้าใน US?
- ไม่ได้สูญเสีย แต่ลูกค้าเปลี่ยนรูปแบบการสั่งสินค้า
- จากเดิม Single Gateway กลายเป็นกระจายให้ Verify Lab (50 คน)
- ต้อง Prioritize 50 คนนี้ ว่าใครมีความสำคัญมากกว่า
- ไตรมาส 4 ยังต้องมี Conversion ต่อ?
- ต้องเชื่อมโยง IT Database และ Setup Platform ร่วมกัน
- หวังว่าจะเริ่มทำงานได้ดีขึ้นสำหรับปี 2569
- เป้ารายได้ปี 2568 ใกล้เคียงปี 2567 ในแง่ของบาทไทยหรือ USD?
- ในแง่ของบาทไทย
- ออสเตรเลียเริ่มกลับมาสั่งหรือยัง? เริ่มกลับมาสั่งแล้ว
- Asia Pacific มีการแข่งขันรุนแรงจากจีน?
- ใช่
- สัญญา Tariff กับลูกค้า?
- FOB CIF: ผลักไปทั้งหมด
- DDP: สร้างสัดส่วนของการช่วยกันแบกรับ
- หลังมี US Tariff มี Order เพิ่มจากสหรัฐฯ?
- มี Movement และ Dynamics ของ Trading จากสหรัฐฯ
- Capacity ของ New RX Automation เท่าไร? Depreciation จะเข้าเมื่อไร?
- Depreciation เข้ามาแล้ว
- Capacity ตอนนี้โดยรวม RX รันอยู่ที่ 80%
- คาดการณ์รายได้ปีหน้า? (คุณชาตรีตอบ)
- ถ้าดูรายได้ที่เป็นเงินบาท อาจดูเหมือนไม่ได้โตเยอะ แต่ถ้าเป็น USD โตค่อนข้างดี
- ปีหน้าคาดว่าโตอัตราใกล้เคียงกับปีนี้ ในมุมของ USD
- ปีหน้าถ้าไม่มีอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้อง รายได้ที่เป็นเงินบาทก็จะโตในทิศทางเดียวกัน
- รายได้จากพันธมิตร Specsaver มากน้อยเพียงใด? มีโอกาสโตอีกไหม?
- 50-55% ของรายได้รวม
- มีโอกาสและมีโอกาสสูง
- ตลาดอังกฤษสำคัญขนาดไหน? Outlook เป็นอย่างไร?
- สำคัญมาก ใช้ Standard Value Add ของ TOG
- มีแผน Develop Portfolio ในส่วนนี้
- Specsaver ใน UK ยังคงเป็น Winner ในตลาด
- ยังคงครอง Market Share อันดับ 1
- ตลาด Africa เน้น Product อะไร RX ไหม?
- เน้น Product RX เพราะมีข้อจำกัดของประเทศต่างๆ ใน Africa
- ลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาล อีกส่วนเป็น Chain ร้านแว่นตา
- คุณธร ยังจะเป็น CEO อีกกี่ปี?
- Retire ตามอายุที่กำหนดในบริษัท (60 ปี)
- ต้นทุนสินค้าจีนทำได้ถูกกว่าเรามากไหม?
- มีบาง Category ที่สู้ไม่ได้เลย (ราคาถูก)
- ความแตกต่างด้าน Tariff ใน US อยู่ที่ 10%
- พอจะให้ Guidance สำหรับการเติบโตในภูมิภาค Africa สำหรับ Q4?
- ยังประมาณความแม่นยำไม่ถูก
- ตัวเลขเห็นกัน สร้างไว้ เจรจาไว้แล้ว แต่ความมั่นใจว่าจะ Deliver ได้ตามตัวเลขตรงนั้น ยังไม่มากพอที่จะพูด
- Ty up กับ Partner หลัก (Specsaver) เป็นครั้งแรก ที่ทำการค้าด้วยกันขนาดนี้
- จะ Push Product ที่ Launch กัน จะเป็นกลุ่ม RX
- มีการทำตลาดในอินเดีย?
- มีคู่ค้าอยู่ในอินเดีย ลูกค้าเพิ่ง IPO ไป
- Gross Profit Margin Target ในปีนี้ วางประมาณเท่าไร?
- Average ประมาณ 22-23%
- แนวโน้ม FX ในปีหน้า มองว่ามีการฟื้นตัวบ้างหรือไม่? มีผลกับต้นทุนขายมากน้อยแค่ไหน?
- FX ปีหน้าไม่น่าจะอ่อนมาก ค่าเงินบาทปีที่แล้วไม่ดีดอ่อนมากนัก
- แนวโน้มใกล้เคียงกับปีนี้
- มีผลกับต้นทุนขายบ้าง เพราะมีวัตถุดิบบางส่วนที่ซื้อจากต่างประเทศ