สรุปงบล่าสุด THG
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**บทสรุปผลประกอบการของ หุ้น THG บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2568**
**ภาพรวมผลการดำเนินงาน**
ในไตรมาส 3/2568 THG มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 2,315.51 ล้านบาท ลดลง 8.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 9.13% จากสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.45% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนและปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 17.86 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษนี้ กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 19.41 ล้านบาท (หน้า 3)
**สถานการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม**
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 อุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชนยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ความระมัดระวังในการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการระบาดของโรคตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ต้นทุนแรงงานและเวชภัณฑ์ที่สูงขึ้น รวมถึงความล่าช้าในการเบิกจ่ายค่ารักษาจากสิทธิภาครัฐบางส่วน ยังคงเป็นแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของอุตสาหกรรมโดยรวม พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและองค์รวมมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการเร่งพัฒนาบริการสุขภาพเชิงป้องกัน และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ (หน้า 2)
**การวิเคราะห์รายได้และกำไร**
* **รายได้:** รายได้จากกิจการโรงพยาบาลลดลง 9.13% ในไตรมาส 3/2568 และ 5.40% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 สาเหตุหลักมาจากรายได้ผู้ป่วยในที่ลดลงเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามีน้อยลง สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว และการระบาดของโรคตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป (หน้า 5)
* **ต้นทุน:** ต้นทุนขายสินค้าและบริการลดลง 3.82% ในไตรมาส 3/2568 และ 4.54% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง และการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง (หน้า 6)
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.49% ในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 22.24% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน (หน้า 9)
* **อัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 0.22% ในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก -18.36% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน (หน้า 9)
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 20,695.23 ล้านบาท ลดลง 0.91% จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น เงินลงทุนระยะสั้นและระยะยาว และอาคารอุปกรณ์ สิทธิการใช้ และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (หน้า 8)
* **หนี้สิน:** หนี้สินรวมของบริษัทอยู่ที่ 6,237.91 ล้านบาท ลดลง 50.59% จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของเจ้าหนี้สถาบันการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาว (หน้า 8)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.43 เท่า ลดลงจาก 1.53 เท่า ณ สิ้นปี 2567 แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น (หน้า 9)
**กระแสเงินสด**
* กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวกที่ 838.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 657.29 ล้านบาทในปีก่อนหน้า (หน้า 10)
* กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนจำนวน (528.61) ล้านบาท เนื่องจากการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่และศูนย์การแพทย์ต่างๆ (หน้า 10)
* กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 319.15 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มทุนและการชำระหนี้ (หน้า 10)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**
* **ความเสี่ยง:** ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันในอุตสาหกรรมโรงพยาบาล
* **โอกาส:** การเติบโตของธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ การขยายบริการด้านสุขภาพเชิงป้องกัน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ (หน้า 2)
**แนวโน้มในอนาคต**
บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการยกระดับศักยภาพธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ และตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพที่หลากหลาย บริษัทมีโครงการลงทุนที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดให้บริการอาคารผู้ป่วยใหม่ของโรงพยาบาลธนบุรีทวีวัฒนา และการเปิดศูนย์รังสีรักษาและศูนย์การแพทย์ธนบุรีลันตา (หน้า 10)
**สรุป**
THG มีผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่ารายได้จะลดลง แต่บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้เนื่องจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดลงของต้นทุนทางการเงิน ฐานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นจากการเพิ่มทุนและการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันในอุตสาหกรรมโรงพยาบาล
(1.52%)
(14.92%)
(8.77%)
(21.14%)
(7.16%)
(7.31%)
(0.82%)
(3.40%)
(186.36%)
(101.45%)
(184.01%)
(12.69%)