สรุปงบล่าสุด TIGER
บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) ประสบปัญหาเรื่องกระแสเงินสดในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 ส่งผลให้ยอดขายและรายได้ลดลงอย่างมาก 114.33 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25.70% แม้ว่าจะมีโครงการในมือเพิ่มขึ้นถึง 15 โครงการ ส่วนกําไรขั้นต้นลดลง 19.05 ล้านบาท คิดเป็น 50.82% จากเดิม 8.43% เหลือเพียง 5.58% ซึ่งเกิดจากการปรับประมาณการต้นทุนการก่อสร้างของโครงการภาครัฐ ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทขาดทุนสุทธิ 10.25 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 2.36 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มบุคลากรโดยเฉพาะวิศวกรระดับปฏิบัติงาน เพื่อรองรับปริมาณงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของบริษัทในอนาคต เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านการพัฒนาบุคลากร เช่น การให้ความรู้ทั้งทักษะทางวิศวกรรม ทักษะการบริหาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในงาน เพื่อเพิ่มความสุขในการทำงาน ลดอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร นอกจากนี้ บริษัทยังชะลอการรับและประมูลงานลง เนื่องจากมีปริมาณงานในมือเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ในอนาคตอีกไม่น้อยกว่า 12 เดือน และประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจในอนาคตมีความไม่แน่นอนสูง บริษัทจึงพิจารณาหยุดประมูลงานและรับงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงานภาคเอกชน เช่น คอนโดมิเนียม ที่อยู่อาศัยส่วนตัวราคาสูง แต่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกงานภาคเอกชนประเภทที่มีโอกาสในการเจริญเติบโต อันได้แก่ งานก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท ที่ยังคงไปได้ดี และงานก่อสร้างโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่
การลงทุนใน TIGER อาจมีความเสี่ยงจากปัญหาเรื่องกระแสเงินสดและการเก็บหนี้ ซึ่งส่งผลต่อความก้าวหน้าของงานล่าช้าลง อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข และคาดว่าปัญหาจะคลี่คลายลงในไตรมาส 3 ปี 2567 จุดเด่นของบริษัทคือมีปริมาณงานในมือมาก ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง ทำให้ผลประกอบการโดยรวมไม่น่าประทับใจ เมื่อพิจารณาจาก P/E ล่าสุดที่ 3644.7 และ P/BV ล่าสุดที่ 0.45 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความคาดหวังสูง แต่ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ TIGER มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และ D/E ที่ 0.65 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินสูง การลงทุนใน TIGER จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความอดทนสูง และพร้อมรับความเสี่ยง และรอการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
(3.79%)
(40.54%)
(65.67%)
(77.26%)
(64.33%)
(61.74%)
(13.97%)
(23.09%)
(1,012.02%)
(87.64%)
(1.16%)
(1,029.79%)